แต่ก็ยังไม่มีใคร ไม่ว่าฝ่ายไหน เชื่อแน่ว่า ‘เสี่ยแป้ง’ จะทำได้จริงดังว่า ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หัวหมู่ทะลวงฟันใน ‘ครอบครัวเพื่อไทย’ คนหนึ่งละประกาศว่า การประกาศเป็นฝ่ายค้านอิสระ ไม่ยอมรับการยื้ออำนาจของประยุทธ์จริงละก็
“ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย ทั้ง ๑๖ คน ๑๖ แต้ม ต้องเป็นเอกฉันท์ เกมศูนย์” ไม่เท่านั้น ธรรมนัสยังจะต้องนำอีก ๑๖ เสียงของกลุ่มพรรคจ้อยๆ ที่ถูกกวาดไปร่วมรัฐบาล ออกมาร่วมด้วย ฐานที่ธรรมนัสเองเป็นคนแจกกล้วยพรรคเหล่านี้มาก่อน
ถ้าพรรคเศรษฐกิจไทยของธรรมนัส และกลุ่ม ๑๖ ของ พิเชษฐ์ สถิลชวาร มาอยู่กับฝ่ายค้านครบถ้วนเป็นกอบเป็นกำ นั่นจึงจะมีความหมาย ที่อาจทำให้เสียงของพรรคร่วมฝ่ายค้านถึง ๒๔๐ เกินกว่ากึ่งหนึ่งที่ต้องการของ ส.ส.ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ ๔๗๗ คน
ณ ขณะนี้เสียงของฝ่ายค้านนับได้เพียง ๒๐๘ (รวม ๕ งูเห่าก้าวไกล) จากตัวเลขของบีบีซีไทย ถึง ๒๒๙ เสียง บวกเศรษฐกิจไทยกับกลุ่ม ๑๖ บางคน ตามการประเมินของเพจ ‘Kanmuang’ การโหวตในวันที่ ๒๓ ก.ค.จะเป็นดัชนีชี้รูปพรรณของธรรมนัส ในการเลือกตั้งใหญ่
“ติดปัญหาว่ายังไม่ได้เป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการ และยังไม่ทราบว่าฝ่ายค้านจะให้เข้าร่วมทำงาน หรือจัดสรรเวลาให้พรรคเศรษฐกิจไทยด้วยหรือไม่” ธรรมนัสปรารภกับนักข่าวไทยรัฐ ตามข่าวเมื่อวันที่ ๑๕ ซึ่งสุทินก็ให้สัมภาษณ์เช่นกันว่า
“ยังไม่มีการประสานเข้ามา” แต่ “อาจพิจารณาดู” อีกทั้ง “ได้ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของสภาแล้ว ในข้อบังคับการประชุมสภา ไม่ได้ปิดกั้นการอภิปรายของ ส.ส. ที่ไม่ร่วมลงชื่อในญัตติแต่อย่างใด” ยังมีเวลาอีกหลายวันคุยกันได้
เว้นแต่ว่าในวันพรุ่งนี้ (๑๗ ก.ค.) วันที่ธรรมนัสกำหนดจะไปกราบลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เห็นว่าพิเชษฐ์ก็จะเข้าพบเฮียป้อมวันเดียวกัน จะพร้อมกันไปเลยหรือว่าแยกห้องพบ ไม่แจ้ง ถึงอย่างนั้นข้อน่าสนใจอยู่ที่
หลังจากสองคนนี่กลับออกมาจากพบประวิตรแล้ว จะมีอะไรโผล่ออกมาจากกอไผ่หรือไม่ เท่านั้นละ
(https://www.bbc.com/thai/thailand-62176164 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_3456471)
