“เลือกธนาธรได้ทักษิณจริงเปล่า" ไอโอใครเนี่ยที่ 'ชูวิทย์' ถามหา

 

“เลือกธนาธรได้ทักษิณจริงเปล่า จะเปลี่ยนจากเลือกเพื่อไทยมาเลือกอนาคตใหม่เลยเนี่ย” (จากทวี้ตของ ‘มั่วบ้านงาน @Reachestman’) พอดิบพอดี ‘โป๊ะเช๊’ รูปทักษิณกับยิ่งลักษณ์ในอินโดนีเซียก็โผล่มาให้เห็น

“วันนี้มาทานกาแฟตอนเช้ากับพี่ชายที่อินโดนีเซีย ก็ยังคุยกันเลยว่าการแข่งขันขณะนี้สูง”เป็นทวี้ตของ @PouYingluck น้องสาวชินวัตร ที่พูดถึงเรื่องกาแฟล้วนๆ...แม้กระทั่งร้านกาแฟก็ยังต้องมีความคิดสร้างสรรค์ นำเสนอความคิดที่แตกต่าง เพื่อดึงดูดลูกค้าให้สนใจ”

ถ้าวัดจากแรงต้านต้องยอมรับว่า ‘อนาคตใหม่’ ยิ่งมาแรงเข้าไปใหญ่ แรงขนาดเดี๋ยวนี้มีคนโพสต์สไตล์ ‘ไอโอ’ โวว่า “เลือกธนาธรได้ทักษิณ” เลยนั่น ซึ่งก็คงไม่ได้เกิดจากสายพลังประชารัฐเสมอไป ในเมื่อพรรคที่เสียท่าต่อการเกิดของ อนค. เป็น ปชป.เสียมากกว่า

ถึงได้โดน ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ‘ประกาศพรรคหาย’ ถามว่า “หลบไปไหน” แซะแรงทีเดียวว่าเลือกตั้งครานี้ ๒๕๖๒ “ประชาธิปัตย์เดินหน้าก็ติดกึ๊ก ถอยหลังก็ติดกั๊ก กลายเป็นพวก “เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง”

“จะด่าทักษิณ ก็กลัวถูกเหมาว่าไปร่วมกับฝั่งเผด็จการ จะด่าทหาร ก็กลัวจะไปร่วมรัฐบาลกับเขาไม่ได้ เลย เงอะๆงะๆ ทำตัวไม่ถูก ได้แต่ทำตัว ‘เจี๋ยมเจี้ยม’ ไม่สมราคาพรรคเก่าแก่ สู้พรรคอนาคตใหม่ที่มาแรงก็ไม่ได้”

เรื่องนี้เสี่ยชูโทษกำนันเทือก “สุเทพนะสุเทพ ไม่น่าทำให้ ‘สถาบันทางการเมือง’ อย่างพรรคประชาธิปัตย์ต้องตกร่องแบบนี้เลย เป็นเพราะนกหวีดแท้ๆ”

(https://www.facebook.com/ChuvitKamolvisit/posts/2368942143152501)

ท้าวความตามท้องเรื่อง ปฏิบัติการวิชามารนี้น่าจะเริ่มมาจากค่ายเนชั่นที่อยู่ภายใต้สปริงนิวส์และมี สนธิญาน ชื่นฤทัยในธรรม เป็นผู้บริหารสำคัญ เพราะดันพาดหัวข่าวว่า “ธนาธรประกาศเอาทักษิณกลับบ้าน” ทั้งที่เนื้อความเต็มไม่ใช่แบบนั้น

“สื่อบางสำนักนำคำให้สัมภาษณ์ (ต่อหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์) ไปตัดตอนเฉพาะบางช่วงบางตอน และบิดเบือนโดยเจตนาทำให้เข้าใจผิด” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อนค.เขียนชี้แจงบนหน้าเฟชบุ๊คของเขา ในหัวข้อ “ผมไม่ได้เสนอให้พาทักษิณกลับบ้าน”

“ต่อข้อถามที่ว่าเขาจะให้ทักษิณและยิ่งลักษณ์กลับประเทศไทยหรือไม่ ธนาธรหยุดคิดพร้อมยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม” ข่าวเนชั่นสาธยาย “ก่อนจะตอบว่า ในจุดนี้เราเชื่อว่าถ้าคุณต้องการให้ประชาชนในประเทศสมานฉันท์ มีหนทางเดียว คนทุกคนต้องรับผิดชอบในสิ่งที่พวกเขาทำ...

ข้อหาทางอาญาที่จะเอาผิดคุณทักษิณ ที่มีการกล่าวโทษไว้ในยุครัฐบาลทหาร เราเสนอให้เอาเขากลับมาแล้วเปิดการไต่สวนเพื่อเอาผิดเขา” ข่าวเนชั่นชิ้นนั้นยังเสริมว่า ธนาธรระบุ “การตั้งข้อหาทักษิณและยิ่งลักษณ์มีแรงจูงใจทางการเมือง

ซึ่งเขามองว่าไม่มีวันทำได้สำเร็จ แต่ควรนำทั้งสองคนกลับมารับการพิจารณาคดีภายใต้ระบบยุติธรรมที่เป็นอิสระ” การพาดหัวข่าวว่าธนาธรประกาศเอาทักษิณกลับบ้าน จึงเป็นการให้ข้อเท็จจริงไม่ครบถ้วนจนเกิดความเข้าใจผิดเพี้ยน ‘โดยเจตนา’

ด้านปฏิบัติการ ‘สาย’ ทหารก็น่าจะโน่น ดักทำร้ายเอกชัย หงส์กังวาล และโหมโจมตี ‘กร้าว’ กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ล่าสุดเป็นการไล่พ่นสีสเปรย์ใส่ป้ายหาเสียงพรรคเสรีรวมไทยของเขา ซึ่ง อกาลิโก‏ @loving_Friday ตั้งข้อสังเกตุว่า “ป้ายพรรคเสรีรวมไทยถูกพ่นสีสเปรย์บริเวณถนนพระราม ๕ เขตดุสิต แถวนั้นเขตทหารล้วนๆ”

 

ส่วนออนไลน์ “ไอโอ ไม่เนียน” เกี่ยวกับเพจ #Savethanathorn ที่ประกาศยุติบทบาท อ้างว่า “เพราะพรรคนี้กำลังถอยหลังสู่การเมืองน้ำเน่า” นั้นมีคนจับผิดได้ทันควัน

@wpwpwpwpp ลากไส้ออกมาแฉว่า “เพิ่งลอกคราบมาเป็นเพจ #Savethanathorn เมื่อวันที่ ๒๑ กพ. วันนี้ยุติละ สองอาทิตย์เอง ความอดทนต่ำจัง” ซ้ำยังแค้ปภาพให้เห็นด้วยว่า “เพจนั้นส่งปุ๊บ เพจนี้ (เนชั่น) ยิงต่อ ทำงานกันเป็นทีมจริงๆ”

(ถ้าสังเกตุกันดีๆ เพจต้นตอที่ประกาศยุติไปนั่น มีการสะกดชื่อเพี้ยนไปจากของจริงนิดหนึ่ง ตรงคำว่า ‘ธร-thorn’ เขาเขียนตัว ‘r’ สลับที่ไปอยู่หน้าตัว ‘o’ แทนที่จะอยู่หน้าตัว ‘n’ เป็น ‘ธรอน-thron’)

ไม่เท่านั้น ตอนนี้มีปฏิบัติการสายอำมาตย์โผล่มาแล้ว หลังจากเงียบหายไปนาน ปีย์ มาลากุล ต้นตำรับ ‘เจ้าภาพรัฐประหาร’ เจ้าของบ้านการประชุมวางแผนยึดอำนาจทักษิณเมื่อปี ๔๙ ปัจจุบันเป็นประธานแปซิฟิคกรุ๊ป

 

โพสต์เฟชบุ๊ค ‘ทนไม่ได้’ ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของศาล ทำขรึม “ผมรักประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เคารพและเทิดทูนใน ๓ สถาบัน” แต่ตั้งแง่ทำเป็นฉงนถึง “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เรากำลังจะไปใช้สิทธิ์เลือกกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ มีหน้าที่อะไรในสภา”

(http://www.js100.com/en/site/post_share/view/69665)

อย่างนี้ต้องถามกลับว่า สมาชิกวุฒิสภา ๒๕๐ คนที่ คสช. ตั้งกับมือ ๑๙๔ + ๖ กับคัดสรรอีก ๕๐ คนจากที่เลือกกันมา ๒๐๐ คน นั้นมีกงการอะไรให้ต้องร่วมเลือกตัวนายกรัฐมนตรี ถ้าไม่ใช่ ‘เผด็จการทหาร’ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข