วันศุกร์, มกราคม 21, 2565

เฮ่ย กูรูกฎหมายยังยอมรับ เสียงปริ่มน้ำ "สถานการณ์สุ่มเสี่ยงมาก อาจเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองได้ทุกเวลา" ซ้ำงามไส้ ‘น้องแป้ง’ ลากออกมาตากพรืด

เฮ่ย อย่ามาทำแหล “หนี้สาธารณะ ๙.๖๒ ล้านล้านบาท ยังไม่เป็นปัญหา” รองโฆษกสำนักนายกฯ อ้างกระทรวงคลังนั่งยัน “รัฐบาลยังคงมีความสามารถในการชำระหนี้” ได้ก็แล้วกันน่ะ ชี้ให้ดูผลประกอบการขายบอนด์ พันธบัตรออมทรัพย์รุ่นส่งความสุข

ออกจำหน่ายเมื่อ ๑๗ มกรา วงเงิน ๓ หมื่นล้านบาท ให้กับประชาชนอายุ ๖๐ ปีขึ้นไป รายละไม่เกิน ๕ ล้านบาท ปรากฏว่าสองวันเท่านั้น ขายเกลี้ยง รัชดา ธนาดิเรก บอก “ช่องทางในการระดมทุนหรือกู้เงินในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

โถ โถ สามหมื่นล้านเอาไปเทียบกับเกือบสิบล้านล้าน มันจะเตี้ยอุ้มค่อมไปหน่อยไหมล่ะเธอว์ แล้วเรื่องหมูเรื่องหมาก็กำลังจะตายคาห้องเย็น ไหนจะเรื่องการเมืองที่โดนเสี่ยแป้งกล้อนผมเตรียมถลกหนังหัวอีกน่ะ ขนาดกูรูกฎหมายยังว่าไม่ไหว ไม่เกี่ยว

วิษณุ เครืองาม ทวนความจำที่เคยบอกไว้เมื่อสองปีก่อน ว่า “รัฐบาลเป็นเรือเหล็ก (แต่ลำเล็ก) สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อในตน” ขณะนี้อยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงมาก อาจเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองได้ทุกเวลา นายกฯ และหัวหน้าพรรคร่วม ต้องรีบช่วยกันแก้ปัญหา

แล้วทั่นรองฯ คิดว่าจะแก้ได้อย่างไร “ผมไม่รู้ และ ผมไม่มีคำแนะนำ เพราะผมจะแนะนำนายกฯผ่านสื่อได้อย่างไร คงไม่ต้องเตรียมคำตอบอะไร เพราะผมไม่เกี่ยว” คำนี้จิ๊กมาจากที่ Wassana Nanuam ถอดความเอาไว้เมื่อนักข่าวถามวิษณุว่าจะยุบสภาไหม

ความเห็นในด้านกฎหมาย ถ้ายุบสภาขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายลูกสองฉบับรองรับการเลือกตั้ง ที่จะต้องจัดการเลือกตั้งภายใน ๔๕-๖๐ วันตามรัฐธรรมนูญ และวิษณุไม่เห็นด้วยที่จะให้รัฐบาลรักษาการออกพระราชกำหนดมาใช้แทน “เป็นวิธีที่ไม่ฉลาด”

ส่วนจะกลับไปใช้กฎหมายเดิม ตามแบบการเลือกตั้งปี ๖๒ ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ก็ไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญได้มีการแก้ไขแล้ว ให้เลือกตั้งด้วยบัตรลงคะแนนสองใบ ใบหนึ่งเลือกคนที่รัก อีกใบเลือกพรรคที่ชอบ วิษณุว่าถามไปที่ กกต.แล้ว ทางนั้นก็ยังงงกันอยู่

ไม่รู้จะปลดล็อคท่าไหน ในสภาวะที่รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ไม่เพียงต้องขับ ๒๑ ส.ส.ก๊วนธรรมนัสออกไป อีกสิบ ส.ส.พรรคปลาซิวปลาสร้อย แห่กันไปร่วมก๊วน น้องแป้งดังคาด บอกแล้วไง บุญน้ำบุญคุณ กล้วย มีกันอยู่ แถมได้ เต้ ศรีวิไลย์มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ไปร่วมอีกคน

หนำซ้ำธรรมนัสออกคลิปตอกฝาโลง “ถามตรงๆ จากนี้ใครช่วยจ่าย” Sirote Klampaiboon @sirotek เอามาปูด “ส่วนใหญ่แล้ว ส.ส.ไปลงพื้นที่ก็ได้รับการสนับสนุนจากพี่ทั้งนั้น ๘๐% จากพี่กับหัวหน้าพรรคทั้งนั้น หลังจากไม่มีเราแล้วใครจะทำให้เขา ใครจะดูแลเขา”

งามไส้ ที่ลากออกมาตากพรืด แต่คนอย่างประยุทธ์ “ไม่ยอมง่ายๆ” บ้านจะถล่มเรือนจะพังไม่เป็นไร ขอให้กรูดูดีไว้ก่อน ดังวิษณุว่า จะให้นายกฯ ลาออกก็ได้ แต่ไม่แก้ปัญหาอะไร ในเมื่อสภายังอยู่อย่างเดิม เห็นอยู่ทางเดียวคือรอกฎหมายลูกผ่าน ซึ่งยาก

ตามกระบวนการก็คือ กกต.ต้องเร่งส่งร่างให้ ครม.เอาไปขัดมัน แล้ว ครม.ยื่นเข้าสภา (ซึ่งเพิ่งเริ่มประชุมสมัยสามัญวันนี้ ๒๑ มกรา) ถ้าไม่มีการแปรญัตติ แก้ไข ทั้ง ส.ส.และ สว.ช่วยกันดันไปโลด ก็อาจเสร็จได้ในสมัยประชุมนี้

แล้วรีบกราบบังคมทูลให้ทรงเสด็จกลับมาเซ็น มาเช้าเย็นกลับก็ได้ เพราะเจอรมันไม่ยอมให้ทรงเซ็นที่นั่นแล้วเดี๋ยวนี้ พรรคกรีนจ้องอยู่ พูดง่ายแต่ทำยาก ไม่ใช่ที่พระองค์ทั่นหรอกนะ แต่อยู่ที่ ส.ส.นั่นละอยากแก้กันทั้งนั้น ฝ่ายรัฐบาลฝ่ายค้านล้วนกระหือรือ

ลงเอยระหว่างรอ ทำใจร่มๆ อย่าไปลุ้นมาก และก็อย่าปักใจกับ ใบตองแห้งนักนะ น้าถึกแกบอกว่า “เดี๋ยวมันก็ช่วยกันหาทางออกจนได้แหละ” เฮ้ย อย่าได้ใจอ่อนไปกับ ‘Mün’ (chen) ซะล่ะ

(https://www.facebook.com/baitongpost/posts/4858896367525487, https://www.facebook.com/WassanaJournalist/posts/4898534833538269, https://www.facebook.com/thestandardth/posts/2950682921891247