Thamrongsak Petchlertanan
10h
มายซัน ไปชมมิวเซียม 6 ตุลา
คืนวันเสาร์ต้นเดือนตุลาคม ผมถามมายซันว่าพรุ่งนี้บ่ายๆ ผมจะไปดูมิวเซียม 6 ตุลา ที่จัดแถวแยกสะพานซังฮี้ ฝั่งธน อยากจะไปด้วยมั้ย
มายซันตอบทันทีว่า "ไปๆ"
วันอาทิตย์ราวบ่ายสี่ เราก็เดินมาอยู่ที่หน้าห้องแถวห้องหนึ่งของตึกริมถนนใหญ่ที่อาคารนี้มี 5 ห้องด้วยกัน สองห้องขวาเป็นคลินิคความงาม สองห้องซ้ายเป็นร้านขายแก๊สหุ้งต้ม
ด้านหน้าห้องแถวห้องกลางนี้มีหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ รุ่น 6 ตุลาติดเต็มกระจกและประตู เราไม่อาจมองเห็นข้างในได้เลย
"พ่อๆ มาถูกที่นะ" มายซันถามแบบยิ้มๆ
ผมเข้าไปนั่งเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ด้านหน้า แล้วให้มายซันช่วยถ่ายรูปให้ ส่วนมายซันก็ดูหนังสือพิมพ์ที่ติดอยู่และฉบับที่ทำเหมือนแขวนให้อ่าน ก็อบปี้มาจากฉบับวันนั้นในอดีตทุกหน้าทีเดียว
เมื่อเราผลักประตูเข้าไป ข้างในดูเป็นความมืด หลังจากปรับตัวสักครู่ ภาพที่เราเห็นถูกขยายใหญ่มากจนเต็มห้อง มายซันก็เริ่มอ่านคำอธิบายที่จุดต่าง
เมื่อเราหันไปดูทางพื้นด้านหน้าประตู ที่ทำแผ่นมันวาวเหมือนกระจกสะท้อนภาพตัวเราเอง ราวกับว่า เราเป็นส่วนหนึ่งของ เหตุการณ์ 6 ตุลา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
"เฮ้ย มายซัน ดูที่ขั้นบันไดสิ เขาสามารถใช้ทุกพื้นที่เพื่อเสนอเรื่องราว" ผมเรียกมายซันมาดู
"วาว เขียนลำดับได้ดีกว่าที่หนูเขียนเสียอีก" มายซันอ่านเหตุการณ์ตามขั้นบันได มันเป็นลำดับเหตุการณ์ที่เริ่มจากปฏิวัติ 2475 ตามมาด้วยความพยายามเอาอำนาจผลประโยชน์กลับคืนของระบอบเก่า
เราทิ้งมายซันให้เที่ยวในมิวเซียมด้วยตนเอง โดยเราเดินขึ้นไปชั้นบนก่อน ส่วนมายซันก็เดินดูเดินอ่านไปตามใจ
มายซันค่อยๆ ดูภาพ ค่อยๆ อ่านตาม ตอนนี้วิชาที่มายซันชอบคือประวัติศาสตร์การเมือง หากเป็นการบ้านเกี่ยวกับการเมืองไทย มายซันจะมีความสุขกับการเขียนบรรยายแบบยาว จนครูหนุ่มรุ่นใหม่ชมว่าเขียนได้เยอะดี ส่วนเพื่อนมักเขียนกันอย่างสั้นๆ
"มีความสุขก็ทำไป" ผมบอก เมื่อมายซันเอาความพยายามในการเขียนยามค่ำคืนในห้องนอนมาเล่าให้ฟัง
"แต่เราก็ต้องให้เวลาวิชาอื่นด้วย มันเรียกว่าการบริหารจัดการเวลา เราต้องเก็บคะแนนมันทุกด้าน" ผมขยายความ
อีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งต่อมา เราเดินไปเจอมายซันอีกทีก็ชั้นบนสุด
"ชอบอะไรมากที่สุด" ผมถาม
"ชอบภาพทุกภาพ" มายซันตอบ "มันทำให้เข้าใจเรื่องเข้าใจบรรยากาศ"
เมื่อเริ่มเสวนาววิชาการ 6 ตุลา เนื่องจากฝนเทลงมา เวทีจึงย้ายจากดาดฟ้าข้างนอก เข้ามาอยู่ในห้องชั้นบนสุด
มายซันตัดสินใจหยิบเก้าอี้นั่งแบบกลมตัวหนึ่ง เดินเข้าไปในห้องที่มีคนเยอะมากกำลังคอยฟังการสนทนา วันนี้มีอาจารย์ธงชัย วินิจจะกูล ที่มายซันเคยได้ยินชื่อว่า เป็นอาจารย์ของแดดดี้สมัยเรียนประวัติศาสตร์ ยังมีอาจารย์อีกสองคน รวมทั้งเพนกวิน ที่มายซันรู้สึกคุ้นเคยมานานแล้วทางสื่อออนไลน์
เราพบมายซันอีกทีเมื่องานสนทนาในห้องจบตอนสองทุ่มครึ่ง มายซันจึงเดินมาหาเรา
"หิวมั้ย" ผมถาม "ไปหาอะไรกินแถวนี้แล้วค่อยกลับบ้าน มายซันพยักหน้า
"พ่อๆ เราขึ้นไปเดินเล่นบนสะพานกันมั้ย" มายซันอยากเดินเที่ยวต่อเมื่อเราเดินมุ่งไปทางสะพาน
"ได้ครับ แต่วันนี้ต้องพอก่อน เพราะเดี๋ยวดึกไป พรุ่งนี้วันจันทร์" มายซันเห็นด้วย จึงไปหาอะไรกินกัน แล้วกลับบ้าน
มายซันซื้อหนังสือพิมพ์ "6 ตุลา เผชิญหน้าปิศาจ" ราคา 20 บาท ติดมาด้วย
กลับมาถึงบ้าน มายซันก็อ่านแผ่นกระดาษแบบยาวที่ใช้พันห่อม้วนหนังสือพิมพ์ อ่านดังๆ ให้ผมได้ยินด้วย แถลงการณ์คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 3...."
เมื่ออ่านจบ มายซันก็ไปค้นกล่องม้วนกระดาษกลมๆ ในนั้นมีแผ่นโปสเตอร์ ดึงออกมาคลี่ให้ผมดู แล้วยิ้มให้ผมพร้อมบอกว่า
"นี่ ของที่ระลึก 6 ตุลา เมื่อปีก่อน ที่หอใหญ่ธรรมศาสตร์"
มายซัน ไปชมมิวเซียม 6 ตุลา
คืนวันเสาร์ต้นเดือนตุลาคม ผมถามมายซันว่าพรุ่งนี้บ่ายๆ ผมจะไปดูมิวเซียม 6 ตุลา ที่จัดแถวแยกสะพานซังฮี้ ฝั่งธน อยากจะไปด้วยมั้ย
มายซันตอบทันทีว่า "ไปๆ"
วันอาทิตย์ราวบ่ายสี่ เราก็เดินมาอยู่ที่หน้าห้องแถวห้องหนึ่งของตึกริมถนนใหญ่ที่อาคารนี้มี 5 ห้องด้วยกัน สองห้องขวาเป็นคลินิคความงาม สองห้องซ้ายเป็นร้านขายแก๊สหุ้งต้ม
ด้านหน้าห้องแถวห้องกลางนี้มีหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ รุ่น 6 ตุลาติดเต็มกระจกและประตู เราไม่อาจมองเห็นข้างในได้เลย
"พ่อๆ มาถูกที่นะ" มายซันถามแบบยิ้มๆ
ผมเข้าไปนั่งเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ด้านหน้า แล้วให้มายซันช่วยถ่ายรูปให้ ส่วนมายซันก็ดูหนังสือพิมพ์ที่ติดอยู่และฉบับที่ทำเหมือนแขวนให้อ่าน ก็อบปี้มาจากฉบับวันนั้นในอดีตทุกหน้าทีเดียว
เมื่อเราผลักประตูเข้าไป ข้างในดูเป็นความมืด หลังจากปรับตัวสักครู่ ภาพที่เราเห็นถูกขยายใหญ่มากจนเต็มห้อง มายซันก็เริ่มอ่านคำอธิบายที่จุดต่าง
เมื่อเราหันไปดูทางพื้นด้านหน้าประตู ที่ทำแผ่นมันวาวเหมือนกระจกสะท้อนภาพตัวเราเอง ราวกับว่า เราเป็นส่วนหนึ่งของ เหตุการณ์ 6 ตุลา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
"เฮ้ย มายซัน ดูที่ขั้นบันไดสิ เขาสามารถใช้ทุกพื้นที่เพื่อเสนอเรื่องราว" ผมเรียกมายซันมาดู
"วาว เขียนลำดับได้ดีกว่าที่หนูเขียนเสียอีก" มายซันอ่านเหตุการณ์ตามขั้นบันได มันเป็นลำดับเหตุการณ์ที่เริ่มจากปฏิวัติ 2475 ตามมาด้วยความพยายามเอาอำนาจผลประโยชน์กลับคืนของระบอบเก่า
เราทิ้งมายซันให้เที่ยวในมิวเซียมด้วยตนเอง โดยเราเดินขึ้นไปชั้นบนก่อน ส่วนมายซันก็เดินดูเดินอ่านไปตามใจ
มายซันค่อยๆ ดูภาพ ค่อยๆ อ่านตาม ตอนนี้วิชาที่มายซันชอบคือประวัติศาสตร์การเมือง หากเป็นการบ้านเกี่ยวกับการเมืองไทย มายซันจะมีความสุขกับการเขียนบรรยายแบบยาว จนครูหนุ่มรุ่นใหม่ชมว่าเขียนได้เยอะดี ส่วนเพื่อนมักเขียนกันอย่างสั้นๆ
"มีความสุขก็ทำไป" ผมบอก เมื่อมายซันเอาความพยายามในการเขียนยามค่ำคืนในห้องนอนมาเล่าให้ฟัง
"แต่เราก็ต้องให้เวลาวิชาอื่นด้วย มันเรียกว่าการบริหารจัดการเวลา เราต้องเก็บคะแนนมันทุกด้าน" ผมขยายความ
อีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งต่อมา เราเดินไปเจอมายซันอีกทีก็ชั้นบนสุด
"ชอบอะไรมากที่สุด" ผมถาม
"ชอบภาพทุกภาพ" มายซันตอบ "มันทำให้เข้าใจเรื่องเข้าใจบรรยากาศ"
เมื่อเริ่มเสวนาววิชาการ 6 ตุลา เนื่องจากฝนเทลงมา เวทีจึงย้ายจากดาดฟ้าข้างนอก เข้ามาอยู่ในห้องชั้นบนสุด
มายซันตัดสินใจหยิบเก้าอี้นั่งแบบกลมตัวหนึ่ง เดินเข้าไปในห้องที่มีคนเยอะมากกำลังคอยฟังการสนทนา วันนี้มีอาจารย์ธงชัย วินิจจะกูล ที่มายซันเคยได้ยินชื่อว่า เป็นอาจารย์ของแดดดี้สมัยเรียนประวัติศาสตร์ ยังมีอาจารย์อีกสองคน รวมทั้งเพนกวิน ที่มายซันรู้สึกคุ้นเคยมานานแล้วทางสื่อออนไลน์
เราพบมายซันอีกทีเมื่องานสนทนาในห้องจบตอนสองทุ่มครึ่ง มายซันจึงเดินมาหาเรา
"หิวมั้ย" ผมถาม "ไปหาอะไรกินแถวนี้แล้วค่อยกลับบ้าน มายซันพยักหน้า
"พ่อๆ เราขึ้นไปเดินเล่นบนสะพานกันมั้ย" มายซันอยากเดินเที่ยวต่อเมื่อเราเดินมุ่งไปทางสะพาน
"ได้ครับ แต่วันนี้ต้องพอก่อน เพราะเดี๋ยวดึกไป พรุ่งนี้วันจันทร์" มายซันเห็นด้วย จึงไปหาอะไรกินกัน แล้วกลับบ้าน
มายซันซื้อหนังสือพิมพ์ "6 ตุลา เผชิญหน้าปิศาจ" ราคา 20 บาท ติดมาด้วย
กลับมาถึงบ้าน มายซันก็อ่านแผ่นกระดาษแบบยาวที่ใช้พันห่อม้วนหนังสือพิมพ์ อ่านดังๆ ให้ผมได้ยินด้วย แถลงการณ์คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 3...."
เมื่ออ่านจบ มายซันก็ไปค้นกล่องม้วนกระดาษกลมๆ ในนั้นมีแผ่นโปสเตอร์ ดึงออกมาคลี่ให้ผมดู แล้วยิ้มให้ผมพร้อมบอกว่า
"นี่ ของที่ระลึก 6 ตุลา เมื่อปีก่อน ที่หอใหญ่ธรรมศาสตร์"
