iLaw
10h ·
7 เมษายน 2564 ศาลอาญานัดพิจารณาคดีจากการชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 19ถึง 20 กันยายน 2563 ที่ท้องสนามหลวง โดยนัดนี้เกิดขึ้นจากการที่ทนายความโต้แย้งว่า ฝ่ายอัยการส่งหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอการปราศรัยของจำเลย แต่จำเลยซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำไม่สามารถตรวจดูหลักฐานที่ใช้เอาผิดตัวเองได้ ศาลจึงนัดหมายให้จำเลยมาศาลเพื่อเปิดวิดีโอหลักฐานให้จำเลยได้ดู
.
มาตรการที่ศาลอาญาวันนี้ เข้มงวดขึ้นกว่าเดิม ซึ่งก็เข้มงวดมากอยู่แล้ว มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในชุดสีน้ำเงินตั้งรั้วเพื่อให้ทุกคนที่มาศาลต้องลงทะเบียน แสดงบัตรประชาชน แจ้งเหตุผลว่ามาศาลทำอะไร และเป็นคู่ความในคดีหรือไม่ โดยตั้งรั้วชั้นแรกตั้งแต่ลานจอดรถ ชั้นที่สองบันไดทางขึ้นอาคารศาล และยังมีรั้วชั้นที่สามหน้าลิฟท์ชั้น 7 ทางเข้าห้องพิจารณาคดี 704 ซึ่งเป็นห้องพิจารณาคดีนี้
.
จำเลยที่ถูกพาตัวมาจากเรือนจำวันนี้ได้แก่ พริษฐ์ หรือเพนกวิน ที่นั่งรถเข็นมาพร้อมกับสายน้ำเกลือ และมีเจ้าหน้าที่พยาบาลดูแลใกล้ชิดเพราะอดอาหารเป็นวันที่ 23 แล้ว, ปนัสยา หรือรุ้ง ซึ่งอดอาหารเป็นวันที่ 8 แล้ว อานนท์ นำภา, สมยศ พฤกษาเกษมสุข, ปติวัฒน์ หรือหมอลำแบงค์, จตุภัทร หรือไผ่, ภาณุพงศ์ หรือไมค์, ชูเกียรติ หรือจัสตินและไชยอมร หรือแอมมี่
.
เจ้าหน้าที่แจ้งว่า อนุญาตให้เฉพาะทนายความที่แต่งตั้งแล้วเข้าไปในห้องพิจารณาคดีได้ ส่วนคนอื่นที่มาฟังการพิจารณาคดี และพ่อแม่ รวมทั้งญาติของจำเลยให้ไปนั่งดูการถ่ายทอดทางวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่ห้องเวรชี้2 โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่า ผู้พิพากษาเจ้าของคดีเป็นคนออกคำสั่งนี้เนื่องจากต้องเพิ่มมาตรการป้องกันโรคโควิด ทำให้แม่ของอานนท์ แม่ของพริษฐ์ แม่ของภาณุพงศ์ พ่อแม่ของปนัสยา และพ่อแม่ของไชยอมรที่มารอพบลูกต้องรออยู่บริเวณหน้าลิฟท์เท่านั้น
.
เมื่อศาลขึ้นบัลลังก์ในเวลาประมาณ 10.10 ทนายความแจ้งศาลเพื่อขอให้ญาติของผู้ต้องหาเข้ามาฟังการพิจารณาคดีในห้องได้ แต่ศาลตอบว่า ศาลได้ออกคำสั่งนี้ไปแล้วจึงไม่อยากเปลี่ยนแปลงคำสั่งของตัวเอง และต้องป้องกันโรคโควิด นัดวันนี้เป็นนัดพิเศษที่ไม่จำเป็นแต่ศาลก็นัดให้ ขอให้นั่งดูวิดีโอหลักฐานไปเฉยๆ ส่วนในวันพรุ่งนี้ 8 เมษายน 2564 จะนัดตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งหนึ่งและจะอนุญาตให้ญาติของจำเลยเข้าห้องได้
.
ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ที่ 5 เมษายน 2564 ทนายจำเลยได้ยื่นขอประกันตัวจำเลยทุกคน และไต่สวนจำเลยสามคน คือ ไผ่ แบงค์ และสมยศ พร้อมกับแม่ของไผ่ว่า จำเลยยอมรับที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดขึ้นในการประกันตัว ศาลไต่สวนแล้วบันทึกไว้โดยยังไม่สั่งเรื่องคำร้องขอประกันตัว แต่นัดว่าจะสั่งในวันศุกร์ที่ 9 เมษายน 2564
.
ในวันนี้เมื่อทนายความขอให้แม่ของจำเลยได้เข้าพบและปรึกษากับจำเลย ผู้พิพากษาที่พิจารณาคดีซึ่งไม่ใช่คนเดียวกับที่พิจารณาเรื่องการขอประกันตัว จึงบอกว่าจะให้แม่ของจำเลยเข้ามาพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขการประกันตัวได้ โดยให้เข้ามาทีละสองคนและให้พูดคุยคนละไม่เกิน 10 นาที ผู้พิพากษาเรียกให้แม่ของอานนท์กับแม่ของภาณุพงศ์เข้ามาก่อนเป็นสองคนแรก แล้วจึงเรียกแม่ของพริษฐ์และพ่อของปนัสยาเข้ามาเป็นลำดับที่สอง ส่วนแม่ของไชยอมรไม่ได้เข้าเพราะคดีนี้ไชยอมรไม่ถูกตั้งข้อหามาตรา 112 เมื่อพ่อแม่แต่ละคนเข้ามาในห้องพิจารณาคดี ศาลเรียกไปคุยที่ใต้บัลลังก์ก่อนแล้วจึงให้ไปนั่งคุยกับลูกโดยกำชับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ให้ดูแลไม่ให้มีการส่งเอกสารใดๆ ออกไปข้างนอก และเรียกหัวหน้าเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไปพูดคุยด้วย
.
ทราบภายหลังว่า ภาณุพงศ์ พริษฐ์ และอานนท์ แถลงไม่รับเงื่อนไขการประกันตัวใดๆ โดยอานนท์บอกกับผู้พิพากษาว่า การกำหนดเงื่อนไขเป็นอำนาจของศาล หากศาลเห็นควรให้ประกันโดยมีเงื่อนไขก็ให้กำหนดไว้ในคำสั่งประกันตัว แล้วอานนท์จะตัดสินใจเองว่าจะปฏิบัติตามหรือไม่ หากปฏิบัติไม่ถูกต้องก็จะถูกยกเลิกสัญญาประกันตัวตามขั้นตอนปกติ ด้านปนัสยา แถลงเพียงว่า ต้องกลับไปศึกษาต่อให้จบและจะปฏิบัติตามเงื่อนไขหากศาลกำหนดเงื่อนไขในการประกันตัว
.
หลังจากนั้นศาลเริ่มเปิดวิดีโอบันทึกการปราศรัยที่เป็นหลักฐานในคดีนี้ให้ดู และศาลลงจากบัลลังก์ โดยจำเลยทุกคนถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องพิจารณาคดีและเจ้าหน้าที่เอาอาหารและน้ำมาให้รับประทานตอนเที่ยงในห้องพิจารณาคดีเลย โดยที่แม่ของจำเลย และครอบครัวที่มารอพบต้องนั่งรออยู่บริเวณหน้าลิฟท์
.....