อีกครั้งตำรวจไทยปฏิบัติการอย่าง ‘ฟาสซิสต์’ เต็มตัว จากการใช้กำลังทั้งนอกเครื่องแบบและที่สวมชุดควบคุมฝูงชน อาวุธพร้อม เข้าจับกุม ‘โตโต้’ และเพื่อน ‘การ์ดวีโว่’ โดยไม่มีหมายจับ ไม่บอกข้อหา เพียงแจ้งว่าพาไปคุยกับ ‘นาย’ แล้วนำไปกักกันที่ค่าย ตชด.
แม้นว่ารถตู้ ๓ คันซึ่งนำตัวผู้ถูกจับกุมฝ่ากลางการชุมนุมบริเวณหน้าเมเจอร์รัชโยธินออกไปเมื่อราวทุ่มกว่าๆ แต่ใกล้สามทุ่มกลับมีรถหนึ่งในสามคันวิ่งผ่านเข้าไปบริเวณชุมนุมอีก จึงถูกกลุ่มผู้ชุมนุมที่สวมเสื้อกั๊กอักษรปักหลัง ‘People’ สกัด คนขับสองคนวิ่งหนีไป
ผู้ชุมนุมทุบตีข้างรถและกระจกหน้าแตกยับเยิน ผู้ถูกควบคุมในรถบางส่วนกระโดดหนีไป อีกส่วนหนึ่งรอจนกระทั่งทนายไปถึง แล้วพากันไปยังสถานีตำรวจพหลโยธินเพื่อขอทราบข้อหา สุดท้ายตำรวจลงบันทึกแล้วปล่อยตัว เพราะยังไม่รู้จะตั้งข้อหาอะไร
แต่รถตู้ที่เข้าจับกุม ปิยรัฐ จงเทพ กับเพื่อนการ์ดวีโว่ รวม ๑๘ คน นำไปควบคุมไว้ที่กองบัญชาการตำรวจชายแดน ภาค ๑ ภาพการจับกุมการ์ดวีโว่บางคนที่ปรากฏในสื่อต่างชาติ เป็นการกระทำรุนแรง ทั้งที่ระหว่างชุมนุมไม่มีเหตุรุนแรงอย่างใด
แน่นอนว่าการจับกุมของตำรวจครั้งนี้ผิดครรลอง การควบคุมฝูงชน ต่อผู้ชุมนุมโดยสงบ อันเป้นส่วนหนึ่งของกิจกรรม “ขนขยะไปทิ้งหน้าศาล” จัดโดยกลุ่ม ‘Restart Democracy -ReDem’ ส่วนหนึ่งของ ‘เยาวชนปลดแอก’ มีข้อเรียกร้องสามอย่าง
คือ “๑.จำกัดอำนาจสถาบันกษัตริย์ ๒.ขับไล่ทหารออกจากการเมือง ๓.ลดความเหลื่อมล้ำด้วยรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า” การชุมนุมตามวันและเวลา ๖ มีนา ๕ โมงถึง ๓ ทุ่ม เกิดจากผลการโหวตในหมู่สมาชิกเว็บเพจกว่า ๖ พันคน จำนวนสี่ครั้งจึงได้ข้อสรุป
มวลชนพากันเดินจากบริเวณห้าแยกลาดพร้าวไปยังศาลอาญารัชดา ตามแนวถนนพหลโยธินก่อนเลี้ยวเข้าถนนรัชดาภิเษก เป็นที่น่าสังเกตุการจัดกำลังตำรวจรับมือม็อบ จากโพสต์ของ Yaowalak Anuphan ทนายอาวุโสของคณะ ‘ทนายความสิทธิมนุษยชน’
“เราอยากรู้ว่าผู้พิพากษาศาลอาญาศาลแพ่งเขาจะรู้สึกอย่างไรที่มีรถจีโน่เตรียมฉีดน้ำใส่สารเคมี จนท.ตำรวจเตรียมใช้แก๊สกระป๋อง อยู่ในบริเวณศาลอ่ะ” เธอตั้งข้อกังขาพร้อมย้ำว่า “ที่ผ่านมารัฐสลายการชุมนุมทั้งๆ ที่การชุมนุมนั่นสงบ”
เนื่องจากมีรายงานจากผู้พบเห็นแจ้งว่ารถฉีดน้ำแรงสูงที่ตำรวจจัดรอผู้ชุมนุมอยู่นั้น มีการเติมน้ำเข้าแท้งค์ แต่ผู้ปฏิบัติหน้าที่สองคนสวมหน้ากากกันแก๊สพิษ แสดงว่าน้ำที่ตำรวจเตรียมไว้ฉีดผู้ชุมนุมนั้นผสมสารเคมี ชนิดร้ายแรงดั่งแก๊สน้ำตา ซึ่งตำรวจไทยเคยใช้มาแล้ว
เมื่อประมวลรูปการณ์ทั้งการตั้งรับฝูงชนและการจับกุมโตโต้เข้าด้วยกัน เข้าเค้าที่ เข็มทอง ต้นสกุลรุ่งเรือง อาจารย์นิติศาสตร์จุฬาฯ แสดงความกังวลไว้ว่า “สิ่งที่ตำรวจพยายามทำ คือวาดภาพผู้ชุมนุมให้เป็นผู้ยั่วยุ ใช้ความรุนแรง
เพื่อสร้างความชอบธรรมในการล้อมปราบอย่างรุนแรง อาจถึงขั้น ‘ฆ่า’” โดยที่สื่อกระแสหลัก ทั้งหนังสือพิมพ์และรายการโทรทัศน์ “ช่วยเป็นเครื่องขยายเสียงให้ตำรวจ” รายงานตามที่ตำรวจว่า “ไม่ตั้งคำถาม” แม้จะเห็นชัดว่าทางการ ‘ตอแหล’
การจับกุม ‘โตโต้’ โดยกำลังตำรวจสักยี่สิบคน ที่อาคารจอดรถชั้น ๕ เมเจอร์รัชโยธินนั้นเข้าข่ายความผิด “อาญาหลายมาตรา” ไทกร พลสุวรรณ ทวี้ตแสดงความเห็น “โดยเฉพาะ ม.๑๕๗ ไล่ออกสถานเดียว จำกรณี’โอ๋สืบ 6’ ได้ไหม? สุดท้ายถูกไล่ออกจากราชการ”
ทางด้านการชุมนุมหน้าศาลอาญารัชดา มีการนำขยะมากองไว้เผาตาม ‘ธีม’ ของการชุมนุมครั้งนี้ ปรากฏมีกลุ่มคนสวมเสื้อกั๊กสีส้มสะท้อนแสง ไปตีวงล้อมกองยะและดับไฟ โดยกั้นผู้สื่อข่าวและมวลชนออกไปจากบริเวณ
กลุ่มเสื้อก๊กส้มนี้เรียกตนเองว่า “ทีมสันติวิธี” มีป้ายภาพลายเส้นรูปนกพิลาปพร้อมข้อความ ‘สันติวิธี’ บนอก “การ์ดเสื้อแดงเก่าในทีมเล่าว่ามีราว ๕๐ คนคอยดูแล ‘จุดล่อแหลม’ –เจรจากับเจ้าหน้าที่ไว้ก่อนแล้ว” พริสม์ @parisjpt ทวี้ตแจ้งว่านี่เป็นมิติใหม่
“ถือเป็นครั้งแรก” และคงพัฒนาการไปสู่อหิงสา ไม่ทราบว่าจะให้เคร่งถึงขนาด ‘สัตยาเคราะห์’ ของ ‘มหาตมะ’ คานธี จี หรือไม่ แต่ดูจะเป็นพัฒนาการไปสู่สมานฉันท์และปรองดองตามอุดมคติ หากทำได้ทั้งสองฝ่ายระหว่างผู้ถือปืนกับผู้กำท่อแป๊บ
ฝ่ายโน้นก็มีพัฒนาการใหม่เหมือนกัน จากที่เคยหลากสีจนโดนเรียกว่า 'สลิ่ม' เดี๋ยวนี้ขอเปลี่ยนเป็นสีขาวอย่างเดียว 𝕄𝕠𝕦𝕚 @moui ร้องอ๋อว่า “จากสลิ่มเหลือแต่กะทิ” นัดชุมนุมวันที่ ๖ มีนาเหมือนกัน บอก “ประชาสีขาวปกป้องสถาบัน”
ออกแนวผุดผ่องแต่มันย่อง ที่หน้าเซ็นทรัลเวิร์ลด์ นัดหมายกันมากมายหลายหน่วย ‘นักรบ’ เกือบทั้งนั้น องค์ดำ ศรีวิชัย กุหลาบก็มี อิสระก็มา ช่วยกัน ‘พิทักษ์ราชัน’ ‘ปกป้องสถาบัน’ ชักธงผืนยักษ์ ดูเหมือนแต่ละหน่วยส่งตัวแทนไปแห่งละคน
(https://twitter.com/parisjpt/status/1368179566670397448, https://www.facebook.com/PhattitaCheraiem/posts/1904360499723300, https://www.facebook.com/iLawClub/posts/10165145540730551 และ https://prachatai.com/journal/2021/03/91998)
