วันศุกร์, ตุลาคม 01, 2564

สิ่งที่ทีมใหม่ข่าวช่อง ๕ จะไม่ทำ มันคือ 'สันดอน' ตกค้างมาจาก 'ท้อปนิวส์' นั่นแล

ใครไม่เคยดู ท้อปนิวส์พอฟังนายใหญ่ช่อง ททบ.๕ โฆษณาสรรพคุณทีมข่าวชุดใหม่ ซึ่งจะเริ่มเปิดเบิ่งกันตั้งแต่ปีใหม่นี้แล้ว รู้เลย กำพืดของพวก กนก-ธีระ-สันติสุข-สถาพร เป็นอย่างไร มันก็คือบรรดาสิ่งที่ พล.ท.รังษีบอกว่าข่าวช่อง ๕ จะไม่ทำนั่นละ

“จะไม่เติมฟืน เติมไฟ เติมเชื้อเพลิง ไม่ตัดสิน” และ “ไม่ค่อยให้ความสนใจเรื่องเรทติ้ง” ปัญหาอยู่ที่ ทีมกนกฯ (ขอเรียกสั้นๆ) จะทิ้งกำพืดได้หรือ ยิ่งถ้ายังทำงานทั้งสองแห่ง จะเปลี่ยนไปมาระหว่างหน้าตีนกับหลังมือ เดี๋ยวได้พัลวันพัลเก วุ่นตายห่

ลุ๊คน่ะเปลี่ยนได้ แต่สันดอนเปลี่ยนยากนะ กนกฯ เคยเป็นอย่างไรเมื่อครั้งจัดรายการฟ้าๆ อะไรนั่น ยังคงเป็นอย่างนั้นที่ท้อปนิวส์ นี่มาช่อง ๕ กนกบอกว่า “ต้องเสนอความจริงทุกด้าน ทุกมิติ...ต้องไม่ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม ไม่มีเฮชสปีด” ใครเชื่อ

กนกโทษสื่อสังคมว่าเป็นผู้สร้างความแตกแยก (คงหมายถึง ไทยแลนด์วิชั่น ไทยรักษา ประมาณนั้นมั้ง) พวกตนเป็นสื่อกระแสหลัก (แต่ผู้ชมเป็นพวกจำเพาะ) คอยบอกความจริง โดยเก็บข้อมูลจากโซเชียลในส่วนที่ไม่อวยรัฐบาลประยุทธ์ เอามาหักล้าง

ดังเช่นการไปเมืองนนท์ของประยุทธ์ มีชาวบ้านจำนวนมากปักหลักประท้วงที่ท่าน้ำ ทำให้คณะนายกฯ ต้องเปลี่ยนแผนนั่งเรือด่วนไปขึ้นที่รัฐสภาแทนท่าน้ำเมืองนนท์ ที่บรรยากาศการชุมนุมต่อต้านประยุทธ์อึกทึกที่เดียว ไหนจะป้าเป้าพูดโทรโข่ง ไหนหนุ่มหัวร้อนกระโดดถีบรถขบวน

สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เลยเอาข่าวจากโซเชียลมาเขียนใหม่ ใน TRUTHFORYOU.CO ว่า คนละรุ่น! บิ๊กตู่ฟาดไม่เลี้ยง หวดม็อบไล่ลุง ทำสะดุ้งทั้งการชุมนุม” อันเป็นการเสนอความจริงเฉพาะด้านของตน แบบเดียวกับกนก ผู้ประกาศว่า ซึ่งเราก็จะมาทำที่นี่ (ช่อง ๕) ด้วย”

บอกแล้วไงสันดอนแก้ไม่ได้ ดูอย่าง โคกหนองนาที่ฮือฮากันนักหนาว่าเที่ยวนี้น้ำไม่ท่วม แต่รอบๆ เจิ่งนองไปหมดสุดลุกหูลูกตา มีโผล่โด่อยู่แปลงเดียวเพราะถมที่สูงกว่าคนอื่น #ติดเกาะ มันช่วยอะไรไม่ได้เลยถ้าไม่ถมที่ให้สูงทั้งอำเภอ

สันดอนของทีมกนกฯ ก็คือการยกพื้นที่ของตนให้สูงกว่าอื่นๆ แบบโคกหนองนา มันไม่ได้ทำให้ทั้งอำเภอพ้นน้ำได้ ฉันใดก็ฉันนั้น ชัยวัฒน์ เตชะไพฑูรย์ ประธานบริษัทกาแล็กซีต้นสังกัดของสี่พิธีกร อวดตัวเหมือนกันว่า “มั่นใจในตัวพิธีกรซึ่งมีผู้ติดตามเยอะ

เชื่อว่าจะทำให้เรทติ้งช่องขึ้นมาอยู่ในระดับท็อปเทนได้ภายใน ๓ เดือน ส่วนเรทติ้งข่าวต้องขึ้นมาในประดับท็อปทรี” นี่ก็พูดแย้งต่อหน้าต่อตากับพลโทรังษี กิติญาณทรัพย์ ซึ่งบอกว่า “ไม่ค่อยให้ความสนใจเรื่องเรทติ้ง สนใจเรื่องความนิยม และความเชื่อมั่นมากกว่า”

การจัดแถลงข่าวเสียอย่างมโหฬาร บ่งบอกเจตนาอยู่แล้ว ถ้าไม่ต้องการเรทติ้ง ก็คงใช้ทีมข่าวใหม่นี่เองเป็นเครื่องทัดทานและ/หรือลบล้าง ภาพลบ กับความชิงชังของประชาชนจำนวนมากขึ้นทุกวัน ต่อรัฐบาลประยุทธ์ ผู้คนแหนงหน่าย ไปที่ไหนเจอแต่เสียงด่า

แล้ว สันดอน ของรัฐบาลประยุทธ์เองก็ผุด ด้วยการประกาศใช้อำนาจในสถานการณ์ฉุกเฉินฉบับใหม่ (ที่ ๑๑) ห้ามชุมนุม “มิให้มีการมั่วสุม หรือการทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค” มีระวางโทษฝ่าฝืน “จำคุกไม่เกิน ๒ ปี หรือปรับไม่เกิน ๔ หมื่นบาท”

ออกคำสั่งอย่างนี้เข้าไคล้ ท่ามกลางกระแสสิ้นไร้ความนิยม รัฐบาลประยุทธ์กลับโหมหนักในการปราบปราม กำจัดเสียงต่อต้านมากยิ่งขึ้น ควรแก่การประณามผู้นำคนนี้ นอกจากสมองลีบแล้วยังตามัว

(https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_470648 และ https://www.matichon.co.th/entertainment/news_2966253)