วันเสาร์, พฤษภาคม 04, 2562

“We Will Rock You!” มันไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก "With a little help from a friend."


เรื่องของการเมืองใหม่แบบไม่สน หน้าเทพหน้ามารว่ากันตามเนื้อผ้าทุกอย่าง ดังที่พรรคอนาคตใหม่ประกาศ “เราจะเขย่าการเมืองท้องถิ่น เหมือนที่เขย่าการเมืองระดับชาติมาแล้ว” นั่น

อันเนื่องมาจากทวี้ตของ Thanathorn Juangroongruangkit @Thanathorn_FWP ว่า “ผู้สมัครของอนาคตใหม่จะเดินเข้าไปบอกประชาชนว่าอีก ๑๐ ปีท้องถิ่นจะได้แบ่งปันงบเท่าใด จะพัฒนาสาธารณูปโภคอย่างไร เราจะเข้าสู่การเมืองท้องถิ่นด้วยนโยบายที่ดี แบบที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยทำกันมาก่อน”

โดยที่ พรรคอนาคตใหม่ @FWPthailand เสนอมหกรรม “We Will Rock You!” ประกาศรับสมัคร “ผู้สนใจสมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่นในนามพรรคอนาคตใหม่” ใครสนก็ไปที่ https://www.facebook.com/FWPthailand/photos/a.1657824830959771/2197919300283652/

นี่ อธึกกิต แสวงสุข คอลัมนิสต์และผู้ดำเนินรายการสนทนาการเมือง ฉายา ใบตองแห้งเขียนถึงกึ่งติงไว้ ชวนให้น่าคิด “ไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับ ทั้งในระยะสั้นระยะยาว เปลืองตัวอีกต่างหาก”

เนื่องจากมีนายก อบต. อำเภอปง พะเยา ออกมาต้าน “ไม่ต้องการให้เกิดความแตกแยกรอบสอง” อ้างว่าปกติในการเมืองท้องถิ่น เมื่อเสร็จการเลือกตั้งแล้วทุกพรรคทุกฝ่ายก็กลับไปเป็นมิตรสหาย เป็นพี่เป็นน้อง คุ้นเคยกันอย่างเดิม

ประเด็นที่ต้องคิดเกิดจากข้อมูลที่อธึกกิตชี้ว่านายก อบต.คนนี้ “อนุรักษ์ โปร่งสุยา นี่เป็นแดงนะครับ เคยเป็นข่าวเมื่อปี ๕๔ ในฐานะประธานชมรมพะเยาอาร์มี ยัวะที่จตุพร ก่อแก้ว ไปช่วยผู้สมัครนายก อบจ. คนหนึ่งหาเสียง” (https://mgronline.com/local/detail/9540000138464)

อธึกกิตเห็นว่า “ที่เขาค้านจึงเข้าใจได้ ตอนนั้นเขาบอกว่าในพะเยาก็แดงหมดนั่นละ ผู้สมัครคนไหนก็แดง พรรคเพื่อไทยและ นปช.จึงควรเป็นกลาง อย่าเลือกข้างสนับสนุนคนใดคนหนึ่ง” แต่เหตุผลที่ยกขึ้นมาใช้ค้านเขาว่ายังฟังไม่ขึ้น

คือที่นายอนุรักษ์เอ่ยถึง เสน่ห์ ของการเมืองท้องถิ่นว่า เมื่อพ้นฤดูกาลเลือกตั้งแล้วก็ต้องกลับไปสู่ฤดูกาลของการทำมาหากินกันต่อไป คู่ต่อสู้ต่างกลับไปถ้อยทีถ้อยอาศัย อลุ่มอล่วยกัน อันแตกต่างกับการเมืองระดับชาติ
 
ที่มีการต่อสู้และแย่งชิงผลประโยชน์กันตลอด ๓๖๕ วัน ไม่มีหยุดพัก” นี้นายอนุรักษ์เห็นว่าทำให้เสน่ห์หมดไป “เป็นการจำลองการแข่งขัน การแย่งชิงผลประโยชน์จากระดับชาติมาสู่ระดับท้องถิ่น จะไม่ใช่การเมืองเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ไม่มีความผูกพันอีกต่อไป”


ประเด็นที่อธึกกิตตั้งแง่ไม่เห็นด้วยตรงที่การเมืองท้องถิ่นอยู่ในภาวะเหมือนๆ ฮั้วกันแล้ว “มันเกิดการผูกขาด หรือกึ่งๆ ตกลงกันเองในระหว่างกลุ่มการเมือง” ต่างๆ “ไม่แตะผลประโยชน์กัน ไม่เกิดการต่อสู้จริงจัง ไม่มีฝ่ายค้านตรวจสอบฝ่ายบริหาร” ทำให้ “ประชาชนสิรับกรรม”

เขาสรุปว่า “อนาคตใหม่ก็ต้องทำ มันคือการสร้างฐานพรรค ซึ่งไม่สามารถเดินตามแนวทางนักการเมืองเก่า แบบไปงานบวชงานศพผันงบลงพื้นที่หารถไปเกรดถนนหาเงินทำบุญเข้าวัด ฯลฯ สู้กับนักการเมืองแบบนั้น” แต่แล้วก็จะเป็นลูบหน้าปะจมูกอย่างกรณีพะเยา

ถึงอย่างไรในหน้าเสื่อของ อนาคตใหม่“คืออันดับแรก ถ้าจะทำก็ต้องไม่เห็นแก่หน้าอินทร์หน้าพรหม หน้าเพื่อไทย หน้าแนวร่วมประชาธิปไตย ซึ่งก็อาจโดนด่าขรมอีก แม้อาจไม่ส่งชนกันทุกเขต” แต่ว่า “ถ้าชนะแล้ว จะบริหารได้หรือไม่ เพราะถ้าล้มเหลวพรรคก็จะเสียหาย ถ้า compromise กับใครไม่ได้เลย ก็ทำงานไม่ได้”


“มันไม่ง่ายนะ” ถึงกระนั้นรูปการณ์เวลานี้มันก็ไม่ยาก "With a little help from a friend." ก็ยังเดินหน้ากันต่อไปได้ไม่ยั้ง อย่างเช่น 
พรรค “เพื่อไทยแฉหลักฐานใหม่พบคณะรัฐมนตรีลอบช่วยช่วงเลือกตั้ง โดยแจกเงิน อสม. ๔,๐๐๐ ล้าน” จากการที่เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ครม.ของรัฐบาล คสช. อนุมัติค่าใช้จ่ายเพิ่มค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำหมู่บ้าน

ผู้บริหารพรรคเพื่อไทยตั้งโต๊ะแถลงเมื่อวันเมย์เดย์ว่าโครงการแจกเงิน อสม. โดยเพิ่มจากเดิมเดือนละ ๖๐๐ บาท เพิ่มเป็น ๑,๐๐๐ บาท อันจะต้องถอนงบประมาณออกมาถลุงอีกประมาณ ๔,๐๐๐ ล้านบาทนั้น ภูมิธรรม เวชยชัย และชูศักดิ์ ศิรินิล ชี้ว่า

“มันบังเอิญ (เสีย) จริงๆ ที่จัดงบฯ ก้อนนี้ในช่วงเลือกตั้งเลยพอดี ฉะนั้นอาจจะเข้าข่าย ครม.ให้ทรัพย์สินแก่บุคคลเพื่อจูงใจในการเลือกตั้ง” ยังมีกรณีความผิดชัดๆ อย่างนี้อีกหลายต่อหลายกรณี

ที่ฝ่ายไม่เอาสืบทอดอำนาจรัฐทหารถ้าร่วมด้วยช่วยกันประจานถี่ๆ รัวๆ คสช.แสร้งทำหูอื้อถือหลัก “ความผิดผู้อื่นเท่าภูผา ความผิดตัวข้าเท่าเส้นผม” อย่างไร ก็จะไม่อาจทัดทานได้