วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 07, 2564

‘ดินแดงเดือด’ มีเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนคนหนึ่งถูกกระสุนเข้าที่หัว จากนี้ ‘นิติสงคราม’ ยิ่งกำเริบ

ยังไม่ทันพ้น ๖ ตุลา เมื่อคืน ดินแดงเดือด ไม่เพียงเพราะหน่วย คฝ. กระชับพื้นที่ทั่วบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ตั้งแต่สองทุ่มยันเช้า แล้วมีพวกตัวใหญ่ๆ ฝ่ายตำรวจไปตรวจงานกัน ผลก็คือมีการจับกุมวัยรุ่นและเด็กไปยี่สิบกว่าคน คุมไว้ที่ สน.พหลโยธิน

เหตุที่บอกว่า เดือด คราวนี้เพราะมีเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนคนหนึ่งถูกกระสุนเข้าที่หัว ขณะปฏิบัติการลุยอยู่ตรงบริเวณใต้แฟล็ต ๓ ต้องนำส่งโรงพยาบาล จนวันนี้ยังอาการสาหัส เดี๋ยววันนี้พรุ่งนี้คงมีการยืนเรียงแถวแถลงถึงความชั่วร้ายของ เยาวชนกัน

เหตุการณ์เมื่อคืน เท่าที่ฟังจากรายงานข่าวภาคเช้ารายการ เจ๊พีกับตี๋ปิงช่องเนชั่นออนไลน์ ได้ความว่ากองกำลังตำรวจ คฝ.ไปเฝ้ารอให้เกิดเรื่องตั้งแต่สองทุ่ม ยังไม่มีฝูงชนปรากฏจนกระทั่งได้เวลาเคอร์ฟิว ตำรวจสั่งให้บรรดานักข่าวที่รออยู่แถวนั้นถอยออกไป

มีการเสริมกำลัง คฝ.ระลอกแรก เริ่มออกตรวจตรา จึงมีกลุ่มวัยรุ่นยกกันมาจากในซอย ตะโกนโหวกเหวก จุดประทัดและพลุ ตำรวจจึงดาหน้าเข้าปะทะ เวลาราวสี่ทุม ๔๕ นาฑี มีเสียงปืนดังขึ้นเป็นชุด ปรากฏว่ากระสุนนัดหนึ่งเข้าศีรษะ ส.ต.ต.เดชวิทย์ เล็ทเทนสัน ผบ.หมู่ กก.อารักขา ๑

‘Hell broke’ ความดุเดือดก็มา ชุลมุนท่ามกลางเขม่าควันของการแลกเปลี่ยนพลุและแก๊สน้ำตา คฝ.ปูพรมเดินลุยเข้าค้นตามห้องพักและอาคารพาณิชย์ทั่งบริเวณแฟล็ตดินแดง จับผู้ต้องหาก่อความวุ่นวายไปราว ๑๖ คน ตามแถลงของรองโฆษก สตช.

จนกระทั่งเที่ยงคืนมีกำลังมาเสริมอีกระลอก คราวนี้ คฝ.ปฏิบัติการไล่จับผู้ร้ายอย่างหามรุ่ง รวมความว่าจับกุมได้เพิ่มอีกสิบกว่าคน ในหมู่ผู้ถูกจับกุมทั้งหมด เป็นเยาวชนหรือวัยรุ่น ๕ คน เป็นเด็กอายุ ๑๓ ปี ๑ คน แถมด้วยเด็กอายุ ๑๑ ขวบอีกหนึ่งคน

ความเดือดในฝ่ายประชาชนเกิดตรงนี้ เบื้องต้นจากนักข่าวทราบว่าเด็กอายุ ๑๓ นั้นตามพี่ไปดูเขาสู้กับตำรวจกัน ส่วนเด็กวัย ๑๑ ขวบนั่นคงเช่นกัน มี ส.ส.พรรคก้าวไกลสองคนลงพื้นที่เกิดเหตุกลางดึก ติดตามเหตุการณ์เกี่ยวกับเด็กทั้งสอง

ตามที่รายการเจ๊พีฯ เนชั่น เล่า ส.ส.รังสิมันต์ โรม พรวดถึง สน.พหลโยธิน พยายามสอบถามผู้กำกับฯ เรื่องเด็ก ๑๑ ขวบ แรกทีเดียว พล.ต.ต.พงษ์อนันต์ คล้ายคลึง ตอบว่ายังไม่ทราบ ต่อมา ส.ส.วิโรจน์ ลักขณาอดิสร ทวี้ตแจ้งเช้านี้

“น้องอายุ ๑๑ ขวบ สรุปแล้วสอบสวนไม่มีเจตนา ตำรวจตามให้คุณแม่มารับตัว ตอนนี้คุณแม่รับตัวกลับบ้านไปแล้ว สำหรับน้อง ม.๑ อายุ ๑๓ ปี...คุณพ่อ มารับตัวแล้วนะครับ กำลังลงบันทึกประจำวัน ถ้าเรียบร้อยแล้วน่าจะกลับบ้านได้ครับ”

โล่งไปที ไม่งั้นวันนี้ทั้ง คฝ.และนครบาลอาจโดนจวกเละ นี่ว่าตามมาตรฐานการเต้าข่าวภาคเช้า ของเนชั่นยุค เจ๊กับตี๋ซึ่งมีคอมเม้นต์ติดปลายไมค์ว่านครบาลเพิ่งเปลี่ยนหัวใหม่ ทั้ง ผบ.และรองฯ หวังว่าทีมกนก ณ กาแล็คซี่จะเอาเยี่ยงอย่างไปพัฒนาข่าว ททบ.๕ บ้าง

กับการที่ หัวใหม่ตำรวจฝ่ายจัดการประชาชนหัวแข็ง ทั้งนครบาลและสอบสวนกลาง คงจะยิ่งหนักมือมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ผบช.น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา หรือ ผบช.ก. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช รวมไปทั้งฝ่ายนิติสงครามในเครือข่ายศาลอาญา

ดัง ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนแจ้งว่าเมื่อเช้าวานนี้ (๖ ตุลา) ศาลฯ นัดไต่สวนคดี ละเมิดอำนาจศาล๓ คน ได้แก่ผู้กล่าวหา (ผอ.สำนักอำนวยการศาล) เจ้าหน้าที่รักษาความสงบศาล (รอง ผกก.ป.สน.พหลโยธิน) และผู้ถูกกล่าวหา (#เอฐ์เรียฐ์)

ผู้ถูกกล่าวหายอมรับว่า “วันเกิดเหตุได้มีการด่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนปฏิบัติหน้าที่ในบริเวณนั้นจริง แต่ไม่ได้มาจากสาเหตุความโกรธเคืองส่วนตัวแต่อย่างใด แต่มาจากความไม่พอใจในการทำงานของรัฐบาลในการบริหารจัดการโรคโควิด-๑๙”

คดีนั้น #เอฐ์เรียฐ์ ได้รับการปล่อยตัวรอฟังคำพิพากษาวันที่ ๑๙ ตุลา เช่นเดียวกับเยาวชนอายุ ๑๗ ปีผู้ต้องหาวางเพลิงสถานีตำรวจชุมชน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในการชุมนุมไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ของกลุ่มเยาวชนปลดแอกและ รีเด็ม

แต่กับ ๓ สมาชิกทะลุฟ้า ซึ่งร่วมทำกิจกรรมที่หน้า สน.ทุ่งสองห้องเมื่อ ๓ สิงหา มีการฟ้องคดีในวันที่ ๒๑ กันยา พนักงานสอบสวนขอเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวไว้ มาถึงวันที่ ๕ ตุลา ทั้งสามร้องศาลขอประกันตัว ศาลไม่อนุญาต อ้างเหตุสำเร็จรูป

ว่า “ผู้ต้องหาเพิ่งจะถูกจับกุมและศาลเพิ่งจะมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว...ไปเมื่อ ๒ วันที่ผ่านมา” วันนี้จะมายื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวใหม่อีก จึงไม่ให้เพราะ “ไม่มีพฤติการณ์แห่งการดำเนินคดีได้เปลี่ยนแปลงไป” และไม่ได้เสนอเงื่อนไขที่ต่างไปจากเดิม

รวมความการปฏิเสธง้ายง่าย สำหรับกรรมวิธีนิติสงครามของศาลไทย ก็คือ “ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่ง” จึง “ยกคำร้อง”

(https://tlhr2014.com/archives/36156, https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_6662619 และ https://www.facebook.com/watch/live/966235020903448_video)