วันจันทร์, เมษายน 29, 2567

เชิญชวนร่วมฟังคำพิพากษา คดีม.112 คดีที่ 3 ของอานนท์ นำภา จากการปราศรัยในม็อบครบรอบ 1 ปี แฮรี่พอตเตอร์ หรือ ม็อบแฮรี่พอตเตอร์ 2 . 29 เม.ย. 2567 ศาลอาญากรุงเทพใต้ เวลา 9.00 ห้อง 703

Pipob Udomittipong
17 hours ago
·
เช้าวันจันทร์ 29 เม.ย. ศาลอาญากรุงเทพใต้ เวลา 9.00 ห้อง 703 คดีนี้ #อานนท์ ให้การต่อศาลชัดเจนว่า ตอนที่ถูก DRG ทาบทามให้ไปพูด เขาปฏิเสธไป 2-3 ครั้ง เหตุผลง่ายนิดเดียว เพราะเขาเพิ่งได้ประกันตัวออกมาไม่นาน ยังกับมาอยู่ร่วมกับครอบครัวเล็ก ๆ ของเขาได้ไม่นาน แต่แล้วลูกทุ่งคนยากก็แพ้ใจตัวเอง “ผมรู้ว่าถ้าผมไม่ไป ก็ไม่มีใครกล้าพูดเรื่องนี้”
มาครับ มารับร่วมเป็นสักขีพยานคดีประวัติศาสตร์ครับ

อานนท์ นำภา
a day ago
·
ฝากแชร์+เชิญชวนร่วมฟังคำพิพากษา
คดีม.112 คดีที่ 3 ของอานนท์ นำภา
จากการปราศรัยในม็อบครบรอบ 1 ปี
แฮรี่พอตเตอร์ หรือ ม็อบแฮรี่พอตเตอร์ 2
.
29 เม.ย. 2567 ศาลอาญากรุงเทพใต้
เวลา 9.00 เป็นต้นไป ณ ห้อง 703
.
แล้วเจอกันจ้า (ใช้เวลาฟังไม่เกิน 1 ชั่วโมง)

.....

iLaw
19h·

พิพากษาทนายอานนท์คดีที่สาม เหตุปราศรัย #ม็อบแฮรีพอตเตอร์2
พรุ่งนี้ เวลา 9.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 703 ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชนฟังคำพิพากษา คดีนี้สืบเนื่องจากการปราศรัยในการชุมนุม #ม็อบแฮรีพอตเตอร์2 เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 คดีนี้มีนพดล พรหมภาสิต เลขาธิการศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิดบนโลกออนไลน์ (ศชอ.) เป็นผู้กล่าวหา
ตามคำฟ้องอานนท์ปราศรัยมีเนื้อหาทำนองว่า การชุมนุมในระยะหนึ่งปีที่ผ่านมาผู้ชุมนุมถูกตอบโต้กลับอย่างรุนแรง ที่ผ่านมาขบวนการเคลื่อนไหวได้มีการสื่อสารถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ซึ่งข้อความดังกล่าวมีความหมายแสดงว่า พระองค์ทรงมีพฤติกรรมไม่ชอบในทางทรัพย์สิน หรือมุ่งแสวงหาประโยชน์ส่วนพระองค์เป็นสำคัญ กล่าวคือ พฤติการณ์การถ่ายโอนเอาทรัพย์สินของแผ่นดิน หรือทรัพย์สินที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันไปเป็นของพระองค์แต่เพียงผู้เดียวในทํานองการยักยอกทรัพย์ซึ่งเป็นของหลวงของแผ่นดิน อันเป็นการเสื่อมเสียอย่างมากต่อพระเกียรติและภาพลักษณ์ของพระองค์
การกล่าวถึงการสนับสนุนวัคซีนป้องกันโควิด 19 ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาและการที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทสยามไบโอไซน์ ซึ่งข้อความดังกล่าวมีความหมายแสดงว่า รัชกาลที่สิบทรงมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับรัฐบาล หรือมุ่งใส่พระทัยในผลประโยชน์โดยมิชอบในทางทรัพย์สินส่วนพระองค์ ร่วมกันกับรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดิน และการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อร้ายแรงภายในประเทศ โดยมิได้ใส่พระทัยในความเป็นอยู่ที่ยากลําบากหรือการเจ็บป่วยล้มตายของประชาชน แม้เป็นการกล่าวในลักษณะว่าร้ายโดยเจาะจงแก่นายกรัฐมนตรี แต่ด้วยการกล่าวถึงเหตุผลประกอบต่างๆ แล้ว การกล่าวถึงนายกรัฐมนตรีจึงเป็นเพียงลักษณะของการใช้สํานวนโวหารเพื่อให้บรรลุความประสงค์แท้จริงในการใส่ความพระมหากษัตริย์ของจําเลยเท่านั้น อันเป็นการเสื่อมเสียอย่างมากต่อพระเกียรติ และภาพลักษณ์ของพระองค์
คดีนี้ถือเป็นคดีที่สามจากทั้งหมด 14 คดีของอานนท์ที่ศาลมีคำพิพากษาแล้ว
อ่านทั้งหมด : https://www.ilaw.or.th/articles/27232