วันอาทิตย์, ตุลาคม 17, 2564

"14 ตุลาครั้งใหม่" 14 ตุลาของคนรุ่นใหม่ ที่จะเกิดจากการเคลื่อนไหวของราษฎร 2563


ภาพจาก ประชาไท

Atukkit Sawangsuk
8h ·

14 ตุลาของคนรุ่นใหม่
"14 ตุลาครั้งใหม่" ที่จะเกิดจากการเคลื่อนไหวของราษฎร 2563
...............................
คนรุ่นใหม่อาจไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมกับ 14 ตุลา
ทั้งมองว่านำไปสู่ "ฉันทมติภูมิพล" ทั้งจากคนตุลาที่เปลี่ยนไป
แต่อันที่จริง 14 ตุลา 2516 คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ถัดจาก 24 มิถุนา 2475
ทำให้ประชาธิปไตยเบ่งบาน สร้างความตื่นตัวในหมู่ประชาชนอย่างกว้างขวาง หลังเผด็จการ 16 ปี
แม้ถูกปราบ 6 ตุลา เผด็จการหอยก็อยู่ได้ไม่นาน ประชาธิปไตยครึ่งใบต้องยอมรับความตื่นตัวของประชาชน
คลื่นประชาธิปไตยหลัง 14 ตุลา มีพลังต่อเนื่องมาถึงพฤษภา 35 และรัฐธรรมนูญ 2540
จนเข้าสู่ยุคมืดอีกครั้ง เมื่อเกิดรัฐประหาร 2549 ตามด้วยรัฐประหาร 2557
คล้ายกับรัฐประหาร 2490 ล้มคณะราษฎร แล้วสฤษดิ์รัฐประหารอีกที 2500
...............................
สถานการณ์วันนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ครั้งที่ 3
24 มิถุนายน 2475----14 ตุลา 2516----- แล้ว ?????
พูดอย่างนี้ไม่ได้ยุให้เกิดการนองเลือดครั้งใหม่
แต่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลีกเลี่ยงไม่ได้
อยู่ที่จะทำให้เกิดอย่างไม่เสียเลือดเนื้อหรือไม่
...............................
สถานการณ์ปัจจุบันอยู่ในยุคหลัง "ฉันทมติภูมิพล" (รักพ่อต้องรักลูกด้วย)
แทนที่จะปรับตัวให้เข้ากับโลกสมัยใหม่ กับประชาชน
รัฐธรรมนูญ 2560 กลับเปลี่ยนความหมายของ "ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"
ให้ถอยหลังไป มีความเป็นประชาธิปไตยน้อยลง กึ่งสมบูรณา
นี่เป็นการถอยหลังครั้งที่สอง หลัง 2475 คือรัฐธรรมนูญ 2490
ขณะที่อำนาจศรัทธา Soft Power หมดพลัง
จึงเหลือแต่การใช้อำนาจดิบ ใช้กำลัง ใช้ความรุนแรง แบบตำรวจ โดยอ้างกฎหมาย
ใช้ความอยุติธรรมในนามกระบวนการยุติธรรม อัยการ ศาล
อาศัยความเป็นปึกแผ่นของรัฐราชการใหญ่โตมหึมา แต่ไร้ประสิทธิภาพ
.............................
อำนาจนำวันนี้ ใช้การปกครองด้วยความกลัว ขีดกรอบระบอบใหม่
สร้างอาณาจักรแห่งความกลัว แทนการสร้างศรัทธา ที่ไม่เหลือแล้ว
คนส่วนใหญ่อยู่ด้วยความกลัว เอาตัวรอด ไม่กล้ายุ่ง
พวกปกป้องก็มีหน้าม้าแค่หยิบมือ
ไม่เหมือนอดีตไม่กี่ปีก่อน ที่ "ความรัก" ยังเข้มข้น
จึงต้องคุ้มครองด้วยรัฐประหาร-อำนาจนิยม
ด้วยผู้นำรัฐราชการแบบประยุทธ์ ซึ่งเปลี่ยนไม่ได้ ไม่ว่าจะโง่ขนาดไหน ฉิบหายขนาดไหน
แล้วก็ยิ่งพากันพังลงไป
ในขณะที่คนไม่ยอมรับคนต่อต้านมากขึ้นเรื่อยๆ
แม้ยังไม่เห็นทางโค่น แต่ก็หลีกเลี่ยงความเปลี่ยนแปลงไม่พ้นหรอก
.....