นัยว่าจากการแพ้เลือกตั้งซ่อมที่สงขลาและชุมพรให้แก่ประชาธิปัตย์ ซึ่งธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นหัวหอกหาเสียง ทำให้ลูกไล่สายตู่ โดยเฉพาะ สุชาติ ชมกลิ่น รุกฆาตเอาผิดให้ได้ ธรรมนัสจึงใช้ไม้ตายยื่นขอปรับ ครม.เอากระทรวงทรัพยากรฯ
ไม่เช่นนั้นตนและ ส.ส.อีก ๒๐ คนจะไม่ยอมเป็นองค์ประชุมให้กับรัฐบาลในสภา การเจรจาต่อรองที่มูลนิธิป่ารอยต่อลงเอยว่า ธรรมนัสขอให้ขับพวกตนออกจาก พปชร. เพื่อรักษาสมาชิกภาพ ส.ส. แล้วธรรมนัสก็โพสต์ขอบคุณผู้สนับสนุน พร้อมถามว่า #ไปอยู่พรรคไหนดีครับ
กระแสข่าวส่วนใหญ่คาดคะเนว่าก๊วนธรรมนัสคงจะแห่ไปอยู่พรรคเศรษฐกิจไทย ที่ไปตั้งรอไว้แล้ว มี พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานยุทธศาสตร์ พปชร.กำตำแหน่งหัวหน้า แต่บางกระแส (Thanapol Eawsakul) บอกว่าอาจจะไปอยู่กับพรรคเสมอภาค ของ ลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ ก็ได้
จะอยู่พรรคไหน ก๊วนธรรมนัสย่อมมีกำลังต่อรองมากกว่าเดิม (ธนาพลว่าเป็น ๒ เด้ง) นั่นจะเป็นก๊วน ส.ส.กลุ่มใหญ่ที่เดียว เพราะนอกจาก ๒๑ ส.ส.ที่ถูกขับแล้วยังมีกลุ่ม ส.ส.เบี้ยหัวแตกพรรคละคนสองคน ที่ธรรมนัสไปแจกกล้วยกวาดมาไว้คอยโหวตให้รัฐบาลอีก ๑๑ คน
นอกนั้นธรรมนัสยังมี ส.ส.ที่ยังอยู่ในพรรคพลังประชารัฐอีกจำนวนไม่น้อย ใน ๖๓ เสียงที่โหวตให้ขับก๊วนธรรมนัสตามที่เจ้าตัวต้องการ เวลานี้ก็เท่ากับมีสมาชิก พปชร.ในสภาผู้แทนเพียงร้อยกว่าคน (ตามที่ไพบูลย์ นิติตะวัน แถลงเมื่อเช้า ๒๐ มกรา)
โดยที่ไพบูลย์ตั้งความหวังไว้ว่า “ส่วนการทำงานต่อร่วมกันได้หรือไม่นั้น ไว้ถาม ร.อ.ธรรมนัส ทั้งนี้ ทำงานร่วมกันในพรรคไม่ได้ แต่ทำงานร่วมในสภาได้” นั่นละที่ธรรมนัสต้องการ ด้วยความผูกพันที่ธรรมนัสเคยมีกับพรรคไทยรักไทย และ ‘เจ๊แดง’
เอาไปใช้ต่อรองกับรัฐบาลได้อย่างดี จนธนาพลแซว “พรรคที่จะได้ประโยชน์สูงสุดคือพรรคเพื่อไทย” จำนวน ส.ส.ร้อยกว่าเสียงไล่เรี่ยกับ พปชร. มิน่าพวกสามกีบถึงได้แซะว่าหัวหน้าพรรคราศีจับ กราบบังคมงามนัก ตอนทำพิธีรับพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นผู้นำฝ่ายค้าน
จะว่า ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตกที่นั่งลำบากจริงหรือ คงใช่เฉพาะในทางการเมืองระบบพรรค แต่คณะสืบทอดอำนาจชุดนี้มีกลเม็ดอย่างสุนัขจิ้งจอก มากกว่าชั้นเชิงทางการเมืองในระบอบเลือกตั้ง ดังนั้นก็อย่าหวังว่าประยุทธ์จะยอมเป็นรองง่ายๆ
หรือเครือข่ายที่อยู่ในอาณัติเหนือประยุทธ์ จะปล่อยให้วงจรอุบาทว์ของการเมืองมาชักใบให้เรือเสีย ถ้าไม่ช่วยกันหนุนประยุทธ์ต่อไป ต้องหาใครที่เอี้ยได้ใจ หรือเอี้ยกว่ามาแทน จะเห็นว่าการปราบปรามประชาชนที่เห็นต่าง ยังดำเนินไม่หยุดยั้ง
อีกข่าวเมื่อวาน ปปช. องค์กรอิสระในเครือข่ายสืบทอดอำนาจ (ตั้งมากับมือ) ยังตามล้างตามผลาญ ‘เสื้อแดง’ ไม่มีเหนียม “ชี้มูลความผิดทางอาญาและวินัยกับนายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย”
เป็นความผิดเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เมื่อปี ๕๕ ตอนต้นเดือนมิถุนา “อนุมัติค่าใช้จ่ายโครงการฝึกอบรมจริยธรรมสำหรับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ จำนวน ๒,๕๐๐ คน” ที่วัดธรรมกาย และสวนสัตว์ดุสิต
พอดีช่วงนั้นมีการชุมนุมของ นปช.พอดี แล้ว “พบว่ามีการนำเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ เข้าร่วมในการชุมนุมของ นปช.ด้วย” ดังนั้นจึงให้เริ่มกระบวนการไต่สวน และสอบปากคำอดีต สว.สามคน เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ และ สนง.ตรวจเงินแผ่นดิน
แต่ว่าในเกมการเมืองในฝ่ายรัฐบาลจะไปถึงไหน ไม่ช้าได้เห็นกันว่าธรรมนัสจะยอมหงอหรือต่อกรหนักเข้าไปอีก จนประยุทธ์อาจต้องยึดอำนาจตัวเอง โดยอ้างความมั่นคงของพระเจ้าอยู่หัวสัญจร หรือไม่เช่นนั้นประยุทธ์ต้องหันไปเอาใจพรรคร่วมต่างๆ มากขึ้น
นั่นเป็นเหตุหนึ่งที่ประยุทธ์ไม่ยอมรับข้อต่อรองของธรรมนัส ที่ขอกระทรวง ทส. เพื่อรักษาน้ำใจพรรคชาติไทยพัฒนาเอาไว้ ในเมื่อตำแหน่งที่ธรรมนัสขอนั้นขณะนี้ให้ วรวุธ ศิลปอาชา กอดอยู่ นอกนั้นพรรคที่ชนะเลือกตั้งซ่อม ไม่ใช่ใครที่ไหน
ประชาธิปัตย์ขณะนี้แม้จะระหองระแหงกับ พปชร.อยู่ ก็ใช่ว่าจะนอกใจง่ายๆ หากกระแสเลือกตั้งครั้งหน้ายังไม่กลับมา ชัยชนะเลือกตั้งซ่อมสองแห่งไม่ได้บ่งบอกมากนัก (เช่นกันกับ ‘ไอโอ’ ตอกย้ำเรื่องคะแนนเสียงก้าวไกลแผ่ว) ปชป.ย่อมสยบประยุทธ์ได้อีก
การมีก๊วนธรรมนัสเป็นหนามยอกอกประยุทธ์อยู่ในสภา ยังดีกว่าเป็นหอกข้างแคร่ใกล้ทำเนียบ
(https://www.matichon.co.th/politics/news_3139777, https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/5030180347048764, https://www.thairath.co.th/news/politic/2291672 และ https://www.prachachat.net/politics/news-846306)
