เรื่องเล่าของมิตรสหายหลายท่านจากศาลอาญา เมื่อวันที่ ๑๕ มีนา อึกทึกมากแค่ไหนถึงความเป็น “จันทร์อะไรนะที่โอชา” ก็ยังไม่ระทึก (หรืออาจสยดสยอง) เท่าถ้อยความบนกระดาษจดหมายน้อย ของทนายอานนท์ ออกมาจากในเรือนจำวันนี้
“เมื่อคืน (สามทุ่มครึ่ง)...มีเจ้าหน้าที่เรือนจำพยายามนำตัว ‘ไผ่’ และ ‘ไม้ค์’ ไปควบคุมนอกแดน พวกเราไม่ยอม” แล้วก่อนเที่ยงคืน หลังเที่ยงคืน และตีสองครึ่ง พากันกลับมาอีก เพิ่มจำนวนมากขึ้น พร้อมไม้กระบองกระชับมือ อ้างว่า “จะพาไปตรวจโควิด”
ห่านไรตรวจยามดึกอย่างนี้ ทีครั้ง ‘หมอหยอง’ ก็มีแพทย์เข้าไปตรวจในห้องขังสงสัยไข้หวัดใหญ่ นั่นไม่ดึก แต่เช้าขึ้นมา ‘ติดเชื้อในกระแสเลือด’ ตายเสียแล้ว “ผมไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะเกรงอันตราย ได้โปรดช่วยชีวิตพวกเราด้วย” เชื่อได้เลยว่าอานนท์คงกระเส่า
ทั้งที่เมื่อวานในศาล พวกแกนนำราษฎรที่โดนข้อหา ๑๑๒ กลุ่มกวิ้น อานนท์ สมยศ และแบ๊งค์ โต้คารมตบหน้าศาลกันห้าวหาญ ชนิดเนชัวร์ เอาไปพาดหัวจวกว่า “กร่าง” และ บลูสกายส์ ผายคารมส่อเสียดว่า “อาละวาด”
พริษฐ์ ชีวารักษ์ ขอให้ศาลเลื่อนคดีเพราะเป็นวันแรกเพิ่งได้ตั้งทนาย ขอเวลาเตรียมสำนวนคดี วันนี้จะอ่านแถลงการณ์ก่อน ศาลไม่ให้ แต่แจงขั้นตอนการทำงานของศาลว่าวันนี้แค่ให้โจทก์ยื่นเอกสาร เพื่อจำเลยและทนายส่งหลักฐานกลับภายใน ๗ วัน
ดังนั้นวัน (วาน) นี้ ก็ไม่ใช่ขั้นตอนการยื่นประกันตัวด้วย “การขอประกันตัวเป็นขั้นตอนในส่วนของฝ่ายบริหารคนละส่วนกับคณะศาลที่พิจารณาคดี ซึ่งเป็นอย่างนี้มานานกว่า ๑๐ ปีแล้ว” แน่ะ หลายคนก็งงสิ เอ๊ะ ศาลมีฝ่ายบริหารช่วยในการพิจารณาคดีด้วยเหรอ
ศาลจัดให้ ปฏิวัฒน์ สาหร่ายแย้ม สมยศ พฤกษาเกษมสุข และ อานนท์ นำภา แถลงเรียงตัวไป ยังไม่ยอมให้กวิ้นพูดอยู่ดี สมยศเลยบอกศาลที่ไม่รู้ไม่ชี้ความจริงว่า การไม่ให้ประกันตัวทำให้ไม่สามารถเตรียมการสู้คดีได้เต็มที่ ในคุกไม่มีแม้ที่ยืนอ่านเอกสาร
ถึงตาอานนท์ ศาลก็เหน็บนิดนึงว่าเป็นทนายรู้กระบวนการพิจารณาดี ช่วยอธิบายให้เพื่อนๆ ผู้ถูกกล่าวหาได้กระจ่างกันหน่อย อานนท์ก็เลยสอนวิชาว่าความ เผื่อศาลบางคนไม่เคยเป็นทนายมาก่อน ว่า “พูดไม่ออก” นะ “เพราะถ้าผมพูดไปก็เหมือนหยิกเล็บ (ก็เจ็บเนื้อ)”
อานนท์ขอศาลให้เพ็นกวิ้นได้พูด ศาลยังคงไม่ยอมตามฟอร์ม กวิ้นก็เลยไม่ยอมตามฟอร์มของตนเหมือนกัน “ปีนขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ให้มวลชนได้เห็นหน้า มือหนึ่งถือคำแถลงที่เตรียมมา ปากก็ตะโกนอ่านสิ่งเหล่านั้นอย่างโกรธเกรี้ยว” ‘มิตรสหายของมิตรสหาย’ เล่า
“วันนี้เป็นครั้งแรกที่เราเห็นจำเลยเถียงศาล...เราเคยเห็น...แทบทุกคนจะต้องแสดงตนอย่างต้อยต่ำกว่า อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว เราต้องคุยกับศาลอย่างกราบกราน แต่วันนี้ไม่ใช่” ศาลเรียกตำรวจเข้าไปจะจัดการกับกวิ้น ‘รุ้ง’ เข้าไปกางแขนกันไว้ก่อน
“ป้าๆ เพื่อนๆ เข้ามาคล้องแขนโดยอัตโนมัติอย่างรู้งานก่อนที่ตำรวจจะได้ประชิดตัว แม้เบียดดันกันอยู่พักใหญ่แต่เพนกวินก็ได้อ่านสิ่งที่ตัวเองเขียนมาจนจบ พร้อมประกาศอดอาหาร จนกว่าสามัญสำนึกจะคืนสู่ผู้พิพากษา...
แทบทั้งห้องตะโกนพร้อมกัน ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ ๓ ครั้ง...เพดานถูกเปิดแล้วเปิดอีกในทุกพื้นที่” รวมทั้งวันนั้นจากในศาล ครั้น “หลังความอลเวงเล็กๆ เพ็นกวิ้นถูกย้ายไปพิจารณาคดีเดี่ยวที่ห้องชั้น ๙” ไผ่กับไม๊ค์อยู่อีกห้องพิจารณาย้ายเรือนจำ
การประกาศอดอาหารของกวิ้น ทำให้ จุลเจิม Yugala เกิดอาการคัน โพสต์เหน็บ “ไอ้กวิ้นมันฉลาดและหัวหมอ...ประกาศอดอาหารซะเลยเพื่อให้ดูดี รับรองอดอาหารไม่เกินสองวันก็โดนจับส่งโรงพยาบาล...ได้ไปนอนบนเตียงสบายๆ”
สะกดผิดบ้างถูกบ้าง ไม่คิดมากอาจนึกว่างั่ง คิดอีกทีบางทีมันมีนัยยะอะไรแฝงไหมหนอ จั่วหัวว่า “ลูกไม่ตื่นๆ แถมดูดี” คงตั้งใจว่า ‘ลูกไม้ตื้นๆ’ แต่ ‘typo’ ย่อมเกิดขึ้นได้ไม่ว่ากัน แต่เอ๊ะ “ลูกไม่ตื่น” นี่จะหมายให้กวิ้นนอนหลับยาวหรือวะ
ในเมื่อกวิ้นถูกส่งตัวแยกขังไปอยู่แดน ๕ อันเต็มไปด้วยพวกนักโทษเด็ดขาด โทษประหาร บรรยากาศเหมาะให้มีอะไรเป็นไปได้ง่าย ถ้าใครคิดอย่างนี้บางทีต้องคิดใหม่อีกครั้ง เพราะกวิ้นบอกว่าจะอดอาหารโดยขอรับแต่น้ำและของหวานเท่านั้น
จะเข้าทางใครไม่รู้ละ ‘ของหวาน’ เนี่ยก็ ‘ของโปรด’ กวิ้นไม่ใช่เหรอ
(https://www.prachachat.net/politics/news-630180, https://www.facebook.com/karnt.thassanaphak/posts/4024212880956350, https://www.facebook.com/punsak.srithep.9/posts/507576350236826 และ https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/videos/444738006836852)