วันศุกร์, สิงหาคม 19, 2565

"ชื่อเสีย" ของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้เกิดจากใครไปแฮ็กเว็บ สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อในตน ฉันใดฉันนั้น


Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรม
11h

["ชื่อเสีย" ของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้เกิดจากใครไปแฮ็กเว็บ ชวนติดตามการวินิจฉัย "8 ปีประยุทธ์" เร็วๆ นี้]
.
จากกรณีที่วันนี้ (18 สิงหาคม 2565) ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาให้ผู้ก่อเหตุเปลี่ยนชื่อและหน้าเว็บไซต์ของศาลรัฐธรรมนูญเป็น "ศาลจิงโจ้" (Kangaroo Court) มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และลงโทษจำคุก 3 ปี (ลดโทษเหลือ 1 ปี 6 เดือน) โดยไม่รอลงอาญา รวมถึงให้จ่ายค่าเสียหาย (ค่าแก้ไขข้อมูลและจัดทำเว็บไซต์ใหม่) 87,227 บาท พร้อมดอกเบี้ย 5% ต่อปี
.
โดยศาลอาญาอ้างเหตุผลว่าการกระทำของจำเลย "เป็นการจงใจทำลายภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่นทำลายความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อหน่วยงานของผู้เสียหายซึ่งมีบทบาทสำคัญเพื่อให้หน่วยงานของผู้เสียหายดำรงคงอยู่เพื่ออำนวยความยุติธรรมตามกฎหมายในการรักษาความสงบเรียบร้อยอันเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติโดยรวม ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบยุติธรรมอย่างร้ายแรง ควรลงโทษหลาบจำเป็นไม่เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่น"
.
นอกจากนี้ทางศาลรัฐธรรมนูญยังฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการถูกทำให้เสียชื่อเสียง เป็นจำนวนถึง 10 ล้านบาท แต่ศาลแพ่งยกฟ้องเนื่องจากคดีอาญาที่ฟ้องมานั้นไม่ได้ฟ้องในความผิดฐานดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาท
.
ผมเห็นว่าการจะอ้างว่าศาลรัฐธรรมนูญได้รับความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นอย่างไรนั้น ควรต้องตั้งหลักคิดเสียก่อนว่าแค่การไปแฮ็กเว็บไซต์เพื่อเปลี่ยนชื่อหรือข้อมูลใดๆ นั้น ไม่มีทางที่จะสร้างความเสื่อมเสียได้เลย หากที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยอย่างต้องตรงกับหลักกฎหมาย เป็นเหตุเป็นผลอธิบายต่อสังคมได้ และปราศจากอคติทางการเมืองมาโดยตลอด
.
สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อในตนฉันใด ก็มีแค่การใช้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญฉันนั้นเองที่ทำลายความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนที่มีต่อตัวองค์กรและระบบตุลาการทั้งมวลได้ ตัวอย่างคำวินิจฉัยอย่างเรื่องที่ว่าผู้ชุมนุม "ล้มล้างการปกครอง" (ซึ่งเป็นเหตุที่มาของการแฮ็กเว็บไซต์) หรือเรื่องการสมรสเท่าเทียม ก็คงบอกกับทุกท่านได้เป็นอย่างดี
.
และล่าสุดก็กำลังจะมีกรณีที่สภายื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งกำลังจะครบรอบในอีกไม่กี่วันนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนมาติดตามไปด้วยกันครับ ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะสร้างตำนานการทำลายความเชื่อถือศรัทธาต่อองค์กรของตัวเอง (แล้วมาโทษคนที่วิจารณ์ทีหลัง) อีกครั้งหรือไม่