วันจันทร์, มีนาคม 15, 2564
การฉีดวัคซีนโควิด19 ไทยต้องเตรียมฉีดขนาดไหนถึงจะป้องกันการระบาด และเปิดเศรษฐกิจในปีนี้ได้?
สลักธรรม โตจิราการ
March 12 at 5:18 PM ·
การฉีดวัคซีนโควิด19 ตอนที่ 1 ไทยต้องเตรียมฉีดกี่โดสถึงจะป้องกันการระบาดได้
เมื่อเช้านี้เห็นคุณอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข อ้างว่าจะฉีดวัคซีนโรคโควิด19ให้คน 30 ล้านคน โดยเตรียมวัคซีนไว้ 60 ล้านโดสภายในสิ้นปี 2564 นี้ แล้วบอกว่าเท่านี้เพียงพอ
ผมว่าไม่พอนะครับ
ก่อนอื่นถ้าจะไม่เกิดการระบาดของโควิด 19 ได้อีก อย่างน้อยที่สุดต้องมีผู้มีภูมิคุ้มกันอย่างน้อยร้อยละ60ของประชากรไทย”ทั้งหมด” เวลาคิดต้องเอาประชากรทั้งหมดเพราะทุกคนตั้งแต่แรกเกิดมีสิทธิ์ติดโควิด19และแพร่ให้คนอื่น การฉีดวัคซีนต้องครอบคลุมเพียงพอที่จะไม่ให้คนกลุ่มเสี่ยงที่รับวัคซีนไม่ได้ไปสัมผัสกับโรคด้วยครับ
ถ้าคิดตัวเลขประชากรไทย 67 ล้านคน แปลว่าต้องมีผู้มีภูมิคุ้มกันอย่างน้อย 40.2 ล้านคน
แปลว่าถ้าคิดตัวเลขขั้นต่ำที่สุดไทยต้องมีวัคซีนอย่างน้อย 80.4 ล้านโดส มากกว่าที่อนุทินพูดถึงอีกอย่างน้อย 20.4 ล้านโดส
ยังไม่นับว่าตัวเลขที่ผมพูดถึงนี่เป็นตัวเลขที่น่าจะน้อยกว่าความเป็นจริงด้วยซ้ำเพราะ 1) เราไม่ได้คิดถึงจำนวนชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย 2) วัคซีนฉีดแล้วไม่ใช่ภูมิคุ้มกันขึ้นในระดับที่ป้องการการติดเชื้อและแพร่เชื้อโรคต่อไปได้ทุกคน
ในทัศนะของผม ถ้าต้องการรับประกันว่าจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ต่อโรคโควิด19ในประเทศไทยจริงๆควรจะฉีดวัคซีนให้ประชากรอย่างน้อยร้อยละ80ของประชากรทั้งประเทศ แปลว่าต้องฉีดให้คน 53.6 ล้านคน ต้องเตรียมวัคซีน 107.2 ล้านโดส ขาดวัคซีนอยู่ 47.2 ล้านโดส
ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการจัดหาวัคซีนที่ยังขาดอยู่ให้ครบโดยเร็วที่สุด
(ตอนต่อไปจะมาบอกว่าต้องฉีดเร็วแค่ไหนถึงจะเปิดเศรษฐกิจรับนักท่องเที่ยวได้ภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้เพราะถ้าช้ากว่านั้นนักท่องเที่ยวช่วงhigh seasonจะผ่านไปเลยต้องรอปี 2565ถึงจะมาอีก)
.....
สลักธรรม โตจิราการ
19h ·
เรื่องการฉีดวัคซีนโควิด 19 ตอนที่ 2 เราต้องฉีดวัคซีนเร็วแค่ไหนถึงจะเปิดเศรษฐกิจได้ในปีนี้?
หลังจากตอนที่แล้วผมได้ชี้ว่าเราต้องฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้ประชากรอย่างน้อยที่สุด 40.2 ล้านคน (60%ของประชากรทั้งหมด) ใช้วัคซีน 80.4 ล้านโดส แต่ถ้าให้ปลอดภัยควรฉีดให้ประชากร 53.6 ล้านคน (80%ของประชากรทั้งหมด) ใช้วัคซีน 107.2 ล้านโดส
คำถามต่อมาคือ เราจะต้องฉีดวัคซีนให้เร็วแค่ไหนถึงจะเปิดประเทศได้ ให้ห้างร้านขายของ เล่นดนตรีคอนเสิร์ตได้ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้โดยไม่ต้องกลัวโควิด 19 ผลุบๆโผล่ๆอย่างกรณีพบการติดเชื้อที่ตลาดบางแค 80 รายอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเมื่อวานนี้
ผมว่าต้องเอาหลักหมายสำคัญที่วันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันหยุดยาวเนื่องในวันชาติจีน เพราะนักท่องเที่ยวจีนจะเข้ามามหาศาล และหลังจากนั้นก็จะเป็นช่วงปลายปีที่นักท่องเที่ยวตะวันตกก็จะเข้ามาอีกมากมายเช่นกัน
แต่ถ้าฉีดไม่ทันกำหนดนี้ ประเทศไทยก็ไม่กล้ารับนักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวก็ไม่กล้าเข้ามา ถ้าปล่อยให้เลยหน้าไฮซีซั่น แปลว่าเราต้องรอนักท่องเที่ยวอีก 1 ปีเต็ม ไปเป็นปลายปี 2565 เลย ซึ่งเศรษฐกิจเราน่าจะรับไม่ไหว
แปลว่าเราต้องฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรอย่างน้อยร้อยละ 60 ภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2564
ถ้าคิดว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนให้ประชากรทั่วไปตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 (ตามกำหนดการที่เราจะได้วัคซีน) สมมติว่าไทยฉีดวัคซีนให้บุคลากรการแพทย์และกลุ่มเสี่ยงไปครบ 2ล้านโดสแล้วก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2564 เราจะต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 78.4 ล้านโดส ใน122วัน เพื่อให้ทันวันที่ 1 ตุลาคม 2564 เท่ากับจะต้องฉีดอย่างน้อยวันละ 642,623 โดส ครับ
ถามว่าการจะทำได้ขนาดนี้ หนักหนาแค่ไหน?
ตอนนี้ประเทศที่ฉีดวัคซีนได้ไวที่สุดในโลกคือสหรัฐอเมริกา เขาฉีดวัคซีนได้วันละ 2.3 ล้านโดสจากประชากร 331 ล้านคน แปลว่าฉีดได้วันละ 0.7% ของประชากรทั้งหมดประเทศ ถ้าไทยจะฉีดได้ 0.7% ของประชากรทั้งประเทศต่อวัน เท่ากับฉีดได้วันละ 469,000 คน ซึ่งไม่พอที่จะเปิดประเทศในวันที่ 1 ตุลาคม
มาดูประเทศที่มีจำนวนประชากรใกล้เคียงกับไทยอย่างสหราชอาณาจักร(อังกฤษ)บ้าง สหราชอาณาจักรมีประชากร 67 ล้านคน ฉีดวัคซีนไป 1.78 ล้านโดสใน 7 วัน แปลว่าฉีดได้วันละ 255,000 โดส ถ้าเราฉีดได้อัตราเร็วเท่าสหราชอาณาจักร เราจะไม่สามารถเปิดประเทศได้ในวันที่ 1 ตุลาคมอย่างแน่นอน
หรือแม้กระทั่งอิสราเอลที่ตอนแรกฉีดวัคซีนประชากรได้เร็วมาก ตอนนี้ก็เพิ่งฉีดวัคซีนให้ครบ 2 โดสให้ประชากรได้แค่ 50% เท่านั้นเอง (ประมาณ 4 ล้านคนจาก 8 ล้านคน) โดยเขาเริ่มมา 3 เดือนแล้ว
แปลว่ารัฐบาลต้องเตรียมโครงการฉีดวัคซีนขนาดใหญ่มากที่มีประสิทธิภาพมากกว่าระบบในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร อาจต้องมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับโครงการของอิสราเอล
คำถามคือรัฐบาลไทยได้เตรียมการโครงการฉีดวัคซีนให้กับประชากรไว้แค่ไหนแล้วครับ?
ปล. ตะกี้ดูข้อมูลเพิ่มเติม ช่วงนี้ไทยฉีดวัคซีนได้ 36,797 รายใน 11 วัน (28 ก.พ. ถึง 10 มี.ค.2564) ตกวันละ 3,345 คน แต่อาจเป็นเพราะยังฉีดในพื้นที่เสี่ยงก่อน แต่ถ้าถามผม ตอนนี้ต้องรีบปูพรมฉีดวัคซีน 2 ล้านโดสแรกให้ประชากรกลุ่มเสี่ยงและเจ้าหน้าที่การแพทย์เสร็จโดยเร็วที่สุดนะครับ
.....