วันอาทิตย์, สิงหาคม 21, 2565

หมดเวลาแล้ว“ประยุทธ์” ปัญหาต่างๆในสังคมไทย ยังเเก้ไม่ได้ เเถมยังเอาปัญหามาเพิ่มอีก ดังนั้น 8 ปีการเป็นนายกฯ ไม่ว่าจะนับกันรูไหน มันหมดเวลาของ พล.อ.ประยุทธ์แล้วจริง ๆ!


คนรู้กฎหมายน้อย 2 คนนั่งคุยกัน ในประเด็นร้อนการเป็นนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องต้องไม่เกิน 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เริ่มนับตั้งแต่เมื่อไหร่

คนแรกบอกเริ่มนับตั้งแต่วันที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯเมื่อวันที่ 24 ส.ค.57 ดังนั้นจึงครบ 8 ปี ในวันที่ 23 ส.ค.65

ส่วนคนที่ 2 บอกนับแบบนั้นก็ได้ เนื่องจากมีใครบางคนซึ่งเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญปี 60 เผลอให้ความเห็นหลุดออกมาแบบนั้นตามเจตนารมณ์ของผู้ร่างรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าจะนับแบบนี้ก็ได้นะ คือนับตั้งแต่พล.อ.ประยุทธ์เริ่มกินเงินเดือน

นายกฯ กินเงินประจำตำแหน่งเมื่อไหร่ ก็ให้นับตั้งแต่นั้นเรื่อยมา ซึ่งจะครบ 8 ปี ในเดือนส.ค.นี้แหล่ะ

 สรุปคือ 24 ส.ค.65 เวลาหมด หมดเวลาของ พล.อ. ประยุทธ์แล้ว เนื่องจากตั้งแต่ทำรัฐประหารเมื่อ 22 พ.ค. 57 เข้ามาบริหารประเทศใหม่ ๆ คุยฟุ้ง! ว่า “บริหารประเทศ ไม่เห็นยากตรงไหน”

แต่ผ่านมา 8 ปี ทั้งเรื่องปฏิรูปการเมือง บริหารเศรษฐกิจและสังคม ไม่ประสบความสำเร็จแม้แต่เรื่องเดียว!

1.ปฏิรูปการเมือง ถ้าพล.อ.ประยุทธ์มีความจริงใจ 8 ปีทำสำเร็จไปแล้ว แต่เพราะไม่จริงใจนี่แหล่ะคนไทยจึงแตกแยกกันมากกว่าเก่า แม้แต่พล.อ.ประยุทธ์ก็ไปไหนลำบาก! ผวาแม้กระทั่ง “ปากกา” ต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ 1-2 พันนาย มารักษาความปลอดภัย เพราะเขียนรัฐธรรมนูญถอยหลังเข้าคลองไว้สืบทอดอำนาจ ตั้งส.ว. 250 คน ไว้โหวตให้ตัวเองเป็นนายกฯ แล้ววางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีไว้ในรัฐธรรมนูญ กลายเป็น “กับดัก” ประเทศไม่ให้ก้าวเดินไปข้างหน้า

นอกจากนี้ยังร่างรัฐธรรมนูญเพื่อทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ กลายเป็นพรรคเล็ก พรรคน้อยเต็มสภา ทำให้มี “กล้วย” เลี้ยงลิงปลิวว่อน! ส่งผลให้มี “ส.ส.งูเห่า” ย้ายพรรคเต็มไปหมด

ขนาดคนกันเองแท้ ๆ อย่างนายไพบูลย์ นิติตะวัน ยุบพรรคตัวเอง ย้ายไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ ยังตอบไม่ถูกเลยว่าตัวเองเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่เท่าไหร่ของพลังประชารัฐ

2.ปัญหาเศรษฐกิจ ก่อนโควิด-19 มาเยือนประเทศไทย “จีดีพี” โตต่ำเตี้ยรั้งท้ายในอาเซียน โตไม่ทันกับการขยายตัวของหนี้สาธารณะ และหนี้ครัวเรือน ขณะที่รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์มือเติบ แต่หาเงินไม่เก่ง จึงจัดงบประมาณรายจ่ายประจำปี “ติดลบ” เพียบ! ทุกปี แต่การใช้เงินมือเติบ ไม่ได้ช่วยให้คนไทยส่วนใหญ่ลืมตาอ้าปาก หรือร่ำรวยขึ้น ในทางตรงกันข้ามกลับยากจนลงมากกว่าเก่า ความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยมีมากขึ้น กลายเป็นคนรวยกระจุก ยากจนกระจาย

ก่อนมีโควิด-19 รัฐบาลกู้เงินมาแจกผ่านหลายโครงการ มีบัตรคนจนไม่ต่ำกว่า 12-13 ล้านคน เมื่อสัปดาห์ก่อนเห็นข่าวว่าจะลงทะเบียนคนจนอีกแล้วช่วงต้นเดือน ก.ย. 65 ประมาณ 15-16 ล้านคน หันไปหันมา คงกู้มาแจกอีก

รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ใช้งบมากมาย เบิกจ่ายโครงการบริหารจัดการน้ำเป็นล้านล้านบาท มากกว่ายุคนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลายเท่าตัว แต่น้ำท่วม-ภัยแล้งยังมีอยู่ทุกปี ส่วนรถไฟความเร็วสูงสายแรก สร้างเสร็จยังไม่ถึง 5 กิโลเมตร

3.ปัญหาสังคม คนว่างงาน-ตกงานมาก อาชญากรรมสูง สถิติฆ่าตัวตายสูงติดอันดับโลก นักเรียนหลุดออกจากระบบการศึกษามากขึ้นเพราะความจน จนขนาดผู้ปกครองขอให้เลิกใส่ชุดลูกเสือ-เนตรนารีได้หรือไม่ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งไม่มียุคไหนเป็นแบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงยาเสพติดระบาด ถึงขั้นส่งออกไปต่างประเทศ แล้วถูกปลายทางจับกุมได้บ่อย ๆ

ปัญหา “ไอซ์-ยาบ้า” ยังแก้ไม่ได้เลย เพียงแค่ทำยาบ้าให้ราคาถูกลงมาก ๆ จากยุคก่อน ๆ แต่ก็เอา “กัญชา” มาเป็นภาระให้สังคมไทยอีก! ดังนั้น 8 ปีการเป็นนายกฯ ไม่ว่าจะนับกันรูไหน มันหมดเวลาของ พล.อ.ประยุทธ์แล้วจริง ๆ!!

ที่มา เดลินิวส์