วันอังคาร, มีนาคม 02, 2564

“มีคนที่เมื่อขว้างปาระเบิดหรือวัตถุแล้วก็หลบไปอยู่หลังแนวตำรวจ" ถึงต้องสองถุยสำหรับพวกนายๆ ตำรวจ


สองถุยสำหรับพวกนายๆ ตำรวจ ผบ.ตร.คนหนึ่งละ ถามห่านไรยูเอ็นไหน ก็ยูเอ็นที่ไม่ใช่พ่อง แต่ไทยเซ็นปฏิญญาเอาไว้ ไม่งั้นเขาไม่ให้อยู่ในประชาคมอารยะนั่นละ อีกคน ผบช.น. ทำสำออยอ้างตำรวจบาดเจ็บตั้งเก้าสิบ ตายหนึ่ง

แต่ที่ตายนั่นเพราะหัวใจวาย จากการตรากตรำไม่ค่อยได้หลับนอน เดี๋ยวเรียก เดี๋ยวเร่งไปคุมม็อบ ร่างกายสู้ไม่ไหว เป็นอย่างนี้มานานแล้ว จะขอลาออกไปทำมาค้าขาย แม่งไม่ยอมให้ออก แล้วทั่นนายพลต๊ะวิชัยเอามาอ้างตายในม็อบ

แถมอีกถุย พวกนายๆ นี่แหละแห่กันไปเยี่ยมตำรวจนอนเตียงคนไข้อย่างดี แต่แจ้งความดำเนินคดีกับเยาวชนวัย ๑๖ ปี ที่ถูกกระสุนยาง (แข็ง) เข้ากลางหลัง “มีผู้หญิงที่วิ่งอยู่ด้านหน้าของผมหกล้ม พอผมเข้าไปช่วยดึงเขาขึ้นมาก็มีกระสุนยิงมาที่หลังของผม

...แล้วผมก็โดนจับ แล้วมันก็จับผมกดลงกับพื้นแล้วก็กระทืบ เอากระบองฟาด เตะ” นี่จากคำเล่าเหตุที่เกิดจากปากของ สายน้ำ หนึ่งในสี่เยาวชนที่โดน ๖ ข้อหา ร่วมกับผู้อยู่ในบริวณชุมนุมอื่นๆ อีก ๑๙ ราย อ้างว่าเพราะไปชุมนุมกันในเขตพระราชฐาน

ทำยังกับว่าถ้าไปจุ้นจ้านในเขตวัง ต้องใช้ความรุนแรงกระนั้นหรือ ช่างเป็นวังที่โหดเหี้ยมเสียนี่กระไร ได้ยินหมอทศพรพูดบ้างไหม “ฝากเตือนสติไปยังตำรวจ ว่าอย่าใช้ความรุนแรงกับประชาชน เพราะประชาชนไปอย่างสันติ

หากเจอใครที่ใช้ความรุนแรงหรืออาวุธ ตำรวจก็สามารถมาควบคุมตัวไปดำเนินคดีได้อยู่แล้ว” แต่ที่เห็นในคลิปจะจะ “มีคนที่เมื่อขว้างปาระเบิดหรือวัตถุแล้วก็หลบไปอยู่หลังแนวตำรวจ...เหมือนมีความพยายามที่ต้องการจุดชนวน

เหตุใดตำรวจจึงปล่อยคนลักษณะนี้ไว้ไม่ดำเนินการ” นั่นสิ อย่างกุ๊ยแฟล็ทดินแดงงี้ พวกนายๆไม่ยักพูดถึงบ้าง ไม่งั้นต้องฟัง สิฟัง นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.แพร่บอกกรอกหู หน้าที่ของตำรวจ “ท่านต้องอำนวยความสะดวก

เรื่องการจัดการจราจร และป้องกันไม่ให้เกิดมือที่สาม ไม่ใช่มาทำหน้าที่สลายการชุมนุม” แล้วตอแหลท่าโน้นท่านี้ ยิ่งตัวหัวหน้าใหญ่ในทำเนียบยิ่งสะบัดลิ้นเก่งที่สุด หาว่าเป็นเพราะสื่อเสนอแต่รายงาน (และภาพ) ที่ประชาชนโดนตำรวจตี

ก็มันเป็นเช่นนั้น ทั้งนักข่าวและคนที่ไปสังเกตุการณ์ม็อบหน้า ร.๑ รอ. วิภาวดี แล้วไปต่อที่หน้า สน.ดินแดง สถานที่เกิดความรุนแรง ดเล่าตรงกันจากการขว้างปาขวดน้ำพล้าสติกและขวดแก้วใส่แนวตำรวจ มีการจุดไฟหน้าซุ้มประตู สักพักจึงดับ

และดึงสายไฟทำลายของโดยกลุ่มผู้ก่อเหตุราว ๑๐ คน “หายไปทางสามแยกมิตรไมตรีฯ (มีคนบอกว่าขึ้นรถกระบะออกไป...) โดยระหว่างที่มาก่อเหตุไม่มีตำรวจออกมาจับกุมแต่อย่างใด” Karnt Thassanaphak นักข่าวคนหนึ่งเขียนเล่าความต่อ

“คฝ. กลุ่มหนึ่ง ใช้โล่ใสและ โล่ดำ รวม ๓-๔ อัน กำบังตัวเดินย่อตัว (เดินแบบย่องๆ) เข้ามาหาสื่อ เข้ามาใกล้ๆ แล้วจึงเห็นว่ามีปืนยาวมาด้วย (ปืนไรไม่รู้ ถามก็ไม่ตอบ) แล้วบอกให้สื่อขึ้นไปอยู่บนฟุตปาธให้หมด” ยังมี “ชายฉกรรจ์ ๒๐-๓๐ คน

ส่วนใหญ่สวมหมวกกันน็อค ใส่หน้ากากปิดหน้า มือถือท่อนไม้/แป๊บ เดินมาจากทางวิภาวดี กรูเข้ามาหากลุ่มสื่อพร้อมกับตะโกนขับไล่...บอกว่าพวกตนเป็น เด็กแฟล็ท ออกมาขับไล่ผู้ชุมนุม เพราะไม่พอใจที่มาก่อความเดือดร้อน”


ไม่เฉพาะผู้ชุมนุมทั่วไปที่โดนข่มเหง สื่อมวลชนจำนวนมากถูกตำรวจคุกคามและข่มขู่ ดังรายงานของ @ThaiPressCo ที่ว่า “ตร.คฝ. ขึ้นมาคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ผลักดันลงจากสะพานลอยให้ไปฝั่งตรงข้าม ทั้งใช้คำพูดหยาบคาย ใช้กำลังผลัก”

นักข่าวที่เป็นสื่อทางเลือก ไม่ว่าประชาไท ว้อยซ์ เดอะรีพอร์ตเตอร์ เดอะสแตนดาร์ด เดอะแม้ทเทอร์ ไอลอว์ ศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน เหล่านี้ได้ชี้ให้เห็นความก้าวร้าวของทางการในการปกป้องสถาบันกษัตริย์มากขึ้น ขณะที่ สายหลัก ยังปากหนักเหมือนเดิม

จนเป็นประเด็นให้ถกเถียงและแบ่งปันกันในคลับเฮ้าส์ ซึ่ง จอมขวัญ หลาวเพชร จัดห้องสนทนาขึ้นว่าของใครนายทุนจำกัดแนวให้หรือไม่ ขนาดไหน เช่น ต่าย (ไทยรัฐ) ว่า “เขาจะไม่ได้สั่งห้าม แต่จะแนะนำว่าอะไรควรเลี่ยง”

ส่วน โอ๊ต (เนชั่น) สนองเรื่อง สถาบันกษัตริย์“นำเสนอไม่ได้ เพราะความไม่คุ้นชิน และจุดยืนเนชั่นเองยึดที่จะปกป้อง อะไรที่หมิ่นเหม่อย่าให้เห็น อย่าออก” แต่ พลอย (เวิร์คพอยท์) “ตีโจทย์ว่าต้องทำให้คนเห็นว่าคนที่พูดเรื่องนี้ (ขยับเพดาน) ก็เป็นคนเหมือนกัน”

เอม (เวิร์คพอยท์) เสริม “วงการสื่อสารมวลชนมันไม่ทันสังคมอยู่แล้ว ประเด็นมันไม่ถูกยกระดับไปในสิ่งที่คนพูด คนไม่ได้ห่วย แต่ระบบที่เป็นตอนนี้ทำให้เด็กจบใหม่ทำงานยาก” และกับกิจกรรมรณรงค์ #สื่อมีไว้ทําไม จะเบี่ยงเบนทิศทางได้เพียงใด คอยตามดูกัน

(https://www.facebook.com/pinky.buquade/posts/10224636538794989, https://www.facebook.com/karnt.thassanaphak/posts/3986726724704966, https://www.facebook.com/photo/?fbid=1900632763429407&set=a.241825182643515 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_2603491)