บ้องตื้นไหมนี่ ผบ.ทบ.นำกว่า ๗๐๐ บังคับกองพันปฏิญานด้วยชีวิต หลังจากโดนเสรีพิศุทธ์ท้าทาย

บ้องตื้นไหมนี่ผู้บัญชาการทหารบก อย่างที่ #มิตรสหายท่านหนึ่ง ปรารภไว้หรือเปล่า “โดนแม่หน่อยเปรยว่าอยากลดงบ ก็ไปเปิดเพลงประชดออกวิทยุ เจอตำรวจเกษียณอายุคนเดียวต่อว่าก็ถึงกับเรียกระดมพลทั่วประเทศ

ทำไมถึงได้อ่อนไหวง่ายขนาดนี้ แล้วถามว่าที่ทำมันช่วยให้ดูน่าเกรงขามไหม...เปล่าเลย มันกลับสะท้อนความอ่อนแอในจิตใจมากกว่า”

ตอนสายวันที่ ๗ มีนา ก่อนจะถึงเวลาศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำตัดสินยุบพรรคไทยรักษาชาติไม่กี่ชั่วโมง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เรียกประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกกว่า ๗๐๐ นาย ทำพิธีถวายบังคมปฏิญานต่ออนุสาวรีย์รัชกาลที่ ๕

มีการเปล่งคำสาบานจะปกป้องกองทัพและรักษามรดกของราชบัลลังก์ด้วยชีวิต ต่อจากนั้นได้ทำการมอบใบประกาศชมเชยการปฏิบัติหน้าที่ดีเด่นคอยตามจี้ กดดัน กวนประสาทนักการเมือง

 

กรณีพันโทปกิจ ผลฟัก ถูก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีนำไทยเข้าไปต่อว่าด้วยถ้อยคำกร้าว ไล่ให้กลับไป และฝากไปบอกนายด้วย ทำให้ ‘บิ๊กแดง’ ส่งลูกน้องไปยื่นฟ้องเสรีพิศุทธ์ไว้แล้ว มาจัดฉากดราม่า

อ้างการเป็นทหารอาชีพ รักษาความสงบ “ซึ่งเป็นเพียงส่วนงานหนึ่งที่ทหารมีส่วนร่วม และอยู่กับประชาชน...มีระเบียบ อดทน อดกลั้น...ทหารเรามีสมบัติผู้ดี...ไม่ทำให้เกิดความรุนแรง สามารถควบคุมอารมณ์จากการถูกยั่วยุและหมิ่นประมาท”

และ “เชื่อจะมีเหตุการณ์เช่นนี้อีก เราต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ให้ผ่านอุปสรรคไปได้” คงหมายถึงอุปสรรคที่เกิดจากประชาชนเริ่มตื่นกันแล้ว หลังจากที่ถูกทหารทั้งเอาเปรียบ (งบประมาณเหยียบแสนล้าน) ทั้งข่มเหง (ปรับทัศนคติ) มาตลอด ๕ ปี

ประเด็นของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่พันโทปกิจมีความสุภาพสุขุมกับพล.ต.อ.เสรีดีเพียงใด แต่อยู่ที่ผู้เป็นนายสั่งให้ไปปฏิบัติภารกิจในเรื่องไม่ใช่ที่ ดังเช่นที่ @KillerPress ว่าไว้ก็ใช่ “อาชีพอารักขา รปภ. มันคืองานของตำรวจครับ

ลาออกหรือทำเรื่องย้ายต้นสังกัดไปลง สตช.ได้เลยครับ ถ้าชอบงานแนวนี้ ตำแหน่งร้อย รส.ประจำจังหวัด นี่งอกขึ้นมาหลังรัฐประหาร เอาทหารไปตรวจร่วมกับตำรวจประจำจังหวัดต่างๆ ทำงานเป็นยังไง ไปถามชาวเลือดหมูกันเอาเอง”

ไม่เห็นจะต้องดราม่าขนาดนี้ เหมือนที่วัฒนา เมืองสุข แนะแนวว่าก่อนออกมาแสดงพลัง ผบ.ทบ.ควรตอบให้ได้ก่อน ว่าทหารมีหน้าที่อะไรถึงได้ออกมาเพ่นพ่านในพื้นที่นักการเมืองกำลังหาเสียงกัน “สิ่งที่ควรทำคือตบเท้าใส่เผด็จการ แล้วกลับกรมกองไปทำหน้าที่ถึงจะมีศักดิ์ศรี เก่งกับประชาชนมือเปล่าไม่มีศักดิ์ศรีให้”

 

คำตอบเหมาะเหม็งที่สุดสำหรับการตีโพยตีพายของผบ.ทบ.ครั้งนี้ มาจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์นั่นละ พูดง่ายๆ สั้นๆ ไม่ต้องแหกปากตะโกนปฏิญานสาบานอะไร ไม่มีกังวลที่โดนทหารฟ้อง เพราะ

“หลังเลือกตั้งจะขอสอบสวนว่า ทำไมคนสั่งฟ้องถึงร่ำรวยขนาดนี้” เห็นว่าไม่น้อย ๔ พันล้าน ครั้นจะอ้างว่าเป้นมรดกตกทอดจากพ่อก็ยิ่งไปกันใหญ่ พ่อเป็นนักรัฐประหารที่ร่ำรวยหลังจากยึดอำนาจสำเร็จ นี่สมกับที่มีคนเปรยไว้

เพราะความห้าวเหิมของลูกแท้ๆ ทำให้พ่อถูกขุดศพขึ้นมาประจาน

(https://www.matichon.co.th/politics/news_1394487 และ https://www.facebook.com/100001454030105/posts/2215187781873001?sfns=mo