วันศุกร์, มีนาคม 05, 2564

โฆษก กอ.รมน.ทำ ‘พีอาร์’ "บิดเบี้ยวความจริง...ก้าวร้าวล่วงล้ำสิทธิมนุษยชน"


ดูเหมือนโฆษก กอ.รมน.จะไม่ถนัดอ่านอังกฤษ ข่าวรอยเตอร์ที่บอกว่าเฟชบุ๊คปิดบัญชี ไอโอ ๑๘๕ ราย ที่เกี่ยวโยงอยู่กับกองทัพไทย เขาไม่ได้บอกว่าพวกห่านนั่นเป็นเพจ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในฯ เสียหน่อย จ้อยอยู่ได้ว่า

“งานโซเชียลมีเดียของ กอ.รมน. มีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมผลงานของ กอ.รมน. สร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ให้กับประชาชนได้อย่างรวดเร็ว” บลา บลา แถม “ไม่ทราบถึงการถูกถอดบัญชีเฟซบุ๊กตามที่เป็นข่าว

เนื่องจากการใช้งานของเฟซบุ๊กเป็นบัญชีส่วนบุคคล ไม่มีความเกี่ยวข้องกับองค์กร (กอ.รมน.) การลบบัญชีจากเฟซบุ๊กถือเป็นการลบบัญชีส่วนบุคคล ปัจจุบันเฟซบุ๊กของ กอ.รมน. ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ” แหงละ เขาไม่ได้ลบเพจ กอ.รมน.นี่

ทางที่ดี ต่อไปนี้ต้องตั้งหน่วยไอโอภาคภาษาอังกฤษ เอาพวกเก่งฟุตฟิตฟอไฟมาเล่น ว่าที่จริงสิ่งที่รอยเตอร์อ้างถึง เป็นการปิดหน้าเฟชบุ๊คที่เกี่ยวกับปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังไม่ถึงขั้นที่ไอโอทหารไล่งับบรรดานักประชาธิปไตยทั้งหลาย

แบบที่โดนทวิตเตอร์จัดการสั่งสอนไปแล้ว ๙๒๖ รายการเมื่อเดือนตุลาคมที่แล้ว อันนั้นทวิตเตอร์บอกว่าเกี่ยวโยงกองทัพไทยโดยตรง เพราะทวี้ตโปรโมทกองทัพและรัฐบาลประยุทธ์ดะไปหมด อีกทั้งต่อมาในเดือนพฤศจิกา ทวิตเตอร์ระงับการใช้งานของบัญชีอวยเจ้าด้วย

แล้วที่เฟชบุ๊คแจ้งจะจะ ก็ว่าปิดบัญชี ส่วนบุคคลที่มีพฤติกรรมในการโพสต์ชนิดเป็นเท็จ ‘deceptive=บิดเบือนไม่ได้ปิดบัญชีทางการเสียหน่อย ทั่นโฆษกฯ ไม่จำเป็นต้องย้ำหัวตะปูอีกว่า “การลบบัญชีจากเฟซบุ๊กถือเป็นการลบบัญชีส่วนบุคคล”

แน้ทธาเนียล ไกล๊เชอร์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายความมั่นคงไซเบอร์ของเฟชบุ๊คระบุว่า ได้พบการเชื่อมโยงชัดแจ้งว่าบัญชีส่วนบุคคลเหล่านั้นพัวพันกับปฏิบัติการของ กอ.รมน. ประดุจ “เป็นข่ายงานเดียวกัน” มีการบริหารจัดการทั้งบัญชีปลอมและจริง

การลบบัญชีไอโอเหล่านั้นไม่ได้เพ่งเล็งที่เนื้อหา มากเท่าพฤติกรรม ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการโพสต์เชียร์กองทัพสุดกู่หรืออวยเจ้าสุดลิ่ม และใส่ร้ายป้ายสีขบวนการแยกดินแดนว่าโหดเหี้ยมรุนแรง แต่เมื่อระดมกระทำซ้ำซากปราศจากหลักฐาน ย่อม ‘deceptive’

ทางที่ดี พล.ต. ธนาธิป สว่างแสง เตรียมข้อโต้แย้งไว้แจ้งกับศาลจะดีกว่าการทำ พีอาร์บิดเบี้ยวความจริงต่อประชากรอย่างนี้แล้วฟังไม่ขึ้น ไหนๆ สามนักกิจกรรมเพื่อคลองธรรมประชาธิปไตยได้ยื่นฟ้องกองทัพบกไว้ต่อศาลปกครองแล้ว


สฤณี อาชวานันทกุล ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ และวิญญู วงศ์สุรวัฒน์ นำเอกสารข้อมูลเพียบ ระบุปฏิบัติการไอโอของกองทัพที่กระทำก้าวร้าวล่วงล้ำสิทธิมนุษยชนต่อพวกตน ยกตัวอย่างเช่นข้อความว่าร้ายโจมตี @johnwinyu ว่า

“กูโคตรจะเกลียดมึงเลย เป็นดาราเสือกมายุ่งเรื่องการเมือง ไอ้ขยะ” กับ @ILawclub ว่า “ไอ้ส้นตีน” กับ @Sirawith_S “ไอ้เด็กนรก ไปตายซะ” กับ @tanawatofficial “ผมขอแนะนำให้คุณบอล ไปที่ชอบที่ชอบสะนะ ไร้ประโยชน์จริงๆ คุณ”

นั่นเป็นส่วนหนึ่งในเนื้อหาของเอกสารหลักฐานคำฟ้อง “กองทัพบกทำปฏิบัติการไอโอโดยมิชอบ ชี้ ทำเป็นกระบวนการและมีการจัดหมวดหมู่ ใครชอบใครเกลียดรัฐบาลชัดเจน ระบุใครเห็นต่างก็จะถูกหยามเหยียดทำให้ด้อยค่า”

ผู้ร้องเก็บข้อมูลส่วนหนึ่งจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่ง “เป็นเอกสารของทางราชการ ที่ออกโดยกองทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบหมายการปฏิบัติให้กับเจ้าหน้าที่ทหารปฏิบัติการ” อีกส่วนค้นคว้าจากฐานข้อมูลของทวิตเตอร์


“ทวิตเตอร์เผยแพร่ข้อมูลนี้เมื่อวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๓” Yingcheep Atchanont เขียนเล่าเบื้องหลังการค้นหาหลักฐาน ว่าการปิดบัญชีไอโอไทย “ซึ่งเป็นประเทศที่ปิดไปมากที่สุด...รู้ว่าวันๆ นึงทวี้ตอะไรบ้าง ข้อมูลเยอะมากกว่า ๒๐,๐๐๐ รายการ”

ยิ่งชีพ แห่งไอลอว์แจงอีกว่า “พวกเราทั้งสามคนหวังว่า การยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองจะทำให้ได้คำสั่งศาลเพื่อยุติพฤติกรรมเหล่านี้ การยื่นหนังสือต่อเฟซบุ๊ก จะทำให้เฟซบุ๊กขยันตรวจสอบและเปิดเผยแบบทวิตเตอร์บ้าง” และ

“ถ้าศาลมีคำสั่งตามคำร้องของเรา เพื่อให้ไอโอหยุด จากนี้เรายังต้องติดตามว่ากองทัพทำตามคำสั่งศาลมากน้อยเพียงใด หรือ ถ้ามีการยกเลิกโครงการนี้ ไปทำโครงการใหม่ได้หรือไม่” นี่เขามองในแง่ดีนะว่าศาลฯ นี้จะไม่ตะบี้ตะบันแบบคดี ๑๑๒

(https://www.facebook.com/pow.ilaw/posts/3977216372308992, https://prachatai.com/journal/2021/03/91957, https://www.facebook.com/thestandardth/posts/2694429530849922 และ https://www.reuters.com/article/us-facebook-thailand/facebook-removes-thai-military-linked-information    -influencing-accounts)