วันอังคาร, เมษายน 06, 2564

เฮ้อ...ตะเอ็งต้องหัดทำตัวเป็น ‘ฅน’ มีน้ำยาเสียก่อนที่จะ ‘ด่ากราด’ ประชากร


“เฮ้อ...” เขาถอนหายใจแล้วทิ้งช่วง หยุด ‘ranted’ ไปหลายอึดใจ รายการตู่มอบนโยบายพวกผู้ว่าฯ จังหวัดและนายกฯ อบจ. เมื่อวันวานที่เต็มไปด้วยการ ด่ากราด คน (ประเทศไทย) ว่า “เหมือนกับเอาทุกอย่างมาคนกันอยู่ในโถน่ะแหละ”

จะบอกว่าหลายๆ คน “มันจะยุ่งไปหมด...โทษกันมา โทษรัฐบาล...โทษแต่เจ้าหน้าที่อยู่นั่นแหละ ใช่ เขามีหน้าที่ในการช่วยเหลือดูแล มีหน้าที่ในการติดตามการบังคับใช้กฎหมาย แต่มันมีการเล็ดลอดทุกอย่าง” ก็นั่นละหน้าที่ของใครแก้ไข บ่นหาไร

พูดถึง จิตสำนึก พูดถึงการฝืนมาตรการ “คนที่จะเอาชนะกฎหมายทุกตัว ต้องเรียกว่าเลว” แต่คนที่ออกแบบและบิดเบือนกฎหมายให้ตนได้เปรียบเลวกว่านะทั่น เพราะความที่พวกคุณมรึงตีความกฎหมายเบี้ยวๆ เดี๋ยวนี้มันไร้ทั้งศักดิ์ศรีและความศักดิ์สิทธิ์

ยังมีหน้ามากล่าวหาชาวบ้าน “ทำลายขวัญเจ้าหน้าที่...บ่อนทำลายกัน” อย่างที่มีบริษัทต่างชาติตรวจสอบพบว่ามีผู้พิพากษาศาลฎีกาคอรัปชั่น ทำลายขวัญและบ่อนทำลายศักดิ์ศรีของชาติเป็นไหนๆ ถ้าอยากจะรวมใจคนทั้งชาติ ตะเอ็งต้องหัดทำตัวเป็น ฅนเสียก่อน

เรียนรู้การมีจิตสำนึกประชาธิปไตย จึงจะเรียกศรัทธาจากประชาชนได้ ขนาดอ้างว่าทำมา ๖ ปี “สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง” แล้วไม่สบายใจ ลองเอาหัวแม่เท้าตรองดูแล้วกัน ว่าประชากรเขาต้องสะบักสะบอมขนาดไหน ในเมื่อความไม่สำเร็จมากกว่าค่อน

ปัญหามันอยู่ที่คุณเฮียไม่เพียงไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเรื่องปากท้องของ ฅน ที่ถูกปกครอง แล้วยังทำตัวเป็นหัวหอกของพวกปรสิตที่เกาะกินบนหลังประชากร จะพูดจะจามักสามหาว ก้าวร้าว เกรี้ยวกราด โทษแต่ชาวบ้านไม่ยอมทำตามสั่ง

ทั้งที่ในส่วนของตน ตั้งแต่คณะรัฐมนตรีลงไปถึงระดับลิ่วล้อและผู้ปฏิบัติการ ไม่เพียง ไร้น้ำยา ตามธรรมดาของพวก รปภ. หากแต่หลายตนจงใจเอาเปรียบด้วยกฎหมาย ทำลายคู่แข่งและฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง กันเป็นนิจสินในยุค ๖-๗ ปีนี้ละ

อย่าง ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปีอันเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบกำกับอำนาจให้อยู่ในมือพวกตนระยะยาว ผู้คนวิพากษ์กันหนักว่า เพราะพวก คสช.ตั้งใจอยู่นาน ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพิ่งจะมารู้สึกตัว ปฏิเสธยกใหญ่ว่าเขียนไว้ “เป็นกรอบไม่ให้เดินสะเปะสะปะ”

อภิโถ มุสา ถ้าอยากได้กรอบทำงาน เขียนเป็นบันทึกส่วนตัว หรือแนวทางปฏิบัติพาะคณะรัฐมนตรีก็ได้นี่ นี่ออกเป็นกฎบัตรเคียงข้างรัฐธรรมนูญ ลักษณะฟาสซิสต์ไม่ใช่ประชาธิปไตย ขณะที่ความประพฤติปฏิบัติของรัฐมนตรีหลายต่อหลายคนเละตุ้มเป๊ะ

อาทิตย์ที่แล้ว ส.ส.หญิงคนสวยของพรรครัฐบาลปิดถนนเล่นเสก็ตบอร์ดในชุดไทย ไม่ก่อประโยชน์อะไรในทางสาธารณะนอกจากพวกพ้องเดียวกันได้สังสรรค์เฮฮา ค่าใช้จ่ายของทางการจากการปิดถนนและจัดเจ้าหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกก้หลายล้านอยู่


อาทิตย์นี้มีเรื่องหลุด รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ หลายคนรวมทั้ง สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ (พลังงาน) ศักดิ์สยาม ชิดชอบ (คมนาคม) และ อธิรัฐ รัตนเศรษฐ (รมช.) “ต้องรีบออกมาเคลียร์กันปากสั่น ยืนยันไม่ได้ไปเที่ยวสถานบันเทิง คลัสเตอร์ ย่านทองหล่อ”

บทความ ไทยรัฐ อัดแรง “รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจต้องมาเคลียร์ปมเสี่ยงติดโควิดในผับ” แทนที่จะสุมหัวกัน “รับมือสถานการณ์เงินบาทไทย ที่กำลังร่วงทะลุ ๓๑ บาทต่อดอลลาร์ ทำสถิติอ่อนค่าหนักสุดในรอบ ๖ เดือน” สาเหตุตลาดการเงินไม่เชื่อมั่นสกุลบาท

“เพราะปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่ตกต่ำต่อเนื่อง ตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศไทยไตรมาส ๔ ปี ๒๕๖๓ ขาดดุลสูงถึง ๑,๔๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า ๔๔,๘๐๐ ล้านบาท เป็นการขาดดุลเดินสะพัดครั้งแรกในรอบ ๖ ปีครึ่ง”

อย่างนี้แล้วจะเรียกร้องให้ใครมามีศรัทธา ประชากรช่วยอะไรไม่ได้ สิ่งที่ควรทำไม่ใช่การถ่มถุย เดี๋ยวด่ากราด เดี๋ยวสำออย ต้องยอมรับความจริงว่าตนเอง ห่วยแล้วยังเอาเปรียบประชาชน พิจารณาตนสะบัดก้นออกไปซะ คนเก่งจริงจะได้เข้ามาทำแทน

(https://www.thairath.co.th/news/politic/2064193, https://twitter.com/Thairath_News/status/1378990887452037120 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_2658429)