“มันเป็นอย่างนี้นี่เอง” incentives ตู่อยากอยู่ต่อ กับการอมรมบ่งบอกสติปัญญาผู้พิพากษา

มันเป็นอย่างนี้นี่เอง วันนี้มีสองเรื่อง ฝ่ายบริหารด้านหนึ่ง กับฝ่ายตุลาการอีกหนึ่ง ลองคิดก่อนอ่านสิว่า ‘ใครงั่ง-ใครเขี้ยว’ กว่ากัน ด้านหนึ่งก็นายกฯ นี่แหละที่เขาว่างั่งๆ ที่แท้เขี้ยวสุดๆ ทางด้านผู้พิพากษาตุลาการมีแต่คนเคารพนบนอบว่าทรงภูมิเหลือหลาย ที่ไหนได้

เรื่องนายกฯ คนนี้ที่กระสันต์นักหนาจะไปต่ออีกอย่างน้อย ๑ สมัย ทั้งที่ผ่านมา ๘ ปี ไม่มี ๕ อะไรเลย เคยอ้างด้วยตนเองและบริวารอ้างให้ว่าใจซื่อมือสะอาด (ญาติผู้น้องไม่เกี่ยว) ชอบทำตัวเป็นไบโพล่า ยักคิ้วหลิ่วตา บางครากรุ้มกริ่ม บางครั้งฉุนเฉียว

แต่เบื้องลึกสำมะคัญนักละ เรื่องของฟรี ของแถม ไม่ค่อยโฉ่งฉ่าง นุ่มๆ ตามน้ำ ก็ไม่พ้นความจริงหลุดออกมาเป็นครั้งคราว โน่นนิดนี่หน่อยตลอด ๘ ปี น่าจะอักโขอยู่ ตัวเลขกลมๆ ก้อนๆ ยังปกปิดไว้ ก็อาจผ่องถ่ายกระจายเกลี่ยไปทั่วแหละ

บัญชี Shutup2557@shutup2557 เอาเรื่องเก่ามาปูดให้เห็นในประเด็นที่เขาต้องการประจานว่า “มิน่าไม่ยอมออกง่ายๆ กรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน (มีกรรมการอื่นอีก ๒๘ คน นั้น) ตั้งมาเกือบ ๕ ปี ประธานได้เบี้ยประชุมครั้งละ ๒๐,๐๐๐ บาท”

“ปีแรกขยันหน่อยประชุม ๕ ครั้ง ปีหลัง ๆ เฉลี่ยปีละ ๒ ครั้ง” กดเครื่องคิดเลข เฉพาะประธานถึงวันนี้ฟาดตามน้ำไปแล้วราว ๓ แสน ขนหน้าแข้งประเทศไม่ร่วง แต่กับอีก ๒๘ คน เบี้ยประชุมครั้งละ ๑๖,๐๐๐ ถึง ๑๘,๐๐๐ พวกเลขานุการคนละ ๘ พัน โขอยู่

อีกคณะตั้งมาเกือบ ๕ ปี เช่นกัน กรรมการ ป.ย.ป. (ปฏิรูปและปรองดอง) ก็มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พร้อมกรรมการอีก ๑๔ คน คณะนี้ได้น้อยกว่าหน่อย เบี้ยประชุมประธาน ๙,๖๐๐ บาท พวกกรรมการต่ำกว่าก็ยัง ๗,๐๐๐ บาทต่อครั้ง

คุณ ‘ชัตอัพ’ แกว่าประเด็นเศร้าอยู่ที่ บักตู่นี่เขา “ควบ ๕๖ ตำแหน่ง” แค่ ๕๖ คูณ ๓๐๐,๐๐๐ นั่นมันเกือบ ๑๗ ล้านแล้วนะ บวกของฟรีที่เห็นๆ บ้านหลังใหญ่ในค่ายทหาร ตกแต่งใหม่ชนิด ‘state of the art’ ไม่ต้องซื้อไม่ต้องเช่า ค่าน้ำไฟฟรี แถมทหารคนใช้หลวงจ่าย

อย่างนี้ถึงได้อยากอยู่ต่อใจจะขาด เปลี่ยนบทบาทแล้วหลายรอบ ขู่บ้าง อ้อนบ้าง คอยลุ้นกันดูสมัยหน้าอีท่าไหน ใครไม่อยากเจอตู่อีกต้องรีบไปทุ่มแลนด์สไล้ด์ให้พรรคแม้วนะ ‘นางแบก’ เค้ายิ่งขู่อยู่ว่าถ้าได้เสียงไม่ถึง ๑๙ ล้าน จะไปร่วมพลังประชารัฐ

ส่วนเรื่องของพวกตลาการนั้น Khemthong Tonsakulrungruang เพิ่งโพสต์ไว้เมื่อสองวันก่อน ถึงการบ่มเพาะผู้ที่จะมาเป็นผู้พิพากษา ในชั้นแรกของการอบรมก่อนจะเข้าไปเป็นผู้ช่วยฯ “มันถูกออกแบบมาให้ผู้พิพากษานั้นห้ามคิด...

ทุกย่างก้าว ทุกจังหวะถูกกำหนดไว้แล้วอย่างเคร่งครัด มีกฎเกณฑ์ในทุกรายละเอียดที่ทำ” อจ.เข็มทองแนะให้ดูระเบียบตั้งแต่ข้อ ๖ ถึง ๙ “บอกกลายๆ ถึงคุณภาพผู้เข้าอบรมและทัศนคติที่ผู้ใหญ่มองอนาคตผู้พิพากษาเหล่านี้”

ว่าที่จริงตั้งแต่ข้อ ๑ ก็เห็นแล้วว่าเหมือนการอบรมเด็กมัธยม ข้อ ๖ นั้นบอกวิธีเสียบบัตรเปิดประตูห้องพัก (เหมือนโรงแรม) ข้อ ๗ ว่าเวลาออกจากห้องอย่าลืมเก็บ ‘คีย์แท็ก’ ระบบไฟในห้องจะได้ปิดอัตโนมัติ ข้อ ๘ สอนวิธีกดปุ่มยึดประตูก่อนปิด

ข้อ ๙ นั่นเตือนความประพฤติอย่ามักง่าย แม้เปิดก็อกแล้วน้ำไม่ไหลก็ต้องปิดกลับทุกครั้ง ปล่อยทิ้งไว้เกิดเดี๋ยวน้ำกลับมาไหล เปลืองน้ำตายห่ ต้องช่วยกันประหยัด มิน่าตอนได้เป็นผู้พิพากษาแล้ว พิจารณาคดีสามกีบ ไม่ชอบฟังคำให้การจำเลย

อ๋อ ประหยัดค่าใช้จ่าย ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

(https://www.facebook.com/khemthong.tonsakulrungruang/posts/6V3l และ https://twitter.com/shutup2557/status/1547769490272063488)