มีเรื่องหนึ่งที่คนไทยควรรู้คือ รัสเซียไม่ได้เป็นประเทศภาคีสมาชิกของศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือไม่ได้ลงนามรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศหรือICC.แต่ก็ถูกดำเนินคดีได้ pic.twitter.com/mrv1MQeQYC
— ถือแถน (@pran2844) March 18, 2023
ปูตินจะเผชิญการพิจารณาคดีอาชญากรรมสงครามหรือไม่
เมื่อ 8 ชั่วโมงที่แล้ว
บีบีซีไทย
แม้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court หรือ ICC) ในกรุงเฮก ของเนเธอร์แลนด์ จะออกหมายจับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียฐานก่ออาชญากรรมสงครามจากการยกทัพรุกรานยูเครน แต่นี่ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าขั้นแรกของกระบวนการที่แสนยาวนาน
องค์การสหประชาชาติแสดงความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่ามีหลักฐานเพียงพอในการกล่าวโทษและเอาผิดประธานาธิบดีรัสเซียผู้นี้
อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีนี้ให้ลุล่วงไปได้นั้นจะต้องเผชิญกับปัญหาในเชิงปฏิบัติและการจัดการมากมาย
นี่คือรูปการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในการดำเนินคดีอาชญากรรมสงครามต่อวลาดิเมียร์ ปูติน
ปูตินจะถูกจับกุมไหม
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันนายปูตินคือผู้กุมอำนาจเด็ดขาดในรัสเซีย ดังนั้นจึงไม่น่ามีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลรัสเซียจะส่งมอบตัวเขาให้แก่ ICC
ตราบใดที่นายปูตินยังอยู่ในรัสเซีย เขาจะไม่มีความเสี่ยงถูกจับกุม
นายปูตินอาจถูกจับกุมหากเดินทางออกนอกประเทศ แต่เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่าเสรีภาพการเดินทางของเขาถูกจำกัดอย่างรุนแรงจากมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติ ก็ไม่น่าจะมีแนวโน้มที่เขาจะเดินทางไปยังประเทศที่ต้องการนำตัวเขาขึ้นพิจารณาคดี
นับตั้งแต่รัสเซียเข้ารุกรานยูเครนในเดือน ก.พ. 2022 นายปูตินเดินทางไปแค่ 8 ประเทศ โดยในจำนวนนั้น 7 ประเทศคือดินแดนใต้อิทธิพลของรัสเซีย ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต
ประเทศเดียวที่นายปูตินไปเยือนโดยที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มประเทศดังกล่าวคือ อิหร่าน ซึ่งเขาเดินทางเยือนเมื่อเดือน ก.พ.ปีก่อน เพื่อพบหารือกับอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน
การที่อิหร่านเป็นพันธมิตรสำคัญในการช่วยรัสเซียทำสงครามในยูเครน ด้วยการสนับสนุนด้านโดรนและอาวุธยุทโธปกรณ์ จึงทำให้การเยือนกรุงเตหะรานไม่น่าจะทำให้นายปูตินถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่ ICC
ปูตินจะเผชิญการพิจารณาคดีหรือไม่
มีอุปสรรคใหญ่อย่างน้อย 2 ประการที่จะขัดขวางการพิจารณาคดีของนายปูติน
ประการแรกคือรัสเซียไม่ได้ให้การยอมรับขอบเขตอำนาจของ ICC
ศาลแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2002 ด้วยสนธิสัญญาที่เรียกว่า ธรรมนูญกรุงโรม (Rome Statute) ซึ่งมีบทบัญญัติว่าเป็นภาระหน้าที่ของทุกรัฐภาคีที่จะใช้อำนาจศาลดำเนินคดีต่อผู้ก่ออาชญากรรมระหว่างประเทศ ICC จะเข้าแทรกแซงเฉพาะกรณีที่รัฐเหล่านี้ไม่สามารถ หรือไม่ยอมดำเนินการสอบสวน หรือดำเนินคดีต่อผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด
มีรัฐที่ร่วมเห็นชอบปฏิบัติตามข้อตกลงนี้ทั้งสิ้น 123 ประเทศ ยกเว้นรัสเซีย
ขณะเดียวกันบางประเทศ เช่น ยูเครน และไทย ได้ร่วมลงมติสนับสนุนสนธิสัญญานี้แต่ยังไม่ได้ให้สัตยาบันรับรองอย่างเป็นทางการ
ปัญหาใหญ่อีกประการคือ ICC ไม่มีกระบวนการพิจารณาคดีลับหลังจำเลย โดยที่ไม่มีผู้ถูกกล่าวหาเข้าร่วมการพิจารณาในศาลด้วย นี่จึงทำให้โอกาสที่จะเอาผิดต่อนายปูตินในศาลแห่งนี้มีอยู่ริบหรี่
หมายจับปูตินมีผลอย่างไรต่อสงครามในยูเครน
การที่ ICC ออกหมายจับนายปูตินคือการส่งสัญญาณจากประชาคมโลกที่มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครนเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
ICC ระบุว่า การประกาศออกหมายจับผู้นำรัสเซียต่อสาธารณะ เพราะอาชญากรรมนี้กำลังเกิดขึ้น นี่จึงเป็นความพยายามที่จะยับยั้งไม่ให้การก่ออาชญากรรมนี้ดำเนินต่อไป
ทว่าปฏิกิริยาของรัสเซียต่อเรื่องนี้คือการมองว่าหมายจับของ ICC ไม่มีความหมายใด ๆ
อันที่จริง รัฐบาลรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาว่ากองทัพรัสเซียได้กระทำการโหดร้ายป่าเถื่อนในยูเครน และโฆษกของนายปูตินเรียกการตัดสินใจออกหมายจับของ ICC ว่าเป็นเรื่อง “เกินกว่าเหตุและยอมรับไม่ได้”
ปฏิกิริยาต่อต้านที่รุนแรงดังกล่าวบ่งชี้ว่าการกระทำใด ๆ ของ ICC ไม่น่าจะมีผลต่อการทำสงครามในยูเครนของรัสเซีย และ “ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร” ของนายปูตินจะดำเนินต่อไปเพื่อบดขยี้ศัตรูอย่างไร้ความปราณี
.....
แม้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court หรือ ICC) ในกรุงเฮก ของเนเธอร์แลนด์ จะออกหมายจับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียฐานก่ออาชญากรรมสงครามจากการยกทัพรุกรานยูเครน แต่นี่ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าขั้นแรกของกระบวนการที่แสนยาวนาน
องค์การสหประชาชาติแสดงความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่ามีหลักฐานเพียงพอในการกล่าวโทษและเอาผิดประธานาธิบดีรัสเซียผู้นี้
อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีนี้ให้ลุล่วงไปได้นั้นจะต้องเผชิญกับปัญหาในเชิงปฏิบัติและการจัดการมากมาย
นี่คือรูปการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในการดำเนินคดีอาชญากรรมสงครามต่อวลาดิเมียร์ ปูติน
ปูตินจะถูกจับกุมไหม
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันนายปูตินคือผู้กุมอำนาจเด็ดขาดในรัสเซีย ดังนั้นจึงไม่น่ามีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลรัสเซียจะส่งมอบตัวเขาให้แก่ ICC
ตราบใดที่นายปูตินยังอยู่ในรัสเซีย เขาจะไม่มีความเสี่ยงถูกจับกุม
นายปูตินอาจถูกจับกุมหากเดินทางออกนอกประเทศ แต่เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่าเสรีภาพการเดินทางของเขาถูกจำกัดอย่างรุนแรงจากมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติ ก็ไม่น่าจะมีแนวโน้มที่เขาจะเดินทางไปยังประเทศที่ต้องการนำตัวเขาขึ้นพิจารณาคดี
นับตั้งแต่รัสเซียเข้ารุกรานยูเครนในเดือน ก.พ. 2022 นายปูตินเดินทางไปแค่ 8 ประเทศ โดยในจำนวนนั้น 7 ประเทศคือดินแดนใต้อิทธิพลของรัสเซีย ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต
ประเทศเดียวที่นายปูตินไปเยือนโดยที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มประเทศดังกล่าวคือ อิหร่าน ซึ่งเขาเดินทางเยือนเมื่อเดือน ก.พ.ปีก่อน เพื่อพบหารือกับอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน
การที่อิหร่านเป็นพันธมิตรสำคัญในการช่วยรัสเซียทำสงครามในยูเครน ด้วยการสนับสนุนด้านโดรนและอาวุธยุทโธปกรณ์ จึงทำให้การเยือนกรุงเตหะรานไม่น่าจะทำให้นายปูตินถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่ ICC
ปูตินจะเผชิญการพิจารณาคดีหรือไม่
มีอุปสรรคใหญ่อย่างน้อย 2 ประการที่จะขัดขวางการพิจารณาคดีของนายปูติน
ประการแรกคือรัสเซียไม่ได้ให้การยอมรับขอบเขตอำนาจของ ICC
ศาลแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2002 ด้วยสนธิสัญญาที่เรียกว่า ธรรมนูญกรุงโรม (Rome Statute) ซึ่งมีบทบัญญัติว่าเป็นภาระหน้าที่ของทุกรัฐภาคีที่จะใช้อำนาจศาลดำเนินคดีต่อผู้ก่ออาชญากรรมระหว่างประเทศ ICC จะเข้าแทรกแซงเฉพาะกรณีที่รัฐเหล่านี้ไม่สามารถ หรือไม่ยอมดำเนินการสอบสวน หรือดำเนินคดีต่อผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด
มีรัฐที่ร่วมเห็นชอบปฏิบัติตามข้อตกลงนี้ทั้งสิ้น 123 ประเทศ ยกเว้นรัสเซีย
ขณะเดียวกันบางประเทศ เช่น ยูเครน และไทย ได้ร่วมลงมติสนับสนุนสนธิสัญญานี้แต่ยังไม่ได้ให้สัตยาบันรับรองอย่างเป็นทางการ
ปัญหาใหญ่อีกประการคือ ICC ไม่มีกระบวนการพิจารณาคดีลับหลังจำเลย โดยที่ไม่มีผู้ถูกกล่าวหาเข้าร่วมการพิจารณาในศาลด้วย นี่จึงทำให้โอกาสที่จะเอาผิดต่อนายปูตินในศาลแห่งนี้มีอยู่ริบหรี่
หมายจับปูตินมีผลอย่างไรต่อสงครามในยูเครน
การที่ ICC ออกหมายจับนายปูตินคือการส่งสัญญาณจากประชาคมโลกที่มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครนเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
ICC ระบุว่า การประกาศออกหมายจับผู้นำรัสเซียต่อสาธารณะ เพราะอาชญากรรมนี้กำลังเกิดขึ้น นี่จึงเป็นความพยายามที่จะยับยั้งไม่ให้การก่ออาชญากรรมนี้ดำเนินต่อไป
ทว่าปฏิกิริยาของรัสเซียต่อเรื่องนี้คือการมองว่าหมายจับของ ICC ไม่มีความหมายใด ๆ
อันที่จริง รัฐบาลรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาว่ากองทัพรัสเซียได้กระทำการโหดร้ายป่าเถื่อนในยูเครน และโฆษกของนายปูตินเรียกการตัดสินใจออกหมายจับของ ICC ว่าเป็นเรื่อง “เกินกว่าเหตุและยอมรับไม่ได้”
ปฏิกิริยาต่อต้านที่รุนแรงดังกล่าวบ่งชี้ว่าการกระทำใด ๆ ของ ICC ไม่น่าจะมีผลต่อการทำสงครามในยูเครนของรัสเซีย และ “ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร” ของนายปูตินจะดำเนินต่อไปเพื่อบดขยี้ศัตรูอย่างไร้ความปราณี
.....
รายชื่อ 123 ประเทศที่ให้สัตยาบัน ทำตามข้อตกลง สนธิสัญญากรุงโรม (ICC) คลิกที่นี่
#รัสเซีย #ยูเครน สีเขียว 123 ประเทศ ที่ให้สัตยาบันกรุงโรม ร่วมลงนามในธรรมนูญกรุงโรมสำหรับศาลอาญาระหว่างประเทศ (Rome Statute of. International Criminal Court) เป็นกลุ่มประเทศที่สามารถรวบตัวปูตินส่งศาลได้ ทันทีที่ศาลโลกออกหมายจับ pic.twitter.com/5B7gc5eLTq
— ปุ๊ดเลอร์ ✙ 🇺🇦 (@cctvck_ck) March 18, 2023