เล่นได้หลายบทจริงๆ เลยหมอนี่ ไปจ้อเปิดงานแจกรางวัล ‘บทเพลงเพื่อชาติและราชบัลลังก์’ เมื่อวาน ด้วยเสียงสั่นสะอื้น และทำตาปริบๆ พอวันนี้กลับมากวนทีนใหม่ เมื่อถูกซักเรื่องสำนักเรทติ้งจัดอันดับสำนักนายกฯ ใช้งบมากไป
“Nielsen เผยสำนักนายกฯ ใช้งบพีอาร์มากสุดเป็นอันดับ ๑๓ ของประเทศ” ‘ตูบ’ ตอบด้วยอาการกึ่งยวนยี “ต้องดูว่าใช้ที่ไหน ใช้ไปตรงไหน อะไร อย่างไร...เชื่อว่าชี้แจงได้อยู่แล้ว” ‘ข้างๆ คูๆ’ อย่างเคย โดยอ้าง “สร้างการรับรู้ก็มากขึ้นในหลายๆ เรื่อง”
แต่คงไม่นับเรื่องซับซ้อนที่เกิดในหน่วยงานทหารมั้ง กำลังแซ่ด เมียน้อย สว.นางหนึ่ง เดิมเป็นเซลขายรถ และทำงานร้านกาแฟ สามีฝากเข้ารับราชการเป็นตำรวจ แต่ได้รับการส่งไปช่วยราชการ กอ.รมน.ส่วนหน้า รู้กันว่าตำแหน่งฝากนี่มักว่างมาก
เหตุเกิดเมื่อพบว่าคุณนายไม่หลวง เอาทหารหญิงชั้นผู้น้อยมาเป็นคนรับใช้ (ทส.) ในบ้าน “ยึดเงินเดือน ทำทารุณกรรมต่างๆ นานา” รายการ #โหนกระแส เปิดโปงว่า “ระบบเส้นสายในราชการมีอยู่จริง” ก่อนได้เป็นตำรวจเคยเข้าอบรมหลักสูตรผู้ช่วย สนช. ตอนปี ๒๕๖๑
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดทราบข่าว สั่งตรวจสอบแล้ว คงต้องรอฟังผลสักพัก ระหว่างนี้ฟังที่ ส.ส.พรรคก้าวไกลอภิปรายร่างงบประมาณรายจ่ายปี ๖๖ ว่าขอตัดงบฯ ของ กอ.รมน. ซึ่งอยู่ในส่วนของสำนักนายกฯ ออกสัก ๕% “หรือประมาณพันกว่าล้านบาท”
เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร บอกอะไรกัน งบฯ กอ.รมน.เยอะมาก ตั้ง ๕,๔๐๐ ล้านบาทกว่า เฉพาะที่เอาไปใช้จัดรายการบทเพลงเพื่อชาติฯ นั้นตั้ง ๒๐ ล้านบาท มันได้รักษาความมั่นคงตรงไหน “ควรโอนงบนี้ให้กับทหารและตำรวจปกติ” จะดีกว่า
เพื่อ “พวกที่เขาไปทำงานในพื้นที่เสี่ยงอันตราย ได้สวัสดิการที่ดี และอุปกรณ์ป้องกันที่ดี มีสวัสดิภาพชีวิตที่ดี มีความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่” เรื่องน่าเศร้าเหล่านั้น ไม่เห็นมีผู้นำคนไหนออกอาการตื้นตันจนเสียงสั่น พยายามบีบน้ำตา