วันพฤหัสบดี, มีนาคม 04, 2564

“แอมมี่เผารูป ร.๑๐ ก็ให้ ร.๑๐ เผารูปแอมมี่คืน ไม่ได้เหรอครับ จะได้หายกัน แฟร์ๆ”


เมื่อ แอมมี่ โพสต์เอง หักมุมว่า “การเผาพระบรมในครั้งนี้เป็นฝีมือของผมและผมขอรับผิดชอบไว้แต่เพียงผู้เดียว” เพื่อไม่ให้มีใครเอี่ยว เอาไป “เกี่ยวข้องกับกลุ่มการเคลื่อนไหว หรือการเรียกร้องใดๆ” แต่ไม่วายลงท้ายถึง “ความหมายที่ซ่อนอยู่”

ก็ต้องว่าตามนั้นเพราะ ความหมาย “ในการเผาครั้งนี้มีอยู่มากมาย เป็นเชิงสัญลักษณ์ง่ายๆ ที่หวังว่าทุกคนเข้าใจและจะมองเห็นมัน” หลายๆ คนมองเห็นแล้วว่า การที่เขาจะต้องติดคุกอีกนานเป็นการยกระดับ การรณรงค์ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เข้าไปอีกขั้น

แม้นว่ามารดาของไชยอมร แก้ววิบูลพันธุ์ เตรียมเบี้ยประกัน ๕ แสนบาทเพื่อยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว หากวันนี้ศาล ยกคำร้องประกันตัวอีกครั้ง จะเป็นดัง Mike Panupong@mike_rayong ตั้งสมมุติฐานว่า ถ้ามีคนเผารูปหรือปฏิทินกษัตริย์ ที่บ้าน ต้องผิด ม.๑๑๒ ด้วยไหม

อีกทั้งในวันนี้เช่นกัน “เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตามจับกุม น.ส.ญาริศา (สงวนนามสกุล) ถึงสนามบิน ขณะเจ้าตัวกำลังเตรียมออกหนีไปยังประเทศญี่ปุ่น เจ้าตัวเกิดไหวตัวทันชิงหลบหนีเจ้าหน้าที่ไป” แต่ตำรวจก็ยึดกระเป๋าเดินทางและเอกสารของ น.ส.ญาริศาไว้ได้

ขณะที่ “ผู้ต้องสงสัยเป็นชาย ที่ร่วมก่อเหตุอีกรายนั้น ก็ยังคงหลบหนีอยู่” แม้นว่า ไอ้ภูมิคนขับรถพาแอมมี่ไปยังสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งถูกกันตัวไว้เป็นพยานของตำรวจ จะให้การ (หรือปรักปรำ) ว่าแอมมี่บาดเจ็บเพราะตกลงมาจากการปีนขึ้นไปจุดไฟซุ้มภาพ ร.๑๐

จากรายงานของ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุว่าการจับกุมตัวแอมมี่เมื่อเวลาตี ๑ วันที่ ๓ มีนานั้น “ไชยอมรได้ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาในขณะจับกุม” หลังจากนั้นเขาถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลราชธานี และแจ้งว่าจะส่งต่อไป รพ.ตำรวจ

ทนายและครอบครัวของแอมมี่ไปรอที่โรงพยาบาลตำรวจตั้งแต่ ๙ โมงเช้า จนถึงบ่าย ๒ โมงจึงได้พบกับแอมมี่ มีเจ้าหน้าที่จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีไปสอบสวนเพิ่ม

ถึงตอนนี้แอมมี่ก็ยัง “ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา” จึงถูก “ขออำนาจศาลอาญาในการฝากขัง” มารดาแอมมี่ยื่นขอประกันตัวด้วยเงินสด ๙ หมื่นบาท ศาลยกคำร้องไม่ยอมให้ปล่อยตัวอ้างว่ากลัวจะหลบหนี อีหรอบเดียวกับผู้ต้องหา ม.๑๑๒ อื่นๆ

(หมายเหตุ วันนี้นางสุรีรัตน์ ชีวารักษ์ มารดาของกวิ้น พริษฐ์ นำหลักทรัพย์ ๑ ล้านบาท ยื่นขอประกันปล่อยตัวชั่วคราวลูกชายกับผู้ต้องหาอีกสามคน เป็นครั้งที่สี่ด้วยเหตุที่ว่า “ช่วงนี้เป็นช่วงใกล้สอบของนายพริษฐ์” ศาลยังคงยักไหล่ ไม่ ‘give a damn’)

คดีแอมมี่เท่ากับว่าเขาบรรลุจุดมุ่งหมายการประท้วงเชิงสัญญลักษณ์ไปแล้ว ด้วยการเอาตัวเองเข้าแลกกับข้อกล่าวหา ทั้งที่ยังเป็นเรื่องถกเถียงกันมากว่า “การเผาทรัพย์สินราชการ เป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ อย่างไร”


เท่าที่มีสมาชิก คลับเฮ้าส์อาจเข้าไปฟังและสันทนาหัวข้อ “จากสเปนถึงไทย : เผารูป แต่งเพลง วาดการ์ตูนล้อกษัตริย์” ของ Piyabutr Saengkanokkul ดังที่ Wirada Saelim@WiradaSaelim ทวี้ตไว้ถึงกรณีใน “ปี ๒๕๕๑

ศาลสเปนสั่งลงโทษคนที่เผารูปอดีตกษัตริย์ ศาลสิทธิมนุษยชน EU บอกสเปนว่าเป็นการลิดรอนเสรีภาพการแสดงออก เพราะการกระทำของผู้ประท้วงไม่ได้เป็นการโจมตีกษัตริย์เป็นการส่วนตัว แต่เป็นการประณาม” ในสิ่งที่เป็นตัวแทนในฐานะประมุข

และประณามการใช้อำนาจและกลไกของรัฐ ดังนั้นในแฮ้สแท็ก #StandWithAmmy ที่กำลังกรุ่นอยู่ขณะนี้ จึงมีข้อเสนอแนะทางออกแบบ ‘coolและแฟร์ๆ ว่าเอางี้ดีไหม “คนไทยเหมือนกัน” ไม่น่าจะต้องเอาผิดรุนแรงเลยครับ

“แอมมี่เผารูป ร.๑๐ ก็ให้ ร.๑๐ เผารูปแอมมี่คืน ไม่ได้เหรอครับ จะได้หายกัน แฟร์ๆ” เออ จริงแฮะ


(https://www.facebook.com/lawyercenter2014/posts/3712618172121343, https://www.matichon.co.th/politics/news_2606782, https://twitter.com/Piyabutr_FWP/status/1367070835110940675 และ https://www.facebook.com/thebottomblues/posts/292136535603237)