ก่อนอื่น ต้องบอกพวก ‘หยุดดัดจริต’ หน่อยว่า กระแสไม่ได้ตกนะ ม็อบเด็กๆ น่ะ พวกเขายังแข็งและกล้าพอ ถึงจะวิจารณ์น้อยๆ ก็เป็นสิ่งไม่ควร ถ้าสงสารแต่แนวร่วมโดนทำร้าย เด็กเขาก็บอกแล้วไง ให้แนวร่วมอยู่ข้างหลัง ปล่อยฮ้าร์ดคอร์ออกหน้านำ
คราวนี้ตำรวจจงใจ ‘ขยับขึ้น’ จากเบาไปหาหนักอยู่แล้ว ห่วงมากนักก็หุบปากเป็นไทยเฉยอยู่บ้าน อย่าอุตริ ‘ชักใบให้เรือเสีย’ อย่างที่เด็กเขาว่า คนน้อยคนเยอะ “เราก็สู้ หากยังเป็นคน เราก็สู้” บาดเจ็บก็ช่วยกันรักษาเยียวยา ที่บอกให้หยุดเห็นมีแต่ ‘หมาต๋า’
การสลายชุมนุม #ม็อบ20มีนา คือความชัดเจน ว่าต่อนี้ไป ‘หม่องโมเดล’ มาแล้ว ทั้งด้าน ‘อ่องห์ลาย’ และเลือดพม่ารักประชาธิปไตย ด้านหนึ่งเหลิงอำนาจจนหูตาห์ลาย อีกด้านไม่ยอมถอยอีกต่อไป หากไม่กล้าฝืน ก็แค่สยบจมดิน
ลองฟัง Siripan Nogsuan Sawasdee @Si_Siripan สักนิด “การที่ จนท.รัฐ ใช้ความรุนแรงกับประชาชนโดยไม่ยับยั้บชั่งใจ ก็เพราะเชื่อว่ารัฐสามารถควบคุมการนำเสนอภาพว่าผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรง เล่ห์เหลี่ยมนี้ สำเร็จได้หากคนในสังคมพร้อมจะเฉยชา”
เธอยังบอกด้วยว่าในยุคดิจิทัลมีเดียนี่ “เราปลุกใครให้ตื่นไม่ได้ หากเค้าเพียงแต่แกล้งหลับ” แต่มือยังกดทวิตเตอร์ทำ ‘ไอโอ’ ก็เออ ‘สันติวิธี’ ไม่ใช่ ‘หงอ’ เข้าใจเนอะ เหมือนอย่างเด็กคนหนึ่งที่ถนนข้าวสารเมื่อคืน ขาสั้นเสื้อขาวถุงเท้าขาว
ไอ้น้องมัธยม “เดินเข้าหากองร้อยที่เต็มไปด้วยโล่และปืนกระสุนยางไล่ยิงผู้ชุมนุม เขาเดินเข้าไปพร้อมปลดกระดุมเสื้อให้เห็นตัวและสองมือที่ว่างเปล่า ตะโกนซ้ำๆ ว่า ผมไม่มีอาวุธครับ ๆ ๆ” เพื่อจะบอกเจ้าหน้าที่ว่า มึงจะยังยิงอยู่อีกไหม
“สุดท้ายหลังจากนี้ไม่ถึงนาที กองร้อยทั้งฝูงก็วิ่งฮือรุกพุ่งเข้าใส่ จนน้องต้องวิ่งหนี” Design for Life เอามาโพสต์ว่า “ถึงจุดนี้ น้ำตาเราก็ไหลไม่หยุด” ต้องร้องไห้ยังดีกว่าหดหัวเพื่อจะไม่ต้องร้อง ทุกครั้งที่มีม็อบเด็กและเกิดการต่อกร เห็นแล้วว่ามาตรการความปลอดภัยมันมี
เขาใช้ความรุนแรงเพื่อจะให้หยุด หยุดกันมาแล้วหลายหน จนหลายคนเป็นนักสันติวิธีเพื่อพระทรงธรรม์ แต่ว่าอนาคตเป็นของพวกเขา เด็กๆ อ่อนหัดนี่ละ “ถ้าอะไรๆ ยังไม่เปลี่ยน ๕-๑๐ ปีข้างหน้า มันจะเป็นลูกหลานของคุณที่ต้องออกไปแบบนี้เองค่ะ”
Michelle Kim เอาไปเขียนไว้ที่ รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง “เราจะปล่อยให้คนรุ่นใหม่ๆ ออกไปเรียกร้อง เพียงเพราะคนรุ่นเก่าๆที่นั่งอยู่เฉยๆ ตาสว่างแล้วยังอ้างนั่นนี่ แล้วทิ้งสังคมห่วยๆแบบนี้ไว้ให้เค้าไปแก้กันเองหรอคะ”
น้องเค้ายังพูดไม่หมดเปลือก “ย้ำอีกครั้งว่าออกไปม็อบ ไม่ได้ขอให้ออกไปยืนรับกระสุนยางแถวหน้า แค่ออกไปยืนหลังๆ กินพื้นที่ให้รัฐบาลเห็นจำนวนคนที่ออกมาจริงๆ และให้แถวหน้าเห็นแล้วมีกำลังใจสู้ต่อก็พอแล้วค่ะ”
สัจจธรรมของม็อบก็คือ “ถ้าออกไปครั้งละหลายหมื่นหรือแสนคน รัฐทำอะไรเราไม่ได้เลยนะคะ” ม็อบเมื่อคืนเห้นว่าระดับหมื่น แต่กระจัดกระจายหลายจุด ตั้งแต่สนามหลวงย้อนมาบนราชดำเนินผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปจนถึงหน้าโรงแรมรอยัล
จากแยกคอกวัว ยังทะลุออกไปถึงสะพานวันชาติและถนนข้าวสาร จากคลิปหลากหลายเห็นชัดว่าตำรวจตั้งใจใช้ฉีดน้ำแรงสูง แก๊สน้ำตา และกระสุนจริงทำด้วยยางแข็ง อีกทั้งลุยตีผู้ชุมนุมไม่ยั้ง บนสะพานวันชาติเห็นผู้ถูกตีแน่นิ่งอย่างน้อยสองราย
ที่แยกคอกวัว “ผู้สื่อข่าวช่อง ๘ ถูกยิงด้วยกระสุนยาง” Noppakow Kongsuwan รายงานจากพื้นที่ “กลุ่ม คฝ.ชุดดำ โล่ดำ วิ่งกรูเข้ามาไล่ยิง คาดลืมนึกไปว่ามีนักข่าวทำหน้าที่รายงานสถานการณ์อยู่” ถ้าหลงลืมอย่างนั้นก็พอทำเนา
เห็นน้องคนหนึ่งโพสต์ว่า มีตำรวจนายหนึ่งตะคอกใส่ประมาณว่า “มึงแน่นักหรือ” อะไรทำนองนั้น นั่นอาจรายเดียวหรือส่วนน้อยเบื้องหลังหน้าปกที่บอกว่า “ตำรวจได้ใช้ความอดทนอดกลั้น ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย
ปฏิบัติตามกฎในหลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์อย่างเคร่งครัด” แต่อาจลืมไปว่าต้องมีหลักความยุติธรรมและมนุษยธรรม กำกับด้วย “ได้ประกาศย้ำว่าไม่ให้ผู้ชุมนุมฝ่าแนวเข้ามา” แล้วยังฝ่าฝืน ถ้าผู้ประท้วงเชื่อฟังคำสั่งเจ้าหน้าที่ขนาดนั้น พวกนั้นนอนอยู่บ้านครับกระผม
แต่การ รื้อตู้คอนเทนเนอร์ และขว้างปาใส่แนวตำรวจด้วยประทัด หัวน็อต ก้อนอิฐ หรือแม้แต่ยิงลูกแก้ว (ด้วยง่ามหนังสติ๊ก) มันอ่อนปวกเปียกเมื่อเทียบปืนแรงสูงยิงกระสุนยางแข็ง หรือแม้แต่แก๊สน้ำตาที่อ้างกันว่าทำให้น้องโบว์ตาย (ซึ่งแท้จริงเป็นระเบิดปิงปองของตน)
เสร็จแล้วอย่างไร “มีผู้ถูกควบคุมตัวมาที่ ตชด.๑ ทั้งหมด ๒ ชุดรวม ๑๘ คน มี ๑ คนไม่ได้มาที่นี่เพราะบาดเจ็บหนัก (จากกระสุนยางนั่นละ) ต้องส่ง รพ. ตำรวจ” และทราบว่า “เยาวชน ๓ คนอยู่ที่ ตชด. ทั้งหมด น้องปูนเพิ่งมาถึง
ส่วนน้อง ผญ. ๒ คน (๑๔ และ ๑๕ ปี)” ชัยธวัช ตุลาธน เลขาฯ พรรคก้าวไกลเล่าความว่า “ถูกแจ้งข้อหา #ม112 ด้วย” นี่ละม็อบไทยม็อบพม่าต่างกันแค่ ม.๑๑๒ ขลังกว่ากฎอัยการศึก ระหว่างกองทัพกับประชาชน
(อ่านประมวลเหตุการณ์ที่ https://prachatai.com/journal/2021/03/92209 กับ live https://www.facebook.com/Prachatai/videos/273158037605499/ นาทีที่ ๖ เป็นต้นไป)