สมบัติ บุญงามอนงค์
11h ·
เราแขวนรูปใครไว้ที่บ้าน
เราแขวนรูปคนที่เรารัก นับถือ คนสำคัญต่อเรา
รุ้งบอกคนที่ไปเยี่ยมที่ศาลว่าอย่าลืมเธอ การแขวนรูปและการพูดถึงพวกเขาคือวิธีการที่เราเตือนตัวเองว่าเราจะไม่ลืมพวกเขา
ผมเสนอกิจกรรม "รูปที่มีทุกบ้าน(คนรักประชาธิปไตย)"
เลือกรูปแกนนำที่ถูกจองจำอยู่ตอนนี้มาใส่กรอบแล้วแขวนไว้ในบ้าน เวลาคุณอยู่ที่บ้านมันจะเตือนว่าแกนนำเหล่านี้ยังนอนอยู่ในเรือนจำ
ผมเสนอให้มีการนำภาพถ่าย ภาพวาด ภาพกราฟฟิคมาแชร์กันเพื่อให้แต่ละคนง่ายต่อการนำไป Print แล้วเอามาใส่กรอบรูป
นี่ไม่ใช่ลัทธิบูชาบุคคล หรือ วีรชนเอกชน มันเป็นเพียงเครื่องมือในการย้ำเตือนว่าเพื่อนของเรายังไม่ได้กลับบ้านและถูกจำกัดเสรีภาพอยู่ในเรือนจำ
เราจะปลดรูปแกนนำเหล่านี้ออกจากฝาบ้านก็ต่อเมื่อแกนนำเหล่านั้นถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำแล้วเท่านั้น
ไม่เป็นการคุกคามใคร เราแค่มีรูปคนที่เรารักนับถือเพื่อเตือนสติเราเท่านั้น และพื้นที่แขวนรูปนั้นคือเฉพาะในพื้นที่บ้านของเราเอง
เราจะจดจำใบหน้าและเรื่องราวของพวกเขา
สมบัติ บุญงามอนงค์
ใครที่ทำกิจการเกี่ยวกับกรอบรูปฟังผมให้ดี
หากจะเข้าร่วมโครงการนี้ ให้จัดหารูปของแกนนำในหลากหลายอริยบท และกรอบรูปหลายๆแบบ แล้วให้คนสั่งซื้อออนไลน์ ผมมั่นใจว่าจะมีคนสั่งซื้อสิ่งนี้จำนวนนับหมื่นชิ้น
สมบัติ บุญงามอนงค์
6h ·
Tag เพื่อนหน่อย
ศิลปินท่านใดที่มีความสามารถในการวาด ถ่ายภาพ หรือ การทำกราฟฟิค รูปภาพของแกนนำหรือผู้เรียกร้องประชาธิปไตยที่ถูกจองจำในขณะนี้ ส่งภาพมาให้ผมหน่อย ผมจะกระจายภาพนั้นต่อ เพื่อนำไปใส่กรอบรูป ในกิจกรรม #รูปที่มีทุกบ้าน (ผู้รักประชาธิปไตย)
รู้จักใคร Tag เลย
ชินวัตร fc แม้วแอนปู
Yesterday at 8:05 AM ·
..ยิ่งขังจักยิ่งไข
ทะลุรื้อทุกขื่อคา
ปิดตายิ่งแจ่มตา
ลึกไตตับของซาตาน
'..ควรค่าและควรคน
ทั้งควรเกียรติบรรณาการ
ควรจิตและวิญญาณ
ประดับยุคไว้ยืนยาว..'
.....
Mutita Pla Chuachang
20h ·
ก็อปมาอีกต่อ เขาบอกหาโพสต์ต้นทางไม่เจอ
ตั้งชื่อให้ว่า ผู้สังเกตการณ์นิรนาม
=======
“วันนี้ยุ่งมาก เพิ่งเสร็จงานสุดท้ายไป ยังไม่เสร็จดีด้วยแต่อยากบันทึกเรื่องราวของวันนี้ในห้องพิจารณา 701 ศาลอาญา รัชดาไว้ เชื่อว่าไม่บ่อยหรือคงไม่เคยมี จำเลยยืนบนเก้าอี้ม้านั่งไม้ยาวๆของห้องพิจารณาและแถลงความในใจต่อศาลแม้ศาลจะไม่อยู่ฟังแล้ว เท่านั้นไม่พอมวลชนยังคล้องแขน ล้อมหน้าล้อมหลัง กันผู้แถลงไว้ไม่ให้ตำรวจศาลลากตัวออกไป จังหวะนั้นมันรู้สึกเหมือนตกอยู่ในฉากหนัง ทั้งหนังบู๊บ้าดีเดือดและหนังดราม่าน้ำตาร่วง
.
เราไปศาลมาไม่นานนักหรอก ประมาณ 3 ปีและไม่ได้ไปทุกวันแต่ก็มีโอกาสนั่งฟัง สังเกตการณ์การพิจารณาคดีมาเป็นสิบคดี ตลอดระยะเวลาการนั่งในศาล การเข้าออกศาล ทุกคนรู้ โลกรู้ ศาลไทยทำกับเราเหมือนเป็นทาสสมัยโบราณ ทุกอย่างเราต้องพินอบพิเทา ใส่รองเท้าแตะคีบไม่ได้ (วันนี้เราเห็นเขาไล่คนตั้งแต่หน้าบันไดศาลไม่ให้ใส่รองเท้าแตะเข้ามา คนคนนั้นอุ้มลูกที่อายุไม่น่าจะถึงเดือน เรางงมากว่ามันบ้าอะไรกันนัก นี่แค่ประตูทางเข้าศาล ไม่ใช่ห้องพิจารณาด้วยซ้ำ) ใส่กางเกงสั้นขึ้นมาหน่อยก็ไม่ได้ นั่งไขว้ห้างไม่ได้ นั่งกอดอกไม่ได้ นั่งเอาแขนพาดพนักไม่ได้ บางห้องพิจารณาไม่ให้จด บางห้องพิจารณาไม่ให้เข้าฟัง
.
ศาลตะคอกตะโกนใส่เรา พูดจากับเราเหมือนเราเป็นคนที่ต่ำกว่า ทั้งในแง่ความรู้ ความเข้าใจด้านกฎหมาย ทั้งในแง่ศักดิ์ หรือสิทธิ์อะไรบางอย่างที่เขาดูจะมีล้นเกินมากกว่าเรา ศาลบางคนตะเพิดคนอื่นอยู่ตลอดเวลา อัยการก็ไม่เว้น เราเองยังไม่ค่อยเจอเหตุการณ์เลวร้ายในศาลมาก ถือว่าเป็นคนโชคดี แต่ศาลนิสัยไม่ดี ไม่เห็นคนเป็นคน เราเจอมาไม่น้อยและอึดอัดใจทุกครั้งที่ต้องเจอกับศาลแบบนี้
.
วันนี้เป็นครั้งแรกที่เราเห็นจำเลยเถียงศาล โอเค เราเคยเห็นทนายอานนท์ซึ่งเถียงศาลอยู่ตลอดเวลา จนศาลที่ปากกล้าๆก็ยังต้องยอมใจ เราเคยเห็นจำเลยบางคนเมินใส่ศาลเช่นพี่เอกชัย แต่ในห้องพิจารณาแทบไม่ค่อยมีจำเลยคนไหนแสดงตัวต่อศาล ว่าเราเท่ากัน แทบทุกคนจะต้องแสดงตนอย่างต้อยต่ำกว่า อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว เราต้องคุยกับศาลอย่างกราบกราน แต่วันนี้ไม่ใช่ เด็กๆพูดเรื่องจริงให้ศาลฟัง “ศาลพูดอะไรกัน นั่งฟังอยู่ไม่ได้ยินเลย พูดเสียงดังหน่อย/เพิ่มเสียงหน่อย” ดอกแรก โอโห สิ่งที่กูอยากถามมาตลอด ว่ามีไมค์ทำไมไม่เปิดไมค์ แล้วจะจัดซื้อไมค์มาเพื่อ คนนั่งเต็มห้อง ยังซุบซิบกันอยู่ได้
.
“เราจะต่อสู้คดีได้อย่างไร ทั้งที่เราถูกคุมขังอยู่” ประโยคสั้นๆนี้โคตรจะจริง “กระดาษคำฟ้อง 20-30แผ่น รู้มั้ยว่ามันไม่มีที่เก็บในเรือนจำและไม่มีที่ที่จะอ่านทำความเข้าใจเงียบๆได้เลย” สิ่งที่ศาลไม่เคยเข้าใจ ไม่เคยรู้ว่าชีวิตในเรือนจำมันลำบากแค่ไหน พี่สมยศพูดให้ศาลเห็นภาพได้ดี
.
ทนายอานนท์ช่วยอธิบายให้จำเลยคนอื่นๆเข้าใจเรื่องระบบการประกันตัวและการพิจารณาคดีด้วย ว่าองค์คณะเป็นคนละส่วนกัน ทนายน่าจะเข้าใจมากที่สุด ศาลไหว้วาน อานนท์ตอบว่า เพราะเข้าใจมากที่สุด เลยพูดไม่ได้ ยิ่งพูดก็ยิ่งเหมือนเข้าตัว ไม่มีเรื่องอะไรในกระบวนการตอนนี้ที่จะอธิบายให้ใครเข้าใจได้เลย (ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกคนไม่ได้ประกัน) อีกหนึ่งดอกจุกๆ
.
วันนี้ช่วงเช้าของการพิจารณาแทบไม่มีใครฟังศาลพูด การที่ทูตหลายประเทศเข้าฟังการพิจาณาด้วย ทำให้ตำรวจศาลไม่กล้าจะลากคนออกจากศาล ทั้งที่ใจก็คงอยากลากอยู่ เพราะปกติแค่คีบแตะเข้ามาในห้องไขว่ห้างก็โดนวางอำนาจใส่แล้ว แต่นี่ยืนตะโกนกันปาวๆ คำว่า เคารพศาล ศาลที่เคารพ สิ้นความหมายไปเลย ทุกคนอยากพูดสิ่งที่ตัวเองต้องการจะพูดและกำลังบังคับให้ศาลฟัง กลับกันปกติศาลมักจะบังคับให้เราฟังสิ่งที่ศาลพูดและต้องนิ่งเงียบเสมอมา
.
แบงค์บอกว่า เขาปฎิบัติตนอย่างร่วมไม้ร่วมมือต่อคนในกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด เขาไม่เคยไม่ไปรายงานตัว แต่เหตุใดเขาจึงไม่ได้รับการประกัน
เหตุใดตัวเขาต้องมารับความกระทบกระเทือนทางจิตใจซ้ำซ้อนด้วยคดี112 อีก ทั้งที่ออกจากคุกเพราะคดีดังกล่าวมาแล้ว 4 ปี
.
เดอะเบสท์ของวันนี้ คือภาพเพนกวินถูกรุมล้อมด้วยตำรวจศาล, เจ้าหน้าที่ศาล,รปภ. รุ้งเดินไปด้านหลังเพื่อนรุ่นพี่ของตัวเอง กางมือทั้งสองข้างออก คล้ายโอบเพื่อนเอาไว้ ไม่ให้ใครมาเข้าใกล้เขา ทั้งสองโดนล้อม จนเพนกวินต้องปีนขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ให้มวลชนได้เห็นหน้า มือหนึ่งถือคำแถลงที่เตรียมมา ปากก็ตะโกนอ่านสิ่งเหล่านั้นอย่างโกรธเกรี้ยว เออ โกรธ โกรธได้อีก ถ้าทุกคนไม่โกรธ เฉยชากับเรื่องเหี้ยๆ สังคมมันจะเป็นยังไงว้ะ ( อืม ก็คงเป็นแบบที่กำลังเห็นอยู่นี่แหละ) ป้าๆเพื่อนๆ เข้ามาคล้องแขนโดยอัตโนมัติอย่างรู้งานก่อนที่ตำรวจจะได้ประชิดตัว แม้เบียดดันกันอยู่พักใหญ่แต่เพนกวินก็ได้อ่านสิ่งที่ตัวเองเขียนมาจนจบ พร้อมประกาศอดอาหาร จนกว่าสามัญสำนึกจะคืนสู่ผู้พิพากษา
.
เราเห็นบางคนร้องไห้ หลายคนชูสามนิ้วเป็นการสนับสนุน แทบทั้งห้องตะโกนพร้อมกัน ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ 3 ครั้ง พูดจริงๆคนพวกนี้อาศัยทุกพื้นที่เพื่อแสดงออกเจตจำนงค์ที่จะไม่ก้มหัวให้ใครอีกแล้ว ถึงรู้ว่าทุกๆอย่างมันเสี่ยง การทำแบบนี้ในศาลที่ขึ้นชื่อเรื่องการชอบกดหัวคนอื่น การส่งข้อความออกมาจากเรือนจำในเชิงวิพากษ์ หรือแม้แต่การปราศรัยตอนที่ยังไม่ถูกคุมขัง เพดานถูกเปิดแล้วเปิดอีกในทุกพื้นที่ พวกเขาถูกจับแล้วจับอีก
.
วันนี้คุณบางคนทำอะไรอยู่นะ”