พลังประชารัฐพึ่งเปิดนโยบายที่เขาบอกว่าเป็นท่าไม้ตาย เป็นหมัดน็อค คือ ค่าแรงขั้นต่ำ 400-425 เงินเดือน ป.ตรี 20,000... ถามประยุทธ์ยัง

...

เมื่อครู่พลังประชารัฐพึ่งเปิดนโยบายที่เขาบอกว่าเป็นท่าไม้ตาย เป็นหมัดน็อค คือ ค่าแรงขั้นต่ำ 400-425 เงินเดือน ป.ตรี 20,000

รวมกับก่อนหน้านี้ที่มี

บัตรคนจน เดือนละ 500 คนแก่เดือนละ 1,000

มารดาประชารัฐ ค่าฝากครรภ์เดือนละ 3,000 บาท ค่าคลอดเดือนละ 10,000 ค่าเลี้ยงดู เดือนละ 2,000 บาท

ให้ชาวนาค่าเกี่ยวไร่ละ 2,000 ค่าปลูกไร่ละ 1,500

ทำให้นโยบายพลังประชารัฐเป็นนโยบายแจงเงินที่แจกเยอะที่สุด และตัวเลขชัดที่สุด นอกจากนั้นยังแจกไปอย่างนั้นเองโดยไม่ได้มีแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์กับเป้าหมายระยะยาวรองรับ

สรุปคือ นี่คือจุดสูงสุดของประชานิยม ที่ด่าๆกัน
.
.
ผมคิดว่าการทำแบบนี้ไม่ดีเลย ในเชิงการหาเสียง

เพราะ
1. มันหักหลังผู้สนับสนุนเดิมของพลังประชารัฐ

คุณลองคิดดูว่า แฟนคลับของคุณคือคนที่พูดว่า "เศรษฐกิจพังเพราะค่าแรง 300"
"ฉันเกลียดประชานิยม ที่ดีแต่แจกเงิน"
"เงินพวกนี้มันภาษีฉัน ทำไมไม่ต้องเอาไปแจกพวกที่ไม่ทำมาหากินดีแต่ขอ"

ดันออกนโยบายแบบนี้ออกมา แสดงว่าเห็นชัดๆว่าเขาไม่ได้ฟังเสียงแฟนคลับ ไม่ได้ทำนโยบายออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้สนับสนุน

ที่จริงถ้าดูจากแนวคิดของผู้สนับสนุน นโยบายของพลังประชารัฐที่ดีควรมาแนว republican ตัดสวัสดิการ ลดการใช้งบที่ไม่จำเป็น เปิดเสรีภาพทางการแข่งขัน

การทำแบบนี้คือดูถูกแฟนคลับตัวเองว่าเป็นของตาย ยังไงก็คงไม่อ่านข่าว ไม่ว่าออกนโยบายอะไรมาก็เลือก
เอ้อ... ก็อาจจะมีคนแบบนี้ กลืนน้ำลายคำด่านโยบายประชานิยมของตัวเองไป เลือกได้ก็เลือกกันไป
.
.
2. มันลอกชาวบ้านมาแต่วิธีการและตัวเลข โดยไม่รู้ว่าทำไปทำไม เวลาดีเบทจะโดนฆ่ากลางเวทีเอา

ตัวอย่างเช่น สมมุติถ้ามีพรรคหนึ่งไปลอก ไฮเปอร์ลูป มาจากธนาธร ถ้าคนไปถามว่าทำทำไม คนโดนลอกจะตอบไม่ได้ อย่างมากก็บอกว่า "เร็วกว่ารถไฟฟ้า" แต่ถ้าถามธนาธรเขาจะบอกว่า "เพื่อข้ามเทคโนโลยีจากรถไฟฟ้าไปอีกขั้น ให้ไทยกระโดดข้ามกลายเป็นผู้ผลิตไฮเปอร์ลูปของโลกไปเลย" แบบนี้

ผมถามจริงๆว่าไปก็อบ มารดาประชารัฐ ของพี่มาร์คมานี่ รู้หรือเปล่าว่าจุดประสงค์ของ เกิดปั๊บรับเงินแสน ของ ปชป. จริงๆเขาเอาไว้ทำอะไร?
.
.
3. นอกจากคิดว่าฐานเสียงของตัวเองโง่แล้ว ยังคิดว่าฐานเสียงของคนอื่นโง่ด้วย

นโยบายเช่นนี้มาจากฐานคิดว่า เมื่อแฟนคลับพรรคอื่นเห็นเลขเยอะกว่าจะเปลี่ยนใจ แต่ความจริงเป็นเช่นนั้นหรือเปล่า?

ผมคิดว่าการเมืองเมื่อ 20 ก่อน อาจจะเป็นเช่นนั้น ใครให้เยอะกว่าก็น่าสน แต่การเมืองเดี๋ยวนี้ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว มันเป็นเรื่องว่า "คุณไว้ใจใคร"

ตัวอย่างเช่น เสรีพิศุทธ์ เป็นคนที่แฟนคลับไม่สนใจรายละเอียดนโยบายอะไรเลย แต่ทุกคน "เชื่อ" ว่า ลุงแกเจอโจรแกยิงแน่นอน ถ้าแกเป็นรัฐมนตรี แกเจอตออะไร แกไม่สน แกยิงแน่ๆ - ไม่ว่าจะจริงไม่จริง แต่คนเชื่อ และคนชอบคนแบบนี้ก็เลือก

ธนาธร พวกด้อมฟ้าไม่สนใจรายละเอียดตัวเลขพรรคพ่อหรอก เขาแค่เชื่อว่า ธนาธรจะมีความคิดดีๆ จะสู้กับเผด็จการ เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่

ส่วนเจ๊หน่อย แฟนคลับของเจ๊เห็นหน้าก็คิดถึงบัตรทอง 30 บาท คิดถึงตอนที่ญาติพี่น้องป่วยลำบาก ได้นโยบายเจ๊ไปช่วย คิดถึงยุค ทรท. พอเจอเจ๊ก็พากันไปกอดร้องไห้ - แฟนคลับชัชชาติก็เชื่อว่าแกลุยงานจริง มีปัญหาอะไรไปทันที เขาไว้ใจได้

ส่วนพี่มาร์ค... อืมมม เขาก็เชื่อว่าแกพูดเก่ง หลักการดี

แต่พลังประชารัฐเนี่ย มีใครที่น่าเชื่อถือบ้าง?

แต่ละคนในนั้นก็ อย่างแรมโบ ครึ่งปีที่แล้วคุณยังเป็นควายแดงมานำเผาบ้านเผาเมือง ทุบรถอภิสิทธิ์อยู่เลย วันนี้ไปอยู่พลังประชารัฐ

คือมันรวมทั้งนโยบายที่สลิ่มเกลียด และรวมคนแบบที่สลิ่มเกลียดไปไว้ที่ดีเดียว เพื่อหวังว่าจะเอาไปหลอกพวกรากหญ้ามาเลือกได้ แล้วจะชนะอ่ะ ถ้าเลือกลงคือแบบโคตรๆ

คือถ้าพวกรากหญ้าโดนพลังประชารัฐหลอก หรือถ้าพวกคนเมืองที่ด่าๆประชานิยม เผาบ้านเผาเมืองกาลง

ผมก็คงจะเชื่อแล้วอะครับว่าคนไทยโง่จริง
.
.
.
ผมคิดว่าทรัพย์สินที่สำคัญที่สุดของนักการเมืองมันอยู่ที่ "ความน่าเชื่อถือ"

คุณจะทำอะไร แต่ถ้าไม่หักหลังแฟนคลับ อย่างน้อยก็มีฐานที่มันของตัวเอง

อันนี้มันไม่เอาสักอย่าง อยากได้ของเขา แต่ทิ้งของตัวเอง จะไปยังไงต่อ?


Starless Night - Harit Mahaton