Chaturon Chaisang
Favorites · 15h ·
กรณีตำรวจบุกจับการ์ดมวลชนอาสาที่มีรายงานข่าวไปต่างๆนานาในขณะนี้ เป็นเรื่องที่พลเอกประยุทธ์ในฐานะนายกฯและผู้กำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ควรมองว่าเป็นเรื่องเล็กหรือเห็นว่าตำรวจทำถูกต้องแล้วเพราะเรื่องนี้กระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนโดยตรง ทำให้องค์กรตำรวจเองเสื่อมเสียไม่เป็นที่เชื่อถือของประชาชนและการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริงกำลังทำให้เกิดความเข้าใจผิดจนกลายเป็นความเกลียดชังโกรธแค้นต่อประชาชนที่อาจลุกลามเป็นความขัดแย้งรุนแรงขึ้นได้
มีรายงานข่าวการเข้าจับกุมเป็นดราม่าราวกับการจับโจรที่กำลังปล้นห้างสรรพสินค้าอยู่ แล้วก็มีรายงานข่าวว่ามวลชนขัดขวางบ้าง เกิดเหตุชุลมุนบ้างหรือกระทั่งมีการชิงตัวผู้ที่ถูกจับกุมบ้างต่างๆกันไป
การพาดหัว โปรยหัวข่าวอย่างดุเดือดโดยไม่มีข้อเท็จจริงรองรับทำให้เป็นที่เข้าใจไปได้ว่ามีการใช้ความรุนแรงต่อตำรวจถึงขั้นเข้าชิงตัวผู้ที่ถูกจับกุมตัวครั้งนี้
การชิงตัวผู้ถูกจับกุมจากเจ้าพนักงานเป็นเรื่องใหญ่ ส่วนการจับกุมคนที่ไม่ได้กระทำผิดซึ่งหน้าโดยไม่มีหรือแสดงหมายจับก็เป็นเรื่องใหญ่ และที่เป็นเรื่องใหญ่ไม่แพ้กันก็คือการรายงานข่าวเรื่องนี้อย่างบิดเบือนความเป็นจริง
แต่ถ้าติดตามการรายงานข้อเท็จจริงในสื่อต่างๆรวมทั้งในโซเชียลมีเดียอย่างละเอียดจะพบว่าการเข้าจับกุมครั้งนี้ไม่ได้มีการแสดงหมายจับ มีการใช้กำลังบังคับและคุมตัวไปในลักษณะการลักพาตัวประชาชนอย่างอุกอาจ ผู้ถูกจับกุมไม่ได่ได้ขัดขวางหรือหลบหนี แต่ให้ความร่วมมือด้วยดีถึงขั้นเมื่อถูกเอาไปทิ้งไว้ก็ยังรอเจ้าหน้าที่จนมืดค่ำแล้วเดินไปโรงพัก แต่เจ้าหน้าที่ผู้ลักพาตัวกลับหายกันไปหมด กลายเป็นตำรวจที่โรงพักลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น
เมื่อการจับกุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย พลเมืองดีก็มีสิทธิ์ที่จะสอบถามหรือพยายามหาทางขัดขวางการลักพาตัวนั้น แต่กรณีนี้ก็ไม่มีการชิงตัวหรือแม้แต่พยายามชิงตัวผู้ถูกจับกุมแต่อย่างใด
เมื่อยังมีการให้ข้อมูลที่แตกต่างกันอยู่ สิ่งที่พลเอกประยุทธ์และสำนักงานตำรวจแห่งชาติควรดำเนินการโดยเร็วก็คือสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีนี้เพื่อเอาตัวเจ้าหน้าที่ที่ทำผิดกฎหมายอย่างร้ายแรงมาลงโทษและรีบชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบเพื่อป้องกันไม่เกิดความเข้าใจผิด หรือความโกรธแค้นเกลียดชังต่อประชาชนหรือต่อเจ้าหน้าที่
โดยรวมอันจะนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงได้
แต่การสอบสวนข้อเท็จจริงโดยตำรวจเองหรือโดยรัฐบาลในปัจจุบันนี้คงไม่อาจทำให้เกิดความยอมรับว่าจะตรงไปตรงมาเสียแล้วเนื่องจากมีการใช้กำลังความรุนแรงต่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง หากจะทำให้ความจริงปรากฏคงต้องอาศัยองค์กรอื่นเช่นคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรหรือองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนที่เชื่อถือได้มาร่วมกันหาข้อเท็จจริงอีกทางหนึ่งด้วย
...
'โตโต้' เปิดไทม์ไลน์ก่อนถูกจับ ชี้จนท.ขอเจรจา แต่จู่ๆ เพิ่มกำลังล้อมการ์ด
‘โตโต้’ เปิดไทม์ไลน์ก่อนถูกจับ ขณะช่วยเก็บลวดหนาม หลังชาวบ้านร้องเรียน ชี้จนท.ขอเจรจาก แต่จู่ๆ เพิ่มกำลังล้อมการ์ด จับขึ้นรถผู้ต้องขังพาไปโรงพัก
จากกรณีกลุ่มการ์ดอาสา WeVo ของผู้ชุมนุมคณะราษฎร นำโดยนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ เข้ามาเก็บลวดหนามที่วางอยู่บริเวณแยกอุรุพงษ์ ซึ่งไม่ได้ใช้งาน เพื่อจะเอาไปส่งคืนให้เจ้าหน้าที่ หลังชาวบ้านร้องเรียนว่าเดือดร้อนเกะกะขวางทาง แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาขวางไว้ ก่อนจะจับกุมโตโต้และกลุ่มการ์ด WeVo จำนวน 19 คนไปยัง สน.พญาไท เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 7 ธ.ค.63
ล่าสุดโตโต้ได้โพสต์เฟซบุ๊กลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ระบุว่า เมื่อเวลา 21:00 น. Wevo ประกาศขอจิตอาสาเก็บลวดหนามที่ทิ้งเกะกะตามทางเดิน บริเวณปากซอยเพชรบุรี 2 ถนนเพชรบุรี โดยประกาศให้ จนท. มาเก็บซากลวดหนามหีบเพลงนับ 50 ม้วน ทั้งที่กางทิ้งไว้ และยังไม่ได้ถูกใช้งาน โดยให้เวลา จนท. 30 นาที
21:30 น. ยังไม่ปรากฏ จนท. สักนายมายังจุดเกิดเหตุ
21:45 น. Wevo ตัดสินใจเริ่มเก็บกู้ลวดหนามจากใต้สะพานทางด่วน แยกอุรุพงษ์
22:30 น. จนท. มาพร้อมชุดเต็มยศ 1 กองร้อย ทั้ง คฝ. และชุดในเครื่องแบบปกติ
22:45 น. รอง อรรถวิทย์ สายสืบ ขอเจรจา ดำเนินการเก็บซากลวดหนามเอง ซึ่ง wevo ยินดีรับเงื่อนไข แต่ขอเฝ้าดูการทำงานของ จนท. จนกว่าจะแล้วเสร็จ และยังขอนำเจ้าหน้าที่ไปชี้อีกหลายจุดที่กองลวดหนามทิ้งไว้ทั่ว กทม. แต่ จนท. ไม่ยอม
22:55 น. จนท. ประกาศเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ล้อมกรอบ และเข้าจับกุมทีม wevo จำนวน 2 คน และอีก 17 คนตัดสินใจกลับมาช่วยเพื่อน จนกระทั่งยอมถูกจับพร้อมกัน โดยไม่ขัดขืน
23:20 น. ตำรวจใช้รถขังผู้ต้องหา จำนวน 2 คัน ควบคุมตัวทั้ง 19 คน ส่ง สน.พญาไท และยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาใดๆ
กลุ่มมวลชนฮือล้อม สน.พญาไท กดดันตำรวจให้ปล่อยตัว โตโต้ พร้อมการ์ดที่ถูกจับ
จับ”โตโต้-การ์ดWevo”ส่งสน.พญาไท โวยไม่แจ้งข้อหา ชี้ชาวบ้านเดือดร้อนให้มาช่วยเก็บลวดหนาม
ด่วน! ตร.บุกจับกลุ่มการ์ดอาสา หลังเข้ามาเก็บลวดหนาม แยกอุรุพงษ์ ถูกต้อนเข้าซอย
ที่มา ข่าวสดออนไลน์
https://www.khaosod.co.th/politics/news_5484491