WorkpointTODAY
20h
โฆษกกลาโหม เผยเร่งตามจับโจรขโมย ‘พญาคชสีฯ’ หน้า สทป. เชื่อตามตัวไม่ยากเพราะมีกล้องวงจรปิดจำนวนมาก และต้องสอบสวนว่าเป็นฝีมือคนในหรือคนนอก
.
พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีมีโจรขโมย พญาคชสีห์ราชเสนีย์พิทักษ์ ที่ประดิษฐานซุ้มหน้า อาคารสำนักงาน สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) กระทรวงกลาโหม เนื้อโลหะ ที่มีความสูงประมาณ 10 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว จำนวน 1 องค์ว่า น่าจะตามตัวได้ เพราะมีกล้องวงจรปิดจำนวนมาก
.
ทั้งนี้ ต้องเร่งประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยหาตัวผู้กระทำความผิด มาดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็ว เบื้องต้นต้องสอบสวนก่อนว่าเป็นการกระทำของบุคคลภายใน หรือคนนอก และพิสูจน์ทราบจากทั้งพยานวัตถุและพยานบุคคล ที่เกี่ยวข้อง และเชื่อว่าน่าจะไม่ยากมาก เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีกล้องวงจรปิด ทั้งภายในและภายนอกหลายตัว
.
#workpointTODAY
#สาระความรู้เพื่อวันนี้
.....
รู้จัก "พญาคชสีห์ราชเสนีย์พิทักษ์" พบหล่อในปีมหามงคล ร.9 ครองสิริราชสมบัติ 60 ปี
รู้จัก "พญาคชสีห์ราชเสนีย์พิทักษ์" ประดิษฐานซุ้มหน้า สทป. ก.กลาโหม หลังสูญหาย พบหล่อขึ้นในปีมหามงคล ร.9 ครองสิริราชสมบัติ 60 ปี และ กลาโหม 120 ปี
วันนี้ (29 ก.ค.65) จากกรณี "พญาคชสีห์ราชเสนีย์พิทักษ์" ที่ประดิษฐานซุ้มหน้า อาคารสำนักงาน สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) กระทรวงกลาโหม เนื้อโลหะ ที่มีความสูงประมาณ 10 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว จำนวน 1 องค์ หายไปเมื่อ 27 ก.ค.2565 ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนหาผู้กระทำความผิด
สำหรับประวัติ "พญาคชสีห์ราชเสนีย์พิทักษ์" ของ สทป.เป็นการหล่อองค์จำลองเพื่อแจกจ่ายให้กับหน่วยงานสังกัดกระทรวงกลาโหม เหล่าทัพ ทูตต่างประเทศ ในโอกาสปีมหามงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อปี 2549 และในโอกาสที่กระทรวงกลาโหมครบ 120 ปี
ในขณะนั้น กระทรวงกลาโหม ได้จัดสร้าง "พญาคชสีห์" สัญลักษณ์กระทรวงกลาโหม ซึ่งนำมาจัดตั้งบริเวณทางเข้าออกกระทรวงกลาโหม เนื่องจากองค์พญาคชสีห์เป็นสัตว์ในเทพนิยาย เป็นส่วนผสมระหว่างราชสีห์กับช้าง (คช) ซึ่งในสมัยโบราณถือว่าคชสีห์เป็นเครื่องหมายแทนทหาร รวมทั้งตราประจำตำแหน่งของสมุหกลาโหมก็ใช้ตราคชสีห์เป็นสัญลักษณ์
สำหรับความสูงของพญาคชสีห์ ซึ่งวัดจากพื้นถึงหลังตามหลักการวัดส่วนสูงของม้าจะมีความสูง 120 ซม.เท่ากับ 120 ปี กระทรวงกลาโหม แต่ถ้าวัดจากฐานถึงลายกนกที่เป็นส่วนสูงสุด จะสูงทั้งหมด 4.50 ม. โดยพระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา เป็นผู้ดูแลในเรื่องของพิธีกรรมทางศาสนาและตั้งชื่อพญาคชสีห์ ซึ่งจะมีพิธีเททอง ที่โรงหล่อที่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา
โดยมีการหล่อ 2 องค์ ที่มีลักษณะต่างจากดวงตราที่เคยมี เพราะดวงตราดังกล่าวนั้นจะมองในทางข้าง ซึ่งจะมีท่ายืนยกเท้าข้างหนึ่ง แต่องค์คชสีห์ที่จะหล่อขึ้นใหม่จะยืน 4 เท้ามั่นคง และเท้าหลังย่างไปข้างหน้า โดยทั้ง 2 องค์ตั้งที่ประตูทางเข้า-ออกของกระทรวง ประตูทางเข้าอยู่ทางทิศใต้ มีชื่อว่า "พญาคชสีห์สยามปฐพีพิทักษ์" หมายความว่าพิทักษ์แผ่นดินไทย
ส่วนองค์ทางประตูออกซึ่งอยู่ทิศเหนือชื่อว่า “พญาคชสีห์ราชเสนีพิทักษ์” หมายความว่าเป็นทหารพิทักษ์พระราชา ซึ่งความหมายรวมคือเราจะพิทักษ์ประเทศชาติและราชบัลลังก์
โดยมีพิธีพุทธาภิเษก และ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานเปิดแพรคลุมป้าย
อย่างไรก็ตาม นอกจากองค์คชสีห์ดังกล่าวแล้วยังจะสร้างองค์คชสีห์จำลองรุ่นที่ 1 อีก 109 องค์ และมีการเข้าพิธีพุทธาภิเษกเช่นกัน โดยจะมีหมายเลขประจำองค์กำกับตั้งแต่เลข 001/109-109/109
ทั้งนี้ องค์แรกหมายเลข 001 จะเก็บไว้เป็นต้นแบบพร้อมกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการจัดสร้างไว้ที่กระทรวงกลาโหม เพื่อให้ไว้เป็นประวัติศาสตร์ องค์ที่ 2 จะถวายพระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา องค์ที่ 3 มอบให้ พล.อ.เปรม
ส่วนองค์ต่อ ๆ ไปจะมอบให้สมุหราชองครักษ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ที่ยังมีชีวิตอยู่ หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และคณะกรรมการที่มีส่วนจัดสร้าง รวมทั้งผู้บังคับบัญชาชั้นสูง หรือผู้มีอุปการคุณต่อกระทรวงกลาโหมในโอกาสข้างหน้า
ที่มา Thai PBS