.jpg)
Sarinee Achavanuntakul - สฤณี อาชวานันทกุล
July 22
ซื้อกิจการ = คู่แข่งหายไป 1 ราย
ควบรวมกิจการ = คู่แข่งหายไป 1 ราย
ต่างกันหลักๆ แค่ “ใคร” จะเป็นเจ้าของบริษัทบ้างหลังดีลจบ จะจัดโครงสร้างบริหารกันอย่างไร
ดังนั้นถ้า กสทช. มีอำนาจอนุมัติการซื้อขายกิจการที่มีนัยสำคัญต่อสภาพการแข่งขัน กสทช. ก็ย่อมมีอำนาจอนุมัติการควบรวมกิจการที่มีนัยสำคัญเช่นเดียวกัน ใช้แค่สามัญสำนึกพื้นๆ ก็ได้แล้วค่ะ ไม่ต้องสาธยายอะไรยืดยาว
#รอติดตามตอนต่อไป
Brand Inside
July 22
สรุปประเด็นจาก ศุภชัย เจียรวนนท์ ดีล True-dtac ไม่ใช่ซื้อกิจการ
.
ศุภชัย เจียรวนนท์ CEO จาก CP และ True ยืนยันดีล True-dtac ไม่ใช่การซื้อกิจการ แต่เป็นการ “ควบรวม” ที่สามารถทำได้ โดยทั้งสองฝ่ายยังคงถือหุ้นในบริษัทใหม่ ฝ่ายละประมาณ 30% ทั้องสองฝ่าย ไม่มีผู้ถือหุ้นใหญ่
.
ที่ผ่านมาได้เสนอผู้ถือหุ้นทั้ง True-dtac เพื่อขอความเห็น ซึ่งเกินกว่า 90% ให้ความเห็นชอบ และทำการศึกษารายละเอียดการควบรวมไปเกือบ 100% แล้ว ติดแค่ขั้นตอนการกำกับดูแลจาก กสทช.เท่านั้น
.
True-dtac ได้ยื่น Filling พร้อมด้วยแผนธุรกิจและข้อมูลทุกอย่างไปตั้งแต่ 25 ม.ค. 65 ตามระเบียบของ กลต, ตลาดหลักทรัพย์และ กสทช. ซึ่งควรจะได้ข้อสรุปตั้งแต่ พ.ค. 65 แต่ที่ติดขัดคือ เงื่อนไขการควบรวมจาก กสทช.
.
ตามกฎหมาย การควบรวมไม่ได้เป็นข้อห้าม ไม่ต้องรอการอนุมัติ แต่ กสทช. มีอำนาจกำหนดเงื่อนไข เพื่อลดผลกระทบในทางลบที่อาจเกิดขึ้น และสร้างผลประโยชน์ในทางบวก ซึ่ง True-dtac พร้อมให้ความร่วมมือ เพื่อให้ดีลจบโดยเร็ว
.
หากพิจารณาจากที่ผ่านมา เคยมีการควบรวมเกิดขึ้นมาแล้ว เช่น การควบรวมระหว่าง TOT-CAT กลายเป็น NT ในปัจจุบัน เป็นการทำเพื่อปรับตัว เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ซึ่งสามารถทำได้ โดยไม่ต้องขออนุมัติจาก กสทช. แต่แตกต่างจากดีลของ AIS-3BB ที่เป็นการซื้อกิจการ คือ เหลือผู้ถือหุ้นเพียงฝ่ายเดียว ดังนั้นจึงถือเป็นคนละกรณี
.
True-dtac ระบุว่า ต้องได้ข้อสรุปเงื่อนไขการควบรวมจาก กสทช. ภายในเดือน ก.ย. 65 เพื่อเดินหน้าการควบรวมต่อไป การล่าช้าไม่ส่งดีต่อความเชื่อมั่นและอุตสาหกรรมในภาพรวม แต่หาก กสทช.จะยับยั้งการควบรวมนี้จริง ต้องไปฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ True-dtac ไม่ได้ต้องการให้เกิดขึ้น
.
ศุภชัย มองว่า ตอนนี้ทุกอุตสาหกรรมโดน Disrupt กันทั้งหมด ธนาคารไทยต้องแข่งขันกับ FinTech ทั่วโลก, Digital TV ของไทย ต้องแข่งกับ Digital Media อย่าง Netfilx และ Disney+ ดังนั้น การควบรวม True-dtac จึงเป็นการรวมตัวเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้นและแข่งขันในตลาดได้
.
การมองว่าการควบรวมจะทำให้ผู้ให้บริการโทรคมจะลดจาก 3 รายเหลือ 2 ราย True-dtac ยืนยันว่าการแข่งขันไม่ได้ลดลง ค่าบริการไม่ได้แพงขึ้น เพราะ กสทช. ยังควบคุมค่าบริการพื้นฐาน และมีกลไกตลาดอยู่แล้ว ในทางกลับกัน การมีผู้เล่น 2 รายที่แข็งแกร่ง น่าจะทำให้การแข่งขันมากขึ้นด้วย
.
อ่านรายละเอียดเต็มๆ ที่ https://brandinside.asia/true-dtac-merging-not-acquire/
