วันอาทิตย์, มีนาคม 21, 2564

"ตำรวจจงใจ ‘ขยับขึ้น’ จากเบาไปหาหนัก" #ม็อบ20มีนา "ม็อบไทยม็อบพม่าต่างกันแค่ ม.๑๑๒ ขลังกว่ากฎอัยการศึก"


ก่อนอื่น ต้องบอกพวก หยุดดัดจริตหน่อยว่า กระแสไม่ได้ตกนะ ม็อบเด็กๆ น่ะ พวกเขายังแข็งและกล้าพอ ถึงจะวิจารณ์น้อยๆ ก็เป็นสิ่งไม่ควร ถ้าสงสารแต่แนวร่วมโดนทำร้าย เด็กเขาก็บอกแล้วไง ให้แนวร่วมอยู่ข้างหลัง ปล่อยฮ้าร์ดคอร์ออกหน้านำ

คราวนี้ตำรวจจงใจ ขยับขึ้น จากเบาไปหาหนักอยู่แล้ว ห่วงมากนักก็หุบปากเป็นไทยเฉยอยู่บ้าน อย่าอุตริ ชักใบให้เรือเสีย อย่างที่เด็กเขาว่า คนน้อยคนเยอะ “เราก็สู้ หากยังเป็นคน เราก็สู้” บาดเจ็บก็ช่วยกันรักษาเยียวยา ที่บอกให้หยุดเห็นมีแต่ หมาต๋า

การสลายชุมนุม #ม็อบ20มีนา คือความชัดเจน ว่าต่อนี้ไป หม่องโมเดล มาแล้ว ทั้งด้าน อ่องห์ลาย และเลือดพม่ารักประชาธิปไตย ด้านหนึ่งเหลิงอำนาจจนหูตาห์ลาย อีกด้านไม่ยอมถอยอีกต่อไป หากไม่กล้าฝืน ก็แค่สยบจมดิน

ลองฟัง Siripan Nogsuan Sawasdee @Si_Siripan สักนิด “การที่ จนท.รัฐ ใช้ความรุนแรงกับประชาชนโดยไม่ยับยั้บชั่งใจ ก็เพราะเชื่อว่ารัฐสามารถควบคุมการนำเสนอภาพว่าผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรง เล่ห์เหลี่ยมนี้ สำเร็จได้หากคนในสังคมพร้อมจะเฉยชา”

เธอยังบอกด้วยว่าในยุคดิจิทัลมีเดียนี่ “เราปลุกใครให้ตื่นไม่ได้ หากเค้าเพียงแต่แกล้งหลับ” แต่มือยังกดทวิตเตอร์ทำ ไอโอก็เออ สันติวิธี ไม่ใช่ หงอ เข้าใจเนอะ เหมือนอย่างเด็กคนหนึ่งที่ถนนข้าวสารเมื่อคืน ขาสั้นเสื้อขาวถุงเท้าขาว


ไอ้น้องมัธยม “เดินเข้าหากองร้อยที่เต็มไปด้วยโล่และปืนกระสุนยางไล่ยิงผู้ชุมนุม เขาเดินเข้าไปพร้อมปลดกระดุมเสื้อให้เห็นตัวและสองมือที่ว่างเปล่า ตะโกนซ้ำๆ ว่า ผมไม่มีอาวุธครับ ๆ ๆ” เพื่อจะบอกเจ้าหน้าที่ว่า มึงจะยังยิงอยู่อีกไหม

“สุดท้ายหลังจากนี้ไม่ถึงนาที กองร้อยทั้งฝูงก็วิ่งฮือรุกพุ่งเข้าใส่ จนน้องต้องวิ่งหนี” Design for Life เอามาโพสต์ว่า “ถึงจุดนี้ น้ำตาเราก็ไหลไม่หยุด” ต้องร้องไห้ยังดีกว่าหดหัวเพื่อจะไม่ต้องร้อง ทุกครั้งที่มีม็อบเด็กและเกิดการต่อกร เห็นแล้วว่ามาตรการความปลอดภัยมันมี

เขาใช้ความรุนแรงเพื่อจะให้หยุด หยุดกันมาแล้วหลายหน จนหลายคนเป็นนักสันติวิธีเพื่อพระทรงธรรม์ แต่ว่าอนาคตเป็นของพวกเขา เด็กๆ อ่อนหัดนี่ละ “ถ้าอะไรๆ ยังไม่​เปลี่ยน​ ๕-๑๐ ปี​ข้างหน้า​ มันจะเป็นลูกหลานของคุณที่ต้องออกไปแบบนี้เองค่ะ”

Michelle Kim เอาไปเขียนไว้ที่ รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง “เราจะปล่อยให้คนรุ่นใหม่ๆ​ ออกไปเรียกร้อง​ เพียงเพราะคนรุ่นเก่าๆที่นั่งอยู่เฉยๆ​ ตาสว่างแล้วยังอ้างนั่นนี่​ แล้วทิ้งสังคมห่วยๆแบบนี้ไว้ให้เค้าไปแก้กันเองหรอคะ”


น้องเค้ายังพูดไม่หมดเปลือก “ย้ำอีกครั้งว่าออกไปม็อบ​ ไม่ได้ขอให้ออกไปยืนรับกระสุนยางแถวหน้า​​ แค่ออกไปยืนหลังๆ​ กินพื้นที่ให้รัฐบาลเห็นจำนวนคนที่ออกมาจริงๆ​ และให้แถวหน้าเห็นแล้วมีกำลังใจสู้ต่อก็พอแล้วค่ะ”

สัจจธรรมของม็อบก็คือ “ถ้าออกไปครั้งละหลายหมื่นหรือแสนคน​ รัฐทำอะไรเราไม่ได้เลยนะคะ” ม็อบเมื่อคืนเห้นว่าระดับหมื่น แต่กระจัดกระจายหลายจุด ตั้งแต่สนามหลวงย้อนมาบนราชดำเนินผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปจนถึงหน้าโรงแรมรอยัล

จากแยกคอกวัว ยังทะลุออกไปถึงสะพานวันชาติและถนนข้าวสาร จากคลิปหลากหลายเห็นชัดว่าตำรวจตั้งใจใช้ฉีดน้ำแรงสูง แก๊สน้ำตา และกระสุนจริงทำด้วยยางแข็ง อีกทั้งลุยตีผู้ชุมนุมไม่ยั้ง บนสะพานวันชาติเห็นผู้ถูกตีแน่นิ่งอย่างน้อยสองราย

ที่แยกคอกวัว “ผู้สื่อข่าวช่อง ๘ ถูกยิงด้วยกระสุนยาง” Noppakow Kongsuwan รายงานจากพื้นที่ “กลุ่ม คฝ.ชุดดำ โล่ดำ วิ่งกรูเข้ามาไล่ยิง คาดลืมนึกไปว่ามีนักข่าวทำหน้าที่รายงานสถานการณ์อยู่” ถ้าหลงลืมอย่างนั้นก็พอทำเนา

เห็นน้องคนหนึ่งโพสต์ว่า มีตำรวจนายหนึ่งตะคอกใส่ประมาณว่า “มึงแน่นักหรือ” อะไรทำนองนั้น นั่นอาจรายเดียวหรือส่วนน้อยเบื้องหลังหน้าปกที่บอกว่า “ตำรวจได้ใช้ความอดทนอดกลั้น ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย


ปฏิบัติตามกฎในหลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์อย่างเคร่งครัด” แต่อาจลืมไปว่าต้องมีหลักความยุติธรรมและมนุษยธรรม กำกับด้วย “ได้ประกาศย้ำว่าไม่ให้ผู้ชุมนุมฝ่าแนวเข้ามา” แล้วยังฝ่าฝืน ถ้าผู้ประท้วงเชื่อฟังคำสั่งเจ้าหน้าที่ขนาดนั้น พวกนั้นนอนอยู่บ้านครับกระผม

แต่การ รื้อตู้คอนเทนเนอร์ และขว้างปาใส่แนวตำรวจด้วยประทัด หัวน็อต ก้อนอิฐ หรือแม้แต่ยิงลูกแก้ว (ด้วยง่ามหนังสติ๊ก) มันอ่อนปวกเปียกเมื่อเทียบปืนแรงสูงยิงกระสุนยางแข็ง หรือแม้แต่แก๊สน้ำตาที่อ้างกันว่าทำให้น้องโบว์ตาย (ซึ่งแท้จริงเป็นระเบิดปิงปองของตน)

เสร็จแล้วอย่างไร “มีผู้ถูกควบคุมตัวมาที่ ตชด.๑ ทั้งหมด ๒ ชุดรวม ๑๘ คน มี ๑ คนไม่ได้มาที่นี่เพราะบาดเจ็บหนัก (จากกระสุนยางนั่นละ) ต้องส่ง รพ. ตำรวจ” และทราบว่า “เยาวชน ๓ คนอยู่ที่ ตชด. ทั้งหมด น้องปูนเพิ่งมาถึง

ส่วนน้อง ผญ. ๒ คน (๑๔ และ ๑๕ ปี)” ชัยธวัช ตุลาธน เลขาฯ พรรคก้าวไกลเล่าความว่า “ถูกแจ้งข้อหา #ม112 ด้วย” นี่ละม็อบไทยม็อบพม่าต่างกันแค่ ม.๑๑๒ ขลังกว่ากฎอัยการศึก ระหว่างกองทัพกับประชาชน

(อ่านประมวลเหตุการณ์ที่ https://prachatai.com/journal/2021/03/92209 กับ live https://www.facebook.com/Prachatai/videos/273158037605499/ นาทีที่ ๖ เป็นต้นไป)