วันพุธ, พฤษภาคม 04, 2565

เก็บตกวันเมย์เดย์ ทำงานจนแทบสำลักความดิ้นรน แต่ยังคงยากจนเป็นนิรันดร์….


จ้างวานข้า โดยมูลนิธิกระจกเงา
May 1 at 6:08 AM ·

ทำงานจนแทบสำลักความดิ้นรน แต่ยังคงยากจนเป็นนิรันดร์….
.
“ผมเร่ร่อนมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ปี 2521 นอนที่แรกคือสะพานพุทธ และก็มาเร่ร่อนตามสนามหลวง ตอนนั้นก็หางานทำ พวกงานล้างจาน งานรับจ้างทั่วไป หางานยากมาก ได้ค่าแรงก็น้อย ผมทำงานตั้งแต่ได้ค่าจ้างวันละ 10 บาท เดือนนึงก็ได้แค่ 300 บาท ตอนนั้นยิ่งลำบาก เพราะไม่ค่อยมีของแจก ต้องมีงานทำเท่านั้นถึงจะมีเงินกิน”
.
“ผมเป็นคนเปลี่ยนงานบ่อยมาก เพราะโดนเอาเปรียบตลอด บางครั้งเจอเถ้าแก่บ่นด่าก็ไม่อยากทำแล้ว ก็เลยเลือกที่จะหนี เคยทำงานเข็นผักที่มหานาค เข็นมาหลายปีก็ไม่มีเงินเก็บสักที อาศัยนอนบนรถแตงโมที่เป็นรถสิบล้ออะไรแบบนี้ ตีสี่ก็ตื่นมาเข็นผัก ช่วงเที่ยงก็รับจ้างลงแตงโม ก็เช่ารถเข็นวันละ 4 บาท เลี้ยงชีพไป”
.
“ผมอยู่แบบนี้มา 3-4 ปี จนเปลี่ยนงานไปทำพวกงานชิงช้าสวรรค์ตามงานวัด ไปเป็นแรงงานประกอบพวกเครื่องเล่น ขนย้ายของไปตามงานต่างๆ ทั่วกรุงเทพ ก็ได้วันละ 10-15 บาท ดีที่กินอยู่กับนายจ้างเลยไม่กังวลค่ากินมากนัก แต่ถามว่ามีเงินเก็บไหม โอ๊ย!!!! เป็นแรงงานแบบนี้จะเอาที่ไหนเก็บ กินไปวันๆ เท่านั้น ความมั่นคงนี่เป็นศูนย์เลย”
.
“ช่วงเร่ร่อนผมก็ไปนอนทั่ว วันนั้นมานอนที่หัวลำโพงและเจอสำนักงานจัดหางาน ตอนนั้นผมไม่คิดอะไรก็เข้าไปสมัครเลย ผมก็มีงานไปทั่วมีงานทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัดไปเรื่อยเปื่อย ตั้งแต่งานล้างจาน เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ แต่ตอนนั้นมันก็ไม่มีเงินพอที่จะทำให้เราเช่าห้องได้ ก็ร่อนเร่ไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ได้นอนข้างนอก ก็จะนอนที่ที่นายจ้างเขาหาให้”
.
“อีกงานที่ติดอยู่ในใจเลยคือตอนผมไปลงเรือ ผมไปยังอิหร่านนู่นเลย อยู่ตั้ง 40 เดือน บนเรือผมทำหน้าที่ลากปลา คัดปลา แล้วก็จับฟรีซมาเป็นก้อนขึ้นใส่ตู้ กินอยู่บนเรือ นอนก็นอนที่นั่น และงานที่ทำเนี่ยมันหนักมากนะ แต่ผมรับได้ ไม่ได้รู้สึกทรมานอะไร เพราะมันมีค่าตอบแทนที่รับได้ และส่งเงินกลับมาให้พี่สาวเก็บได้”
.
“แต่พอกลับมาเงินมันไม่เหลือแล้ว เพราะพี่เขยป่วยหนักต้องใช้เงินรักษา เงินก้อนนี้ทีแรกตั้งใจจะเก็บไว้ซื้อรถสักคันแล้วหาเก็บของเก่าขาย จากนั้นก็เช่าห้องเล็กๆ อยู่คนเดียวสบายๆ แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้มันหมดไปแล้ว ตอนนั้นเราก็แย่ด้วยเพราะแข้งขาไม่ค่อยดีเหมือนเดิม ก็เอาเงินเก็บไปรักษาสุดท้ายหมอบอกเป็นข้อเข่าเสื่อม เพราะงานที่ไปทำมันหนัก ทำมาหลายปี มันก็สะสมมาเรื่อยๆ สุดท้ายเงินหมด ก็ออกมาเร่ร่อนเหมือนเดิมจนได้”
.
“ช่วงปี 2562 ผมได้งานประจำทำ เป็น รปภ ที่โรงเรียน ผมเลยตัดสินใจเช่าห้องอยู่แถวทุ่งครุ เดือนละ 1,700 บาท นี่คือห้องเช่าที่ผมควักเงินจ่ายเองครั้งแรกตั้งแต่เร่ร่อน แต่ทำได้สักพักมาโดนโควิดซัดจนเละ จนเขาจำหน่ายเราออก เพราะโรงเรียนปิด ที่อื่นก็หมุนเวียนไปไม่ได้ เพราะไม่มีใครจ้าง ไม่มีใครต้องการเราแล้ว ตอนนั้นเขาก็ให้ออกเลย ออกมาลอยๆ ไม่มีเงินชดเชยอะไรทั้งนั้น ตอนทำสวัสดิการก็ไม่มีให้ เพราะเป็นแค่ลูกจ้างรายวัน เงินก็ออกไม่เคยตรง ก็นั่นแหละผมเช่าห้องอยู่ได้แค่ 4 เดือน ก็ออกมานอนใต้สะพานอีก มันไม่มีรายได้ ไม่รู้จะทำไง ทีนี้ล่ะก็นอนยาวเลย ไร้บ้านโดยสมบูรณ์อีกครั้ง”
.
“ผมคิดว่างาน..สำคัญกับชีวิตผมมากนะ แต่สภาพร่างกายผมตอนนี้ ผมยอมรับตรงๆ เลยว่าผมทำงานหนักไม่ไหวแล้ว เดินมากก็ไม่ค่อยไหว เริ่มจะเจ็บจะปวด ข้อเข้าเสื่อมอีก ผมว่าร่างกายมันไปไวกว่าอายุ ผมยังไม่ 60 เลย มันเริ่มเจ็บ เริ่มปวดแล้ว น่าจะมาจากตอนเป็นยามที่เดินทั้งวัน ยืนทั้งวันด้วย ช่วงนั้นก็แอบนั่งบ้าง เพราะมันไม่ค่อยไหว เพราะผมอยู่ 13 ชั่วโมง บางทีเพื่อนมาเข้ากะสายผมก็ต้องอยู่ต่อ ไม่คุ้มหรอกกับค่าแรงที่ได้ บางทีก็โดนหักไม่มีเหตุผล อยู่ยากงาน รปภ. เนี่ย”
.
“ทุกวันนี้เวลาปวดแข้งปวดขาก็ซื้อยากิน ไม่กล้าซื้อแพงหรอกนะ เพราะไม่มีเงิน อย่างเก่งก็กินยาแก้ปวดพวก ทิฟฟี่ พาราธรรมดา แก้ปวดไปวันๆ ผมหาหมอครั้งเดียวก็ตอนลงจากเรือนั่นแหละ และไม่เคยไปหาอีกเลย เพราะกลัวเสียเงิน นี่ก็อยากทำงาน เออ..เราจะได้เอาเงินไปหาหมอบ้าง แข้งขามันจะได้ไม่ทรุดไปมากกว่านี้”
.
“วันนั้นผมเห็นทีมงานจ้างวานข้าไปประกาศข่าวรับสมัครงานที่วัดเจ้าอาม ก็เลยรีบมาสมัครเลย ก็โอเคนะทำวันสองวันได้มีเงินกิน ถ้าถามว่าตอนนี้อยากเช่าห้องไหม คงตอบว่ายังไม่อยาก เพราะกลัวว่าเช่าไปก็ต้องออกมาอีก มันไม่มีความมั่นคงอะไรกับชีวิตผมเลย ตอนนี้เลยอยากอยู่แบบนี้ไปก่อน ถ้าผมทำงานพอเก็บเงินได้ สักพักผมก็คงเช่าแหละแต่ก็ต้องดูต่อไปยาวๆ”
———————————————
จากข้อเท็จจริงที่เจอ…
- เราพบว่าคนหลายคนที่มาทำงานจ้างวานข้านั้น ในอดีตพวกเขาทำงานกันตัวเป็นเกลียว
- เราพบว่าแม้ทำงานกันจนตัวเป็นเกลียว รายได้ที่ได้นั้นแค่พอกินพออยู่ ไม่เคยเฉียดเข้าใกล้เพื่อการเก็บออมได้เลย
- เราพบว่าจากการทำงานตัวเป็นเกลียวนี้เอง ส่งผลอย่างมากให้ร่างกายพวกเขาเสื่อมทรุดไปมาก
- เราพบว่าความเสื่อมทรุดของร่างกายนี้เองทำให้เขาไม่สามารถเข้าแข่งขันในตลาดแรงงานได้อีกต่อไป เป็นสิ่งชำรุดของระบบแรงงาน
- เราพบว่าสิ่งที่ซ้ำร้ายสูงสุดของพวกเขานั้นก็คือ การไม่ได้รับการดูแลจากสวัสดิการที่ดีพอ ทั้งในยามทำงานตัวเป็นเกลียว ทั้งในยามเป็นสิ่งชำรุดในระบบแรงงาน รวมถึงยามที่เขาอยู่ในวัยชรา วัยที่ผ่านการสร้างผลิตภาพทางเศรษฐกิจมานับไม่ถ้วนแล้วให้กับสังคมนี้
———————————————
สนับสนุนจ้างวานข้าได้ที่
โครงการผู้ป่วยข้างถนน โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่บัญชี 202-2-58289-4 SCB
.
#จ้างวานข้า #จ้างวานคนไร้บ้านให้มีงานทำ
#โครงการผู้ป่วยข้างถนน
#มูลนิธิกระจกเงา