วันเสาร์, มีนาคม 13, 2564

‘อนุทิน’ น็อคคาเวที ปิดห้องหนี ‘ธนาธร’ โดนตีแสกหน้า “อย่าโกหกประชาชน” ปมวัคซีนโควิด-19



ความจริงประเทศไทย
6h ·

‘อนุทิน’ น็อคคาเวที ปิดห้องหนี ‘ธนาธร’ โดนตีแสกหน้า “อย่าโกหกประชาชน” ปมวัคซีนโควิด-19
.
‘หมอหนู’ ปะทะ ‘หมอตี๋’ กระหึ่มเวทีคลับเฮ้าส์ เจอธนาธรสวนหมัดน็อค “รองนายก โกหกประชาชนเรื่องวัคซีนโควิด” เสี่ยหนูตอบคำถามก่อนรีบชิ่งหนีทันที สุดท้ายเจอตอกฝาโลง งัดข้อมูลแฉซ้ำ “รัฐบาลไทยใช้ภาษีประชาชนสนับสนุนสยามไบโอไซเอนซ์ ก่อนที่จะเซ็นสัญญากับ AstraZeneca !!!” ส่อฉาวเรื่องเอื้อผลประโยชน์ทับซ้อน ยืนยันชัดมีเอกสารราชการมัดตัว
.
‘อนุทิน’ เปิดห้องออนไลน์ตอบคำถามวัคซีน เจอ ‘ธนาธร’ ร่วมฟัง จึงเปิดเวทียกแรกชิงชี้แจงวัคซีนโควิด ระบุว่า AstraZeneca (AZ) คัดเลือก SiamBioScience (SBS) เองโดยไม่เกี่ยวรัฐบาลเพราะมีโรงงานพร้อมที่สุดในประเทศ ทำยาได้มาตรฐานสากล ยืนยันฉีดวัคซีนคนไทยปีนี้ 60 ล้านโดส เริ่มเดือน มิ.ย. 5 ล้านโดส ก่อนปูพรมฉีดเดือนละ 10 ล้านโดสตั้งแต่ ก.ค. ยาวไปจนถึงสิ้นปี 2564 นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดกว้างนำเข้าวัคซีนตัวอื่นในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ไม่มีการแทงม้าตัวเดียวแน่นอน ส่วนวัคซีนไทยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกำลังพัฒนาก่อนส่งไป US เพื่อทดสอบอีกราว 9 เดือน หากสำเร็จไทยจะผลิตเองได้ 40 ล้านโดสต่อปี โดยไม่ต้องพึ่งพาวัคซีนต่างชาติ
.
“รัฐบาลนี้สนับสนุนการแพทย์เต็มที่ช่วงโควิด ขอให้มันใจว่าความปลอดภัยและสุขภาพของคนไทยสูงสุด ฃ ระบบสธ.ไทยไม่เป็นรองใคร ขอให้ทุกคนมั่นใจ ผมพร้อมเป็นฟันเฟืองสนับสนุนให้ทุกคนทำงาน ทุกคนทำเต็มที่จริงๆครับ” อนุทินกล่าว
.
‘ธนาธร’ ออกอาวุธ ตีแสกหน้าเสี่ยหนูประกาศลั่นกลางห้องที่มีผู้ฟังราว 8,000 คน ว่า “โกหกแบบนี้ไม่ได้ บอกว่าแอสตร้าเซเนก้ามีความพร้อมส่งได้ทันตามกำหนด ประโยคนี้มีปัญหาเพราะเอกสารหน่วยราชการยืนยันชัดว่ามีความปกติในการดำเนินการ” ทันใดนั้น ‘อนุทิน’ จึงตัดพ้อว่า “คุณมาว่ารองนายกโกหกแบบนี้มันได้เหรอ มันทำได้ด้วยเหรอ” ก่อนตัดสายแล้วชิ่งหนีออกจากห้องทันที
.
‘ธนาธร’ ตอกฝาโลงงัดข้อมูลเด็ด รัฐบาลไทยส่อเอื้อลประโยชน์ ล็อคสเป็คคัดเลือกเอกชนผูกขาดวัคซีนคนไทย พบเอกสารรายงานการประชุมและสัญญาระหว่าง รัฐไทย-SBS-AZ พบว่ามีการจ่ายเงินงบประมาณสนับสนุน SBS ในเดือน สิงหาคม 2563 ขณะที่การทำสัญญาเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2563 มันเป็นไปได้อย่างไรที่อยู่ๆ SBS โผล่เข้ามาเป็นผู้ผลิตวัคซีนทั้งที่ไม่เคยอยู่ในแผนวัคซีนแห่งชาติที่จัดทำเมื่อต้นปี 2563 และมีการเชิญเอกชนผู้ผลิตต่างชาติซึ่งเป็นบริษัทใหญ่มาเป็นผู้จัดวางแผน
.
“เรื่องสัญญาการจัดซื้อวัคซีน ระหว่าง AZ-SBS, AZ-รัฐไทย และ รัฐไทย-SBS มีสามสัญญานะฮะ คุณอนุทินพูดเสมอว่า เป็นการตัดสินใจของ AZ เอง ซึ่งไม่เป็นความจริงแน่ๆ เพราะ AZ แต่งตั้ง SBS มีรัฐบาลไทยเข้าไปรู้เห็นกัน เนื่องจากตอนเซ็นข้อตกลง LOI กัน 4 ฝ่าย ซึ่งมี SCG ด้วย เซ็นสัญญาวัคซีนเดือนตุลาคม แต่อนุมัติเงินช่วยตั้งแต่เดือนสิงหาคม ก่อนที่จะเซ็นสัญญาเสียอีก ถ้าไปดูในบันทึกการประชุม จะเห็นว่ามีการระบุชัดเจนว่า AZ ขอรอดูเงื่อนไขจากรัฐบาลไทยก่อนว่าจะสนับสนุน SBS อย่างไรบ้าง ถึงจะคัดเลือก SBS เป็นคู่สัญญากับ AZ หลักฐานมันอยู่ในเอกสารสัญญาและเอกสารการประชุมทุกฉบับ เรื่องนี้รัฐบาลต้องชี้แจงครับ ผมพูดผมมีหลักฐานทั้งหมด ซึ่งเป็นเอกสารราชการ เช่น แผนความมั่นคงทางวัคซีนไม่มีชื่อ SBS อยู่นะตอนแรก แต่อยู่ๆก็โผล่มาใช้งบภาษี 600 ล้านบาททางตรง แล้วยังมีงบจากภาครัฐทางอ้อมอีกส่วนนึง....เอาให้ชัดว่า คุณอนุทินพูดเรื่องรัฐบาลไทยไม่รู้เห็น สัญญาข้อตกลงนี้ได้อย่างไร”
.
‘ธนาธร’ ทิ้งท้ายเรื่องวัคซีนพระราชทานว่าอยากให้เห็นแก่คนไทยทุกคน วันนี้เราไม่ควรยกเลิกดีลกับสยามไบโอไซเอนซ์ ควรให้พวกเขาผลิตวัคซีนเพื่อคนไทยต่อไป นอกจากนีรัฐบาลยังสามารถลงทุนเพิ่มให้ด้วย เช่นการซื้อเครื่องผลิตเพิ่มเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดไทม์ไลน์การส่งมอบวัคซีน มันคุ้มค่ากว่าปิดประเทศแล้วเสียหายมูลค่าทางเศรษฐกิจเดือนละ 250,000 ล้านบาทอย่างทุกวันนี้ ขณะนี้สายเกินไปแล้วที่จะยกเลิกดีลข้อตกลงนี้ #วัคซีน #โควิด19