นายกฯ ออกทีวีพูลครั้งสำคัญ นั่งอ่านโพยแบบตาไม่กระพริบอยู่พักใหญ่ ได้ความว่าจะเปิดประเทศตามสัญญา ๑๒๐ วันแน่ๆ ในวันที่ ๑ พฤศจิกา (ช้าไปเดือนนึง) ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว หากฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว
หลังจากนั้นอีก ๑ เดือน จะให้ธุรกิจเปิดบริการลูกค้าอย่างเต็มที่ เข้าไปดื่มกินในร้านอาหารตามสะดวกโดยไม่ต้องใส่หน้ากากป้องกันเชื้อ ยอมรับว่าทำแบบนี้เป็นการเสี่ยง “เกือบจะแน่นอนเลยว่า...จะทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เป็นการชั่วคราว”
แต่ไม่เงื้อง่าราคาแพง ไม่ยอมปล่อยให้ “เราต้องเสียโอกาส ในช่วงเวลาทองของการทำมาหากิน ไปอีกเป็นปีที่สองติดต่อกัน” หากมีอะไรไม่เป็นไปตามคาด ก็คิดว่าจะสามารถจัดการคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ อ้างผลงานที่ผ่านมาในการรับส่งมอบวัคซีน
“เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ถึง ๓ เท่าในทันที จากที่เดือน พ.ค. เราได้รับส่งมอบวัคซีน ๔ ล้านโด๊สเซส กลายเป็นเราได้รับส่งมอบวัคซีนถึง ๑๒ ล้านโด๊สเซสในเดือนกรกฎาคม และได้รับส่งมอบวัคซีนอีกถึงเกือบ ๑๔ ล้านโด๊สเซสในเดือน ส.ค.”
อ้างด้วยว่าจากนี้ถึงสิ้นปีจะมีวัคซีนเข้ามาเดือนละ ๒๐ ล้านโด๊สเซส “รวมเป็นวัคซีนจำนวนมากกว่า ๑๗๐ ล้านโด๊สเซส เกินเป้าหมายที่เราตั้งไว้เป็นอย่างมาก” แต่อย่าลืมว่านี่เป็นการวางแผน และ/หรือ อาจเริ่มดำเนินการแล้ว
ทว่ารัฐบาลประยุทธ์ก็ทำอย่างนี้มาแล้ว โดยไม่ได้ก่อผลลัพท์ตามเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นจำนวนวัคซีนหรือจำนวนการฉีด มิใยคำอ้างที่ประยุทธ์อ่าน บอกว่า “ทีมสาธารณสุขของไทย ดันยอดการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นถึง ๓ เท่า...จนถึงขั้น
ที่ประเทศไทยติดอันดับ ๑ ใน ๑๐ ประเทศที่ฉีดวัคซีนได้เร็วที่สุดในโลก ปัจจุบัน เฉลี่ยแล้วเราฉีดวัคซีนได้มากกว่า ๗๐๐,๐๐๐ โด๊สเซสต่อวัน และในบางวันเราฉีดวัคซีนได้มาก เกินกว่า ๑ ล้านโด๊สเซสก็ยังมี” ถึงอย่างนั้น นี่ก็ยังเพียงวาดภาพ -‘projection’
แท้จริง ครึ่งเดือนก่อนกำหนดเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มเสี่ยงน้อย ๑๐ แห่ง มีจำนวนวัคซีนที่เข้าไปในร่างประชากรแล้ว ราว ๓๕ ล้านโด๊สเซส จากเมื่อกลางมิถุนาประยุทธ์ประกาศว่าจะฉีดวัคซีนได้ทั้งสิ้น ๕๐ ล้านโด๊สเซสก่อนเปิดประเทศ
ดังนี้ต้องเร่งฉีดให้ครบตามกำหนดอีก ๑๕ ล้านโด๊สเซสภายในครึ่งเดือน ถึงฉีดทันก็จะไม่เห็นผลการปลอดเชื้อไวรัส เมื่อนักท่องเที่ยวเริ่มแห่เข้ามาต้นเดือนหน้า (ถ้าจะมี) มิฉะนั้นหากยังมีการติดเชื้อเพิ่มวันละหมื่น (แถม ATK) และจำนวนตายวันนี้กลับไป ๘๔
ก็จะเป็นความสำเร็จอย่างจำกัด แบบภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์อีก และยังเป็นความ ‘ไม่น่าเชื่อถือ’ ในคำประกาศของประยุทธ์ต่อไป แฮ้สแท็กขึ้นเทร็นด์ อันดับ ๑ ในประเทศไทย จึงเป็น #ประยุทธ์ “โดยมีผู้เข้าไปทวีตในประเด็นดังกล่าวกว่า 631K Tweets
ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องการเปิดสถานที่ ทั้งเรื่องการจัดหาวัคซีน และอนาคตของประเทศไทย” แสดงถึงความไม่ไว้วางใจ ไม่มั่นใจว่าประยุทธ์จะกลับมามี ‘น้ำยา’ อย่างก้าวกระโดดได้ ทั้งที่ออกตัวแรงขนาดนี้
ยิ่งการเปิดให้ผู้คนเข้าไปดื่มกินในร้านอาหารอย่างเต็มที่ เริ่ม ๑ ธันวา แม้นว่าจะเป็นข่าวดีสำหรับชาวบ้านขนาดไหน ความไร้ประสิทธิภาพของประยุทธ์ยังคงเป็นจุดเด่นกว่าราคาคุย ทั้งยังมีประเด็นคุณธรรมเข้ามาบังหน้า ดังทวี้ตของ บอล ธนวัฒน์ วงค์ไชย @tanawatofficial
ที่ว่า “ปังนะ ไม่บอกว่าจะเปิดโรงเรียน เปิดมหาลัยวันไหน แต่บอกแล้วว่าจะเปิดร้านเหล้าวันไหน #ประยุทธ์”
(https://www.matichon.co.th/politics/news_2986180, https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/posts/10162226052324848 และ https://www.facebook.com/BBCnewsThai/posts/3050924975128522:0)