ผบ.ทอ.โอด ถูกกรรมาธิการสภาตัดงบซื้อ ‘เอฟ ๓๕ เอ’ จากสหรัฐ ยื่นอุทธรณ์จะเอาให้ได้ ว่าเป็นเครื่องบินรบดีที่สุดในโลก ใช้กับอาวุธได้หลายชนิดรวมทั้งที่ไทยมีอยู่ และรุ่นใหม่ๆ ในภายหน้า บอกจะเดินตัวเปล่าไปซื้อไม่ได้ ต้องมีเงินในกระเป๋าเสียก่อน
อ้างเหตุผลต่างๆ นานา “ของดีมีประสิทธิภาพใช้งานได้นาน” ถึง ๔๐ ปี ยืนยันไม่มีการกินโน่นกินนี่ เพราะซื้อแบบ ‘เอฟเอ็มเอส’ เป็นเรื่องความช่วยเหลือทางทหารรัฐต่อรัฐ บลัฟอีกว่าเนี่ยถ้าได้เงินไปซื้อแล้ว ยังต้องลุ้นคองเกรสอนุมัติจะขายไม่ขายด้วย
พูดเอาแต่ได้อย่างนี้ “จะเป็นจะตายหรืออย่างไร” เหมือนคำของ ส.ส.พลังประชารัฐที่จวกกลุ่ม ๙๙ พลเมือง รณรงค์จี้ ‘ประยุทธ์’ ลาออกเพราะจะหมดอายุขัยในตำแหน่งครบ ๘ ปี ปลายเดือนนี้ ไม่ยักมีใครในกระทรวงโน่นนี่ออกมาจี้บ้างล่ะเรื่องขายข้าว
เป็นที่รู้กันมาตั้งแต่ปี ๖๓ ว่าข้าวไทยตกกระป๋อง ไม่ได้เป็นผลิตผลส่งออกอันดับ ๑ ของโลกอีกต่อไป โดนอินเดียกับเวียดนามแซง ตกไปเป็นอันดับสามแล้ว ไม่เพียงแต่สู้ราคาเขาไม่ได้ แล้วยังถูกเขาไล่ทันในการพัฒนาคุณภาพข้าวนุ่มหอม
อินเดียนั้นมีข้าว Basmati เป็นที่นิยมกันมากในหมู่ชาวอาหรับ ตะวันออกกลาง และอาร์เมเนียนในสหรัฐ ส่วนเวียดนามพัฒนาพันธุ์ข้าวหอมได้เทียบเคียงกับของไทย ส่งขายตลาดอเมริกันด้วยราคาต่ำกว่า และจำนวนผลิตผลมากกว่า แม้แต่น้ำมะพร้าวเขาก็ตีตลาดไทยไปเช่นกัน
ทอ.ไม่ต้องห่วงว่าสหรัฐขายเอฟ ๓๕ ให้เราหรือไม่ ไหนๆ ไทยได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐอยู่มากมาย เขาต้องยินดีเป็นผู้ขายลดดุลลงบ้างแน่ๆ ข้ามช็อตตรงนี้ไปเน้นที่การค้าขายผลิตผลไทยให้กับสหรัฐมากขึ้นจะดีไหม เวลานี้ข้าวไทยมีปัญหาส่งออกอยู่
รัฐบาลน่าจะลองส่งตัวแทนเกษตรหรือพาณิชย์ หรือทั้งสองกระทรวงพร้อมกัน ไปลองเจรจาให้สหรัฐนำเข้าข้าวไทยมากขึ้นได้บ้าง จะเป็นประโยชน์มากกว่าลุ้นซื้อเครื่องบินละมัง พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ อ้อนว่าจะขอซื้อเอฟ ๓๕ ล็อตแรกแค่สองลำเท่านั้น
แล้วค่อยทะยอยซื้อทีละสองสามลำไปตลอดสิบปีข้างหน้า ตามเป้าหมายให้ครบทั้งฝูง ๑๒ ลำ “พร้อมปฏิบัติการรบในปี ๒๕๗๖” นั้นฟังไม่ขึ้นว่าจะก่อให้เกิด “การพัฒนาคน พัฒนาองค์ความรู้” ได้สักแค่ไหน จะให้ดีจริงต้องพัฒนารายได้จากการส่งออกสิ
เกี่ยวกับดุลการค้าเนี่ย ไทยเสียดุลกับจีนในอัตรามากพอๆ กับที่ได้เปรียบสหรัฐ Zystem page บ่นว่า “ไทยเสียเปรียบอย่างมาก สินค้าจีนทะลักเข้าไทยง่าย แต่สินค้าไทยเข้าจีนยาก อะไรที่ไทยขายดี จีนก็จะก๊อปเลียนแบบไปทำ”
เขายังพาดพิงถึงยางพาราไทยที่บูมมากๆ เมื่อสิบปีที่แล้ว จีนนำเข้าจากไทยเป็นว่าเล่น แต่ไม่นานจีนทดลองปลูกเองบ้าง ไม่สำเร็จเพราะยางต้องการภูมิอากาศร้อนใกล้เส้นศูนย์สูตร เมื่อจีนทำไม่สำเร็จก็เปลี่ยนไปลงทุนปลูกในพม่า ลาว เวียดนาม
ในขณะที่ไทยยังไม่มีปัญญาแก้ปัญหาขาดดุลการค้ากับจีน ไฉนทัพอากาศจักต้องจัดการช่วยลดดุลกับสหรัฐด้วยการซื้อยุทโธปกรณ์บ้าง ถ้าอยากจะสร้างมิตรจิตมิตรใจ ทำไมไม่คิดซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ไทยกำลังถูกจีนทุ่มตลาดอยู่เล่า
เจรจากับสหรัฐขอซื้อผักและเนื้อสัตว์ในราคากันเอง เอามาตีตลาดกับสินค้าจีนที่เข้ามาเอ่อล้นตลาดไทย จากผลของรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว ลดดุลการค้าได้เปรียบกับสหรัฐเล็กน้อย เอามาสกัดกั้นดุลการค้าเสียเปรียบจีนที่นับวันจะเพิ่มขึ้น
เรื่องขนส่งไม่ใช่ปัญหา ทั้งระยะทางและความสด ใส่ระบบห้องเย็นในเครื่องบินของการบินไทยที่จอดค้างเติ่งมากมาย ระบุในการเจรจาซื้อขายว่าขอส่งเครื่องบินของเราไปรับ โดยหักค่าใช้จ่าย บินตรงสิบกว่าชั่วโมง คนไทยได้กินของนอก เก๋ไก๋ไปอีกอย่าง
(https://www.facebook.com/zystv/posts/pfbid0e93uYeCJ, https://www.bot.or.th/Thai/ResearchAndPublications/articles/Pages/ZD4 และ https://www.khaosod.co.th/politics/news_7192552)