วันเสาร์, ตุลาคม 16, 2564

101 เปิดใจนายทหารพม่า ถึงเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจละทิ้งกองทัพออกมาต่อสู้ร่วมกับประชาชน หลังเกิดเหตุรัฐประหาร


The101.world
22h ·

"ที่พม่าเกิดรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ตอนนั้นผมก็ยังเป็นทหารอยู่...จนกระทั่งเวลาผ่านมาได้ 1 เดือน ผมเริ่มรู้สึกไม่ดี เพราะกองทัพเริ่มใช้กระสุนจริงกับประชาชน มีการฆ่าทำร้ายผู้คนเกิดขึ้นมากมาย จนผมคิดว่าแบบนี้มันเกินไปแล้ว ผมทนไม่ได้ที่กองทัพทำร้ายประชาชนแบบนี้ ประมาณวันที่ 3 มีนาคม ผมก็เลยตัดสินใจว่าผมจะเข้าร่วมขบวนการอารยขัดขืน (Civil Disobedience Movement – CDM) ไม่อยู่ในกองทัพอีกต่อไปแล้ว จนวันที่ 9 มีนาคม ผมถึงได้หลบหนีออกมา"
.
101 พูดคุยกับหนึ่งในนายทหารพม่า นามว่า Tun Myat Aung ที่ยินดีเปิดใจถึงเหตุผลที่ทำให้เขาหาญกล้าตัดสินใจละทิ้งกองทัพออกมาต่อสู้ร่วมกับประชาชน หลังเกิดเหตุรัฐประหาร
.
อ่านบทความได้ที่ https://www.the101.world/interview-tatmadaw-defector/
.
"ผมก็เหมือนนกตัวหนึ่งที่ยืนอยู่บนกิ่ง คือถ้ามีกิ่งก็ยืนได้ แต่ถึงจะไม่มีกิ่ง ผมก็อยู่ได้เหมือนกัน ผมก็แค่บินออกมา เพราะถึงอย่างไรผมก็มีปีก ไม่จำเป็นต้องเกาะกิ่งเสมอไป หมายความว่าต่อให้ผมไม่ได้ทำงานในกองทัพ ผมก็ไปหาอย่างอื่นทำได้ ตำแหน่งของผมในกองทัพไม่ได้ใหญ่โตอะไรอยู่แล้ว และกองทัพก็ไม่ได้ให้เงินผมเยอะแยะมากมายที่จะเลี้ยงดูชีวิตตัวเองได้ขนาดนั้น มันเลยทำให้ผมตัดสินใจง่ายมากที่จะออกมา"
.
"และผมก็เป็นคนที่เลือกยืนอยู่ข้างความถูกต้องเสมอมาอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมีจุดยืนแบบนี้ในตอนนี้ อย่างตอนเกิดสถานการณ์กลุ่มโรฮิงญา ผมก็แสดงออกเหมือนกัน ถ้าลองไปดูผมบนโลกโซเชียล จะเห็นว่าผมแสดงออกแบบนี้เสมอ ผมไม่เคยแสดงตนต่อใครๆ ว่าผมเป็นทหาร แต่แสดงให้เห็นว่าผมเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนข้างความถูกต้องเป็นธรรม เป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงได้กล้าแปรพักตร์ออกจากกองทัพ"
.
"เอาเข้าจริง ในกองทัพเองก็มีคนคิดแบบผมเยอะมาก เรามีศัพท์เรียกทหารกลุ่มนี้ว่า ‘ทหารแตงโม’ คือเปลือกนอกคลุมด้วยชุดลายทหาร แต่ข้างในเป็นสีแดง หลายคนมักจะมีอีกชีวิตหนึ่งอยู่บนโลกออนไลน์ที่ไม่เปิดเผยว่าตัวเองเป็นทหาร แล้วแสดงความคิดของตัวเองออกมาเต็มที่ และมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ประกาศตัวว่าทำงานในกองทัพ แต่ก็พยายามแสดงออกว่ายืนข้างความถูกต้อง กลุ่มหลังนี้มีเยอะมาก ทำให้เห็นว่าในกองทัพมีทหารที่กล้ายืนข้างความถูกต้องไม่น้อย และหลายคนก็กล้าตัดสินใจออกมาจากกองทัพ ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว"
.
"ผมว่าตัดมาดอว์ไม่ได้มีหลักสูตรที่ล้างสมองทหารชัดเจนขนาดนั้น แต่สิ่งที่ปลูกฝังทหารมาตลอดคือ ‘ความกลัว’ มากกว่า ทหารมักจะรู้สึกว่า ไม่ว่าจะได้รับคำสั่งอะไรจากผู้บังคับบัญชา ก็ต้องทำตาม จริงๆ ข้างบนก็ไม่สั่งอะไรด้วยความขู่เข็ญขนาดนั้น แต่การที่มันเป็นคำสั่ง ทำให้ทหารรู้สึกว่าต้องปฏิบัติตามเท่านั้น ไม่ปฏิบัติตามไม่ได้ นี่คือความหวาดกลัว การที่พวกเขาต้องมาอยู่ภายใต้ผู้คุมอำนาจเผด็จการ ทำให้ความกลัวเกิดขึ้นกับพวกเขาโดยอัตโนมัติ เลยกลายเป็นว่าพวกเขายอมทำตาม"
.
"ตอนนี้ตัดมาดอว์ก็เหมือนบ้านหลังหนึ่งที่เก่ามาก มีโครงสร้างผุพังทรุดโทรม แล้ววันดีคืนดีก็อาจจะถล่มลงมาทับตัวเรา ทางที่ดีควรจะรีบออกมาจากบ้านหลังนั้น ก่อนที่มันจะพังครืนลงมาทำร้ายตัวคุณเอง ผมอยากฝากถึงเพื่อนๆ ทหารไว้เท่านี้"