วันอังคาร, สิงหาคม 02, 2565

ความอนาถคุณภาพชีวิตคนไทย

#เรื่องเล่าเช้านี้ #3PlusNews #Ch3Plus
สะเทือนขวัญ พระราม2! แผ่นปูนสะพานกลับรถ หล่นทับเก๋งคร่าชีวิต 2 ศพ สาหัส 1 ญาติร่ำไห้แทบขาดใจ

Jul 31, 2022

เรื่องเล่าเช้านี้

สะเทือนขวัญ พระราม2 คานสะพานกลับรถ หนัก 5 ตัน หล่นทับรถกลางถนน ตาย 2 เจ็บ 2 พ่อแม่ผู้เสียชีวิต สุดช็อกลูกชายดับคาเก๋ง ปล่อยโฮลั่น คนขับรถบรรทุกน้ำมัน เล่านาทีเฉียดตายหวิดเกิดโศกนาฎกรรม ขณะที่ผู้ว่าฯสมุทรสาคร แจ้งปิดถนน 100 เปอร์เซนต์ ขอประเมินความปลอดภัย และเคลียร์เส้นทาง แนะประชาชนหลีกเลี่ยง ถนนพระราม2 หน้าโรงพยาบาลวิภาราม ด้านอธิบดี กรมทางหลวง ขอโทษประชาชน เชื่อเป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้เกิดจากความสะเพร่า

วานนี้ (วันที่ 31 ก.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาครได้รับแจ้ง เกิดเหตุสะพานกลับรถหน้าโรงพยาบาลวิภาราม กม.ที่ 34 ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ที่อยู่ระหว่างการปิดซ่อมบำรุง พังถล่มลงมาทับรถยนต์ที่สัญจรอยู่บนถนนพระราม 2 ช่องทางด่วน ขาเข้ากรุงเทพฯ มีรถยนต์ได้รับความเสียหายหลายคัน อีกทั้งยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคนและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย จึงรีบไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

โดยจุดที่เกิดเหตุเป็นบริเวณใต้สะพาน (เกือกม้า) กลับรถ พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ เชฟโรเลต ทะเบียน ชธ 6271 กรุงเทพมหานคร ถูกแผ่นปูนความยาวกว่า 10 เมตร น้ำหนักราว 5 ตัน หล่นลงมาทับไว้ทั้งคันจนรถขาดท่อน ทำให้คนนั่งข้างฝั่งซ้ายเสียชีวิตติดอยู่ภายใน (ยังไม่ทราบชื่อ) ส่วนคนขับรถยนต์เก๋งได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งยังมีรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุดีแม็กซ์ ทะเบียน 3 ฒธ 5940 กรุงเทพมหานคร ด้านหน้ารถถูกแผ่นปูนทับไว้ โชคดีที่คนขับและผู้อาศัยมาในรถปลอดภัยทั้งหมด

นอกจากนี้ยังมีคนงานที่กำลังทำงานซ่อมแซมอยู่บนสะพานกลับรถ ซึ่งตกลงมาพร้อมกับแผ่นปูน ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 2 คน แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร 1 คน พร้อมกันนี้ยังมีรถที่ได้รับความเสียหายอีก 1 คัน เป็นรถบรรทุกน้ำมันดีเซลที่ไปลงน้ำมันให้กับลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ต่อมามีคลิปจากกล้องหน้ารถซึ่งสามารถบันทึกเอาไว้ได้โดยจะเห็นว่า รถคนที่ถ่ายกำลังเคลื่อนที่บนถนนพระรามสองอย่างช้าๆโดยมีรถที่สัญจรอยู่จำนวนมากจู่ ๆ ก็มีปูนความยาวกว่า 10 เมตร น้ำหนักราว 5 ตัน ร่วงลงมาต่อหน้าต่อตาสร้างความตื่นตกใจแก่ผู้โพสต์เป็นอย่างมาก

ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็สร้างความสะเทือนขวัญให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังส่งผลทำให้การจราจรติดขัดเป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร ส่วนรถยนต์เก๋งที่ถูกแผ่นปูนทับไว้นั้น หลังจากที่ได้ใช้อุปกรณ์ตัดถ่างนานเกือบ 1 ชั่วโมง เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากซากรถได้แล้ว ก็ต้องประสานรถเครนให้มายกแผ่นปูนออก

จากการสอบถามนางสาวทิพานันท์ ศรีรางวัล อายุ 30 ปี ซึ่งนั่งอยู่ในรถยนต์กระบะคันที่ถูกแผ่นปูนหล่นลงมาทับหน้ารถ เล่าว่า ตอนนั้นตนเองพร้อมกับครอบครัว ซึ่งมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวม 5 คน กำลังขับรถกลับบ้านหลังจากไปขายของเล่นที่วัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงคราม โดยตลอดทางที่ขับกลับมานั้นมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และรถก็ขับแบบช้าๆ ชะลอตัว กระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุจู่ ๆ ก็มีแผ่นปูนหล่นลงมาใส่รถยนต์เก๋งกับรถของตน โชคดีที่รถตนนั้นถูกเพียงแค่ด้านหน้ารถ และคนในรถปลอดภัยทั้งหมด ซึ่งเหตุการณ์นี้สร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคนในรถเป็นอย่างมาก ไม่เคยคาดคิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้

ส่วนทางด้านของ สุวรรณ ทวีผล อายุ 60 ปี อดีต ผอ.ร.ร.เบญจมราชูทิศ จังหวัดจันทบุรี ที่ขับรถตามหลังมา เล่าถึงนาทีระทึกว่า ตนเองขับรถกลับจากไปงานกีฬาเยาวชนแห่งชาติที่จังหวัดพัทลุง มาด้วยกันทั้งหมด 5 คน ซึ่งตนนั้นต้องเรียกได้ว่าเฉียดตายเพราะอยู่ห่างจากรถที่เกิดเหตุเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยพอเกิดเหตุตนเองและคนอื่นๆ ก็ลงไปช่วยกันพาคนขับรถยนต์เก๋งออกมา ส่วนคนนั่งข้างเสียชีวิตไม่สามารถนำออกมาได้

ขณะที่คนขับรถบรรทุกน้ำมัน เล่าว่า ตนเองขับรถมาตามถนนพระราม 2 ซึ่งช่วงที่ลอดใต้สะพานกลับรถก็ไม่มีอะไรผิดปกติ เห็นมีแต่คนทำงานซ่อมแซมสะพานอยู่ด้านบนเท่านั้น แต่พอคล้อยหลังนิดเดียวรู้สึกเหมือนว่าด้านหลังรถโดนวัตถุบางอย่างกระแทกอย่างแรงจนสะเทือนไปทั้งคัน อีกทั้งยังได้ยินเสียงดังโครม จึงจอดรถแล้วหันกลับไปมองก็เห็นรถยนต์เก๋งที่ขับตามหลังมาถูกแผ่นปูนหล่นมาทับใส่ทั้งคัน

หลังเกิดเหตุ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ไได้สั่งการให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง ที่ได้ลงไปดูพื้นที่เกิดเหตุให้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย รีบดำเนินการเยียวยา และรายงานการแก้ปัญหาทุก 1 ชั่วโมง จนกว่าการแก้ปัญหาจะแล้วเสร็จ

ด้านนายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้มีการสั่งปิดกั้นการจราจรบนช่องทางด่วนทั้งขาเข้าและขาออกไว้ก่อนอย่างไม่มีกำหนดแล้ว จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น

สำหรับสะพานกลับรถ ถ.พระราม 2 กม.34 หน้า รพ.วิภาราม นี้ได้เริ่มปิดทำการซ่อมบำรุงตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2565 โดยเหตุที่ต้องทำการปิดซ่อมบำรุงเนื่องจากสะพานกลับรถแห่งนี้มีอายุการใช้งานมานาน และเคยเกิดไฟไหม้ขึ้นบนสะพานเนื่องจากรถบรรทุกน้ำมันระเบิด อีกทั้งยังมีปริมาณรถบรรทุกขนาดใหญ่ใช้สะพานกลับรถเป็นจำนวนมาก ทำให้โครงสร้างส่วนบน (พื้นสะพาน) ชำรุดเสียหาย จนเหล็กเส้นโผล่

ทั้งนี้กรมทางหลวง โดยศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) จึงได้เข้ามาดำเนินการซ่อมแซมและบูรณะโครงสร้างสะพานที่ชำรุดเสียหาย ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ เพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับผู้ใช้เส้นทาง โดยมีกำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2565 นี้
.....
Atukkit Sawangsuk
6h

โศกนาฏกรรมพระราม 2
เครื่องไถลนอกรันเวย์แม่ฟ้าหลวง
สะท้อนคุณภาพชีวิตคนไทย
ไม่มีหลักประกันความปลอดภัย
อยู่ภายใต้ความมักง่าย ไม่รับผิดชอบ
ของข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้มีอำนาจกำกับดูแล
:
ไม่รับผิดชอบต่อประชาชน รับผิดชอบต่อ "นาย"
เอาตัวรอดไว้ก่อน แก้ตัวก่อน เพื่อให้พ้นความผิด
เป็นเหตุสุดวิสัย ไม่ใช่ความประมาท ฯลฯ
เยียวยาเต็มที่ แต่สอบสวนแล้วอาจไม่มีใครผิด
ปัดโธ่ ใครจะอยากทำคานหล่นทับคนตาย
สอบสวนแล้วก็เอาเงินภาษีจ่ายชดเชย 5 ล้าน 10 ล้าน
แต่ไม่มีใครต้องรับผิดชอบ
เราเสียใจกันทุกคนเลย แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ
(ส่วนที่แม่ฟ้าหลวง ถ้าเครื่องมันบึ้มระหว่างตกรันเวย์แล้วปล่อยให้รอ
ก็เป็นเหตุสุดวิสัย นักบินเก่งที่สุดแล้ว)
.....
Ponsan Panjathep
20h

ในฐานะคนอยู่ในวงการก่อสร้าง ผมเคยเขียนเรื่องการระมัดระวังในการใช้ชีวิตในกรุงเทพฯควรสังเกตอะไรบ้างไว้ตอนต้นปี พอเกิดเหตุที่น่าเศร้าใจอย่างมากเมื่อคืน เลยขอเรียบเรียงลงซ้ำอีกทีครับ
รวมวิธีเอาตัวรอดในเมืองกรุงเท่าที่นึกออก
- ขับรถลอดใต้งานก่อสร้างทางด่วน รถไฟฟ้า พยายามสังเกตด้วยว่าจุดที่ต้องขับผ่านเค้าทำกิจกรรมอะไรกันอยู่โดยเฉพาะเหนือหัว ประเมินว่าถ้าเกิดความผิดพลาดเช่นวัสดุล้มหรือหลุดลงมาจากการยกแล้วเราอยู่ในระยะอันตรายมั้ย
เช่นถ้าริมถนนมีรถเครนกำลังยกของชิ้นยาวๆแล้วมีการสวิงมาฝั่งใกล้ถนน ชะลอดูให้มั่นใจก่อนก็ดี หรือไม่ก็ผ่านมันไปเร็วๆ เคยมีเคสปลอกท่อเหล็กเสาเข็มหลุดจากสลิงหล่นทับรถมาแล้ว
- เดินริมถนน เงยหน้ามองข้างบนด้วย ผ่านแถวที่มีการก่อสร้างคอนโดสูงๆ หรือมีการต่อเติมริมถนนที่มีสแลนกันฝุ่นที่ปลิวตามแรงลมชนิดไม่ได้ช่วยอะไรเลย ระวังวัสดุหรือเครื่องมือตกใส่ อยู่ดีๆไขควงช่างหลุดมือร่วงลงมาก็มีมาแล้ว
- ถ้าอยู่ในรัศมีทาวเวอร์เครน ระวังของเล็กๆน้อยๆเช่นหัวน็อตร่วง
- เดินถนนอย่าเล่นโทรศัพท์ ถ้าจำเป็นต้องใช้ควรหยุดยืนให้ดีก่อน เพราะมันพร้อมจะมีป้ายเวรตะไลที่มุมป้ายพร้อมเจาะหัวเราได้ตลอด
- ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซต์ก็เช่นกัน อย่ามัวแต่ก้มหน้าดูโทรศัพท์ อุบัติเหตุเกิดได้เสมอ ถ้าเราเห็นว่าจะเกิดอะไรล่วงหน้าอาจผ่อนหนักเป็นเบาได้
- จอดไฟแดงคันแรก ถ้าได้สัญญาณไฟเขียวอย่าเพิ่งรีบออก มันจะมีพวกรู้มากว่ายังมีเวลาอีก 2 วิเร่งเครื่องให้หลุดไฟเหลืองแก่ๆของอีกฝั่งออกมาอยู่เรื่อย
- ในขณะเดียวกัน ถ้าได้ไฟเขียวยาวๆ แต่ข้างหน้าตรงแยกเห็นว่าโล่ง ควรชะลอก่อนอย่านึกว่าฝั่งเราเขียวแล้วยิงยาวได้ มอเตอร์ไซต์จากอีกฝั่งแว้บฝ่าไฟแดงมีประจำ ยิ่งถนนโล่งยิ่งต้องช้าลง พร้อมเบรค
- ข้ามถนน ถ้ามีรถหยุดให้ก็เป็นเรื่องดี แต่อย่านึกว่าจะหยุดให้ทุกคัน ถ้ามีรถบังให้เราไม่เห็นถนนตลอดทั้งเส้น ชะโงกหัวออกไปดูก่อน มันพร้อมจะมีรถมุดแซงขึ้นมาได้เสมอ
- ถ้าเป็นไปได้ เลือกจังหวะข้ามถนนที่ข้ามได้รวดเดียวเลย อย่าต้องไปยืนรอให้รถอีกฝั่งหยุดตรงกลางถนนกรณีถนนไม่มีเกาะกลาง
- เช่นกันกับกรณีขับรถออกจากซอยแล้วเลี้ยวขวา มีรถหยุดให้เราออกแล้วอย่าเหยียบคันเร่งออกเลย เห็นคาตามาแล้วว่ามอไซค์แซงขวามาจะเอ๋กันนี่บ่อย
- อย่าวางใจฝาท่อระบายน้ำ ไม่จำเป็นอย่าเที่ยวไปเดินเหยียบเล่น
- ถ้าต้องขี่มอเตอร์ไซค์บนถนนที่ไม่คุ้น ช้าไว้หน่อยก็ดี อย่างเช่นตอนนี้ถนนรัชดามีการก่อสร้างวางสายไฟลงดิน วันดีคืนดีจะมีขอบฝาคอนกรีตที่วางห่างหรือไม่สนิทกับขอบ ล้อลงพอดีนี่มีโอกาสตีลังกาได้
- โดยเฉพาะเวลากลางคืน ถนนที่มีการก่อสร้างหลายแห่งจะวางไฟสัญลักษณ์ได้แย่มาก คือขับมาเกือบจะถึงอยู่แล้วถึงเห็น เบรคกันหัวทิ่มอยู่บ่อย
- อย่าอยู่ด้านนอกของโค้งถ้ามีรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์อยู่ข้างๆ รถส่วนใหญ่ไม่ได้ล็อคตู้ ถ้าโค้งเลี้ยวซ้ายแล้วเราไปอยู่ทางขวาของรถเทรลเลอร์ มันมีโอกาสที่ตู้โดนเหวี่ยงออกมาหาเราเป็นเบาะรองรับพอดี จะแซงก็แซงไปเลยเร็วๆอย่าไปประกบข้าง
- มีคนขับรถยนต์ที่ขับไปเล่นมือถือไปอยู่เยอะมากๆ ถ้าคุณขี่มอเตอร์ไซค์ อย่านึกว่ารถยนต์เห็นคุณแล้ว บางทีเค้ายังก้มดูหน้าจออยู่ ระแวงรถทุกคันไว้ก่อนเป็นดี
- อย่าว่าแต่รถยนต์เลย เจอบ่อยมากที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ใส่หมวกกันน็อคและมือนึงเล่นมือถือไปด้วย จะมีอะไรที่ทำให้ตัวเองพร้อมบาดเจ็บหรือตายได้มากเท่านี้อีก อยู่ห่างๆพวกเค้าไว้
- รถที่ขับด้วยมารยาททราม ให้หายใจลึกๆแล้วแผ่เมตตาให้เค้าไป อย่าไปแลก ชีวิตนี้เราอาจจะเจอเค้าแค่ครั้งเดียว อย่าไปหาเรื่องให้เจอกันต่อในภายภาคหน้า
- ขับรถยนต์จะเลี้ยวซ้ายมองกระจกซ้ายทุกครั้ง มันจะมีมอเตอร์ไซต์ที่อาจจะไม่เคยขับรถยนต์มาก่อนเลยไม่รู้ว่าวงเลี้ยวมันแค่ไหน เค้าพร้อมจะมุดซ้ายให้เสียวชนประตูหรือกระจกข้างอยู่เสมอ ระวังพวกพี่ๆเค้าหน่อย
สรุปว่าอันตรายมันมีทุกมิติ บนพื้น บนหัว ตรงหน้า เดินเท้า ขับรถยนต์ ขี่มอเตอร์ไซค์ เหตุบ้าๆบอๆเกิดขึ้นได้เสมอ สังเกตเหตุการณ์รอบตัวโดยเฉพาะที่อยู่เหนือหัวหรืออยู่ใกล้เราในระยะที่ของสามารถล้มหรือหล่นถึง
รักษาตนโดยไม่ต้องคิดเผื่อว่าคนอื่นจะมาระมัดระวังให้เรา ขอให้ทุกท่านใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยครับ