ด่ากันทั้งปฐพี หลังจากที่นายกฯ ไทยประพฤติเหมือนเด็กไร้เดียงสา ฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อใส่พวกนักข่าว เมื่อถูกซักไซร้เรื่องปรับ ครม.แล้วไม่ต้องการตอบ “มันเป็นเรื่องที่นายกฯ ควรจะรู้คนเดียวก่อนไหม ไม่ต้องถาม”
แค่พูดนั่นก็เสียพอแล้วทางจรรยา สบัดก้นเดินออกจากโพเดี้ยมไปเอาขวดแอลกอฮอล์กลับมาไล่ฉีด หมดสิ้นไปอีกทางมารยาท นพ.อิราวัต อารีกิจ หมอคนดังทางโซเชียลเขียนบอก “อย่าทำอะไรโง่ๆ แบบนี้อีก...อายสายตาชาวโลกจริงๆ”
เมื่อสำนักข่าวหลัก เช่น การ์เดียน สกาย เอเอฟพี เอาไปเผยแพร่ความต่ำช้าทางจริยธรรมนายกฯ ไทย สถานีวิทยุในอิตาลี ใช้ล้อเลียนความบ้องตื้น เช่นกันกับ เรื่องเล่าเช้านี้@MorningNewsTV3 “ชาวเน็ตต่างชาติลั่น! โดนัลด์ทรัมป์กลายเป็นนักบุญไปเลย”
นั่นขนาดทรัมพ์ ‘ซอมบิทช์’ แล้วนะ ตู่ล่ะ คงนักกัดตลอดทั้งกำพืด “นักข่าวไทยเป็นมนุษย์พันธุ์อดทนที่สุดในโลก” อย่าง Soraj Hongladarom @Sonamsangbo บอก “โดนโยนกล้วยใส่ก็เฉย โดนฉีดแอลกอฮอล์ใส่หน้าก็เฉย” อีก กลายเป็นเบี้ยรองบ่อน
ใครจะรู้ ตู่เค้าอาจไปฉุนมาจากไหนเลยระบายกับนักข่าว จะสันนิษฐานว่าเพราะหงุดหงิดที่ตนเป็นผู้บริหารสูงสุดของประเทศ แล้วอะไรหลายๆ อย่างข้ามหน้า ปาดจมูก และตบหัว ตนอ้างตลอดเวลาว่ายึดมั่นกฎหมาย แต่ก็ต้องอมพะนำเมื่อกฎหมายถูกละเลย
เหมือนอย่าง “หมายขังของศาลอาญาระบุให้นำตัวนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ ไปขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร” แต่กลับมีการนำตัวไปขังไว้ที่อื่น ทำให้ต้องโวยวายกันว่า ‘คนหาย’ ทนาย นรเศรษฐ์ นาหนองตูม ต้องยื่นร้องให้นำกลับ
นักข่าวแค่ถามว่า ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.พลังประชารัฐขยับมาเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ ประยุทธ์ของขึ้นและซัดกลับทำนองว่า ‘เรื่องของกรู มรึงอย่าเสือก’ แล้วไปเอาสเปรย์มาฉีดใส่ ปากก็พล่าม “ฉันกลัวโควิด ฉันต้องป้องกันตัวเอง”
พอถูกถามซ้อน “แบบนี้ต้องให้สื่อฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-๑๙ ด้วยหรือไม่” ประยุทธ์ชักหัวร้อน อัดอีก “กล่าวว่า ต้องฉีดเข้าปากเลย” อ๊ะ เมื่อกี้ฉีดเข้าหน้าตาเขายังไม่พอ หมอทศพร เสรีรักษ์ ขวัญใจลูกๆ หลานๆ พวกนักชุมนุมต้องยั้ง
“ท่านนายกฯ ก็เลิกเล่นเป็นเด็กๆ เสียที โตแล้วนะครับ รักและเป็นห่วงนะครับ” ถึงจะเล่นเป็นเด็กมันก็มีอันตรายอยู่ “แอลกอฮอล์ กรด ด่าง สารเคมี มีอันตรายต่อตา ทำให้เกิดระคายเคือง กระจกตาอักเสบ ถลอก เป็นฝ้าขาว อาจทะลุเข้าไปในลูกตา ทำให้ตาบอดได้”
น่าเป็นห่วงนะ ‘คุณภาพชีวิต’ ผู้สื่อข่าวไทย ซึ่งในสังคมอารยะตะวันตกถือเป็นฐานันดรที่ ๕ มีความรับผิดชอบต่อสังคมได้รับการยกย่อง และน่ากังวลยิ่งไปกว่าก็ ‘คุณค่าชีวิต’ ผู้ชุมนุมไทยคนรุ่นใหม่ เวลานี้มีโดนข้อหา ม.๑๑๒ โทษร้ายแรงไปแล้วไม่ต่ำกว่า ๖๕ ราย
เหนาะๆ สำหรับหนึ่งแกนนำตัวเอ้ ‘เพ็นกวิ้น’ พริษฐ์ ชีวารักษ์ คนเดียวข้อหาล้มเจ้า ๑๗ คดี หากโดนสั่งจำคุกขั้นสูง ๑๕ ปี เท่ากับว่าต้องติดคุก ๒๕๕ ปี น้อยกว่าอายุราชวงศ์จักรีเพียง ๑๖ ปี (ตามอุปมัยของ ธนาพล อิ๋วสกุล ถึง ‘ความโหดร้ายของรัฐไทย’)
ทำให้วลี “อันตราย ศาลพิษ ห้ามเข้าใกล้” กำลังจะฮิต ชนิดที่ บก.ฟ้าเดียวกันปรารภในกรณีที่เขาเองโดนฟ้องคดีแพ่ง จากการตีพิมพ์หนังสือของณัฐพล ใจจริง ซึ่งถูก ไชยยันต์ ไชยพร ตำหนิ แล้ว ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต เอาไปฟ้องเรียกค่าเสียหาย ๕๐ ล้านบาท
แม้ไม่ติดคุก อยู่ข้างนอกใช่จะปลอดโปร่ง โดน “ชายหัวเกรียนดักทำร้าย” กันอยู่เนืองๆ ดัง ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานเหตุการณเมื่อวันที่ ๗ มีนาคมไว้ว่า ผู้ชุมนุมกลุ่ม #ราษฎรคาทอลิค รายหนึ่งติดต่อขอความช่วยเหลือ
ธนทศ (สงวนนามสกุล) อาชีพพนักงานบริษัท ได้ไปกินข้าวกับเพื่อนที่บริเวณหน้าเมืองทองธานี เสร็จประมาณบ่ายสองยี่สิบแล้วเดินกลับผ่านซอยเล็กๆ บริเวณแนวก่อสร้างรถไฟฟ้า ถูกชายหัวเกรียนสองคนรุมทำร้าย “ทั้งเตะ ถีบ...เหยียบเข้าที่หัว
...นอกจากอาการฟกช้ำ แพทย์ยังพบว่า มีกระดูกร้าวด้วย และให้เขาต้องแอดมิดเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน หมอแจ้งว่าต้องพักฟื้นสามอาทิตย์” จึงมอบหมายให้ญาติไปแจ้งความแทน ตำรวจตั้งข้อสงสัยทำไมปล่อยไว้เนินนานไม่รีบไปแจ้งความ บอกให้หาหลักฐานไปเพิ่มเสียก่อน
ซ้ำร้าย รมว.ยุติธรรม สมศักดิ์ เทพสุทิน เกิดไอเดียน่าสงสัย แนะขยายเรือนจำ สร้างคุกเพิ่มสำหรับนักโทษการเมืองเฉพาะ อ้างว่าจะได้ไม่แออัด อยู่กันสบายๆ ญาติเยี่ยมก็สะดวก แต่ไม่รู้ทำไมคนที่ได้ยินได้รับรู้ คิดอีกอย่าง
ว่า ‘เฮ้ย’ จะมีการจับยัดคุกกันเพิ่มอีกเยอะเหรอ
(https://www.facebook.com/lawyercenter2014/posts/3724544474262046, https://www.facebook.com/TheOpenerThailand/posts/228947395621158, https://www.facebook.com/lawyercenter2014/posts/3724544474262046, https://www.khaosod.co.th/politics/news_6097949 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_2616449)
