วันอาทิตย์, พฤษภาคม 07, 2566

ถ้า ‘คนรุ่นเก่า’ เอาแต่ใจตัวแบบ ไมตรี ลิมปิชาติ ไม่มีทางทำงานร่วมกันได้

ถึงจุดนี้ก็แจ่มแจ้งกันละ ว่าพวก ๒ ป.นั้นบ้อท่าจริงๆ ไม่ว่าจะดูจากกองเชียร์อย่าง ไมตรี ลิมปิชาติ หรือลูกหาบอย่าง ไพบูลย์ นิติตะวัน นอกจากยังงมโข่งมั่วซั่วแล้ว ออกอาการทะเล่อทะล่า เกือบสะดุดขาตัวเองหน้าคว่ำนั่นแน่ะ

จากโพสต์ของ Suchart Sawadsri ต่อข้อความที่ ไมตรีเขียนเฟชบุ๊คว่าเป็น ของชำร่วย วันนักเขียนปีนี้ จากอดีตนายก สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ไม่อยากเขียนตอบให้หัวร้อน ฐานที่เป็น คนอยู่วัด มาเช่นกัน ปล่อยให้ผู้อ่านวิจารณ์กันเองดีกว่า

หลายคนว่า “ผิด/เท็จ/มั่ว” เต็มไปหมด Harin Sukavat บอก “ถูกสองข้อแรก” เท่านั้น ที่เหลือผิดทั้งสิบ ซึ่งNithiwadee Ariyawong จี้จุดได้ตรงเผงว่า “เขาเขียนจากความกลัว คนรุ่นนี้กลัวการเปลี่ยนแปลง” ด้าน Naruepon Marseng เจาะประเด็น

“ข้อสี่ กองทัพเป็นรัฐซ้อนรัฐมีกฏของตัวเองมีศาลตัวเอง รัฐบาลไทยเคยคุมกองทัพได้ที่ไหน มีแต่กองทัพที่คุมรัฐบาล” เขายังบอกด้วยว่า “กลับกัน ก้าวไกลนี่แหละจะทำให้รัฐบาลพลเรือนคุมกองทัพได้” แล้วก็ ใช่สิอย่างที่ Pom Kanchanawatthana เสริม

“เอาแค่เรื่องข้อ ๙ เขาพูดหลายครั้งแล้วไม่มีความคิดยกเลิกบำนาญ แกไปเอามาจากไหน” นั่นสิ เป็นนิสัยรวมหมู่ของพวกนี้มั้ง ตะบี้ตะบันพูดซ้ำๆ อย่างเดิมๆ มิพักที่จะเงี่ยหูฟังข้อเท็จจริงที่เขาตอบกลับมาบ้างแม้แต่นิดเดียว

มาไล่เรียงกันดีกว่า ว่าไมตรีเขียนอะไร เขาคงตั้งใจ เหน็บแนมเรื่องสโลแกนหาเสียงที่ว่า “กาก้าวไกล ประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิม” แล้วสรุปว่า แต่ตนอยากให้เป็นไปอย่างเดิม “อะไรไม่ดีค่อยๆ แก้...ดีกว่าเปลี่ยนทันที” มิฉะนั้น “จะทำให้ประเทศวุ่นวาย”

กลับกลายเป็นว่าช่วยตอกย้ำ ทั้งกรณียกเลิกเกณฑ์ทหาร และ ปฏิรูปกองทัพให้มีทหารน้อยลง” ให้เข้าทางก้าวไกลอย่างต้องขอบใจ พอถึงข้อ ๓ เรื่อง “ใช้เรือประมงเป็นเรือรบ” นี่ใช้หัวแม่เท้าตรองหรือเปล่า จึงได้ตกขอบขนาดนี้

ข้อสี่กับห้าว่ารัฐบาลจะคุมกองทัพไม่ได้ และ “ยอมให้สหรัฐมาตั้งฐานทัพในไทย” นี่ถ้าพูดถึงตัวเองก็มโน พูดว่าคนอื่น มุสา เต็มๆ ข้อหก ความเท่าเทียม กับการเคารพผู้อาวุโส ไม่มีความสัมพันธ์กันในตัวของมันเอง เช่นเดียวกับข้อ ๖ เว้นแต่จะพาลหาเสี้ยน

ข้อ ๗ และ ๘ นี่ตรงตามนโยบายที่ก้าวไกลประกาศหาเสียง ข้อ ๑๐ การลดลงที่ว่า มันเป็นมาพักใหญ่แล้วนะ มัย ไม่ใช่เพราะนโยบายใหม่ๆ อะไร แต่เกิดจากของเก่าๆ ที่เคยทำไว้เละเทะทั้งนั้นต่างหาก ส่วนข้อ ๑๑ อยู่ที่ใครมอง จะแตกแยกหรือหลากหลาย

ความต่างขึ้นอยู่กับกึ๋นและจิตสำนึก มันจึงทำให้ข้อ ๑๒ สมจริงขึ้นมา ถ้า คนรุ่นเก่า เอาแต่ใจตัวแบบไมตรี งัย ส่วนกรณีไพบูลย์พูดถึงเฮียป้อม ดูแต่ภาพแค้ปก็เห็นแล้วว่าเย็บกี่เข็มหน้าที่แตกน่ะ

(https://www.facebook.com/photo?fbid=3601402770136208&set=a.1385633111713196)