ข่าวเวิร์คพอยท์ 23
Yesterday at 11:00 AM ·
กองทัพภาคที่ 4 แจงแล้ว ให้ทหารขายกาแฟ เรื่องปกติเป็นการฝึกอาชีพก่อนปลดประจำการ พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยว
.
กรณีดราม่าในโลกโซเชียล กรณี เพจเฟซบุ๊ก “ กองทัพภาคที่ 4 ” มีการโพสต์เชิญชวนอุดหนุนร้านกาแฟแห่งใหม่ ในกองพลทหารราบที่ 5 ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมระบุข้อความว่า “ จิบกาแฟ...แลทหาร เปิดแล้ว!!!! จุดเช็กอินใหม่ ร้าน ช.คอฟฟี่ สายคาเฟ่ ไม่ควรพลาด พร้อมทั้งจุดถ่ายภาพสวยๆ บนสะพานไม้ไผ่กลางสระบัว ขี่เรือเป็ดน้อย ช่วงเย็นบรรยากาศดีมาก พิกัดค่ายเทพสตรีศรีสุนทร ร้านเปิดทำการ 08.00-19.00 ของทุกวัน ”
.
ขณะที่ โฆษกกองทัพภาคที่ 4 แจงดราม่า ‘ให้ทหารขายกาแฟ’ ระบุ เป็นเรื่องปกติของการฝึกอาชีพก่อนปลดประจำการ ดูแลสวัสดิการกำลังพลและครอบครัวทหาร พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวในค่าย
.
พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 และโฆษกกองทัพภาคที่ 4 ชี้แจง ถึงการวิพากษ์วิจารณ์ แคมเปญ กองทัพภาคที่ 4 ขายกาแฟ โดยใช้การโปรโมทว่า ‘จิบกาแฟ แลทหาร’ ว่าเรื่องดังกล่าว
.
ถือเป็นเรื่องปกติ ในการดูแลสวัสดิการกำลังพล และครอบครัว ภายในหน่วยทหาร ซึ่งหลายหน่วยก็ทำกัน และยังเป็นการส่งเสริม การท่องเที่ยวในค่ายทหาร อีกด้วย เพราะทุกหน่วยก่อนทหารปลด ก็จะมีการฝึกอาชีพ และการทำงานในร้านกาแฟ ก็ถือเป็นการฝึกอาชีพอย่างหนึ่ง
.
ข่าวเวิร์คพอยท์ 23
Puangthong Pawakapan
13h ·
กรณีดราม่า “ทหารขายกาแฟ” ไม่ใช่แค่เรื่องฝึกอาชีพทหาร แต่โฆษกกองทัพภาคที่ 4 ยอมรับเองว่ามันเกี่ยวข้องกับ "การส่งเสริมการท่องเที่ยว" อันนี้แหละที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง นั่นคือการใช้ภาษีของประชาชนหรือ “งบประมาณประจำปี” ที่กองทัพได้ต่อเนื่องมาหลายปี
จากเอกสารของสำนักงบประมาณระบุว่า งบประมาณที่กองทัพได้รับในหมวดส่งเสริมการท่องเที่ยวฯ มีดังนี้
ปี 2561 95.0533 ล้านบาท
ปี 2562 99.8571 ล้านบาท
ปี 2563 29.6458 ล้านบาท
ปี 2564 11.0580 ล้านบาท
นอกจากร้านกาแฟแล้ว โครงการที่ใหญ่กว่านั้นคือ The Army Land ที่ปรากฏอยู่ในทุกกองทัพภาค (ดูโปสเตอร์ที่แปะไว้) กองทัพบกยังมีสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวของตนเองอีกด้วย
ปัจจุบัน อุทยานราชภักดิ์ก็ถูกบรรจุไว้ในโครงการท่องเที่ยว The Army Land ด้วย
งบส่งเสริมการท่องเที่ยวนี้อยู่ใน “แผนยุทธศาสตร์การสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน” -- หน้าที่ของทหาร???
ดิฉันเคยพูดและเขียนเรื่องนี้หลายครั้งแล้วว่าในยุคที่คอมมิวนิสต์พ่ายแพ้ไปแล้ว แต่กองทัพไทยกลับขยายบทบาทด้านเศรษฐกิจสังคมและการเมืองของตนออกไปอย่างกว้างขวาง เข้าไปเกี่ยวข้องกับโครงการสารพัดชนิดที่เราสามารถตั้งคำถามได้ว่าทหารมีความเชี่ยวชาญจริงหรือไม่ งบบางหมวดถูกแปรเป็นโครงการอบรมให้ประชาชนเชื่อในอุดมการณ์ของรัฐ สร้างความนิยมในกองทัพ ฯลฯ โครงการเหล่านี้ได้รับการแบ่งสรรงบประมาณจำนวนมากต่อเนื่องมานานกว่าทศวรรษ ดังตัวอย่างงบประมาณปี 2564 ด้านล่างนี้
1. งบป้องกันปราบปรามบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด 316,748,600 บาท
2. แผนบูรณาการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 11,058,000 บาท
3. แผนพัฒนาพื้นที่และเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ 7,498,500 บาท
4. แผนพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตอ. 1,778,061,500 บาท
กอ.รมน. ก็มีงบทำนองเดียวกัน ดังนี้
5. งบป้องกันปราบปรามบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด 181,698,800 บาท
6. พิทักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 52,112,400 บาท
7. งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 17,000,300 บาท
ถ้าประเทศเป็นประชาธิปไตย ปฏิรูปกองทัพและกอ.รมน.ได้ งบประมาณเหล่านี้ต้องถูกตัดถูกโยกไปทำประโยชน์ด้านอื่น หรือให้หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญทำแทน แต่ระหว่างนี้ประชาชนก็คงต้องดูตาปริบๆ ไปก่อน
สเตตัสเก่าเรื่องเดียวกัน https://www.facebook.com/profile/100001223054048/search/?q=%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9E%20%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7
