ต่อไปภายหน้าถ้า ประสาร มะลึกกึ๊กกั๊ก (คำของ Atukkit Sawangsuk) ยังเป็นกรรมการมูลนิธิฯ อยู่ละก็ งาน ๑๔ ตุลา แค่ใส่บาตรอย่างเดียวก็พอ จะได้ถวายเป็นพระราชกุศล ร.๙ ส่วน ร.๑๐ นั่นเพิ่งได้รับการถวายเงิน จากผู้บริหารกองสลากฯ
จำนวนเท่าไรไม่รู้ ข่าวในราชสำนักบอกแต่ว่า “ให้ใช้ได้ตามพระราชอัธยาศัย” อ้อแล้วก็ ถ้าจะระลึกถึงรัชสมัย ร.๙ ว่าเป็น ‘รัชกาลฟันปลอม’ ก็น่าจะเข้าท่า ในเมื่อทางกรมอนามัยสนองพระราชดำริ มาตั้งแต่ปี ๒๕๔๘ ที่ว่า “เวลาไม่มีฟัน กินอะไรก็ไม่อร่อย”
ถึงแม้โครงการฟันเทียมสำหรับผู้สูงอายุ จะดำเนินการโดยเงินงบประมาณแผ่นดิน ที่มาจากรัฐบาลเก็บภาษีอากรประชาชน กรมอนามัยยังเรียกโครงการว่า ‘ฟันเทียมพระราชทาน’ ซึ่ง “บริการใส่ฟันเทียมทั้งปากแก่ผู้สูงอายุ ถึง ๗๑๑,๓๓๙ รายไปแล้ว”
ส่วนงาน ๑๔ ตุลาที่อนุสรณ์สถานฯ ตรงสี่แยกคอกวัวคราวนี้มี ‘สะอึกกึ๊กกั๊ก’ เล็กน้อย เมื่อประสารเข้าไปต่อว่ากลุ่มทะลุฟ้า ที่ชักป้ายข้อความเกี่ยวกับการเมืองปัจจุบัน หลากหลายแผ่น ได้แก่ “ที่ใดมีเผด็จการ ที่นั่นย่อมมีการต่อสู้”,
...ไม่ได้สักครึ่งของ ๖ ตุลา...๖ ตุลานี่ปลื้มจริง ปลื้มมากๆ” ส่วนที่ขอนแก่นมีอึกทึกอยู่เหมือนกัน ไม่เกี่ยวกับ ๑๔ ตุลา แต่ตรงกันวันนี้ เมื่อมีกลุ่มเยาวชนไปชุมนุมปราศรัยประท้วง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเดินสายลงพื้นที่ แล้วก็ลงเอยด้วยตุ้บตั้บ
เมื่อมีตำรวจคนหนึ่งเข้าไปแย่งไมค์จากผู้ชุมนุม เจ้าของไม่ยอมเข้าประชิดจะเอาคืน เกิดชุลมุน แล้วหน่วย คฝ.เข้าไปฉุดกระชากผู้ชุมนุมสองสามคน เมื่อเขาล้มลงก็กลุ้มรุมกันเข้าเตะและกระทืบ ดูคลิปเหตุการณ์แล้วเหมือนพวกหมาหมู่รุมกัดเหยื่อ
(https://twitter.com/KhaosodOnline/status/1448509973139312645, https://www.facebook.com/baitongpost/posts/4518950904853370 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_2989681)