วันอาทิตย์, พฤษภาคม 15, 2559

นิมนต์รูปเดียวได้ไง ? ระดับบิ๊กทหารถวายเพลต้องถวายทั้งวัด มหาไพรวัลย์ เผยทหารนัดถวายภัตตาหารเพล ติดตาม หลังโพสต์การเมือง (คลิป)





มหาไพรวัลย์ เผยทหารนัดถวายภัตตาหารเพล เผยมาแล้ว 5 ครั้งเหตุกังวลแสดงความเห็นการเมือง


ที่มา ประชาไท
Thu, 2016-05-12


12 พ.ค.2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 14.00 น. ไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ผู้แสดงจุดยืนสนับสนุนประชาธิปไตยและไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร เวลาประมาณ 10.00 น. ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวในลักษณะสาธารณะว่า “มีนายทหารโทรมาบอกอยากถวายภัตตาหารเพลอาตมา จะขอเข้ามาถวายให้ได้ วันที่ 14 นี้ ใครอยากจะมาทานร่วมกับอาตมาบ้าง เชิญได้นะ 555” พร้อมระบุว่าก่อนหน้านี้ทหารมาพบมากกว่า 5 ครั้ง เพราะกังวลเรื่องการแสดงความเห็นหรือเคลื่อนไหวทางการเมือง






ในโพสต์สเตตัสดังกล่าว พระมหาไพรวัลย์ ได้แสดงความคิดเห็นว่า “จริงไม่อยากบอกว่า ทหารมาพบอาตมามากกว่า 5 ครั้งแล้ว ก็ไม่เห็นจะว่ายังไง บางทีเราก็รำคาญ คืออยากจะบอกอะไรก็ไม่บอก อยากจะทำอะไรก็ไม่ทำ มาขอเราถ่ายรูปอย่างกับว่าเราเป็นดาราแล้วก็กลับ”

ผู้สื่อข่าวประชาไทสอบถามเพิ่มเติม โดย พระมหาไพรวัลย์ เปิดเผยว่า เมื่อเดือนที่แล้วเจ้าหน้าที่ทหารทำทีมาขอถ่ายรูป บอกว่าอยากคุยและอยากมากราบเจ้าหน้าที่ทหารใช้คำพูดดีมาก เจ้าหน้าที่ทหารก็ยอมรับว่ารู้ว่าเคยเขียนบทความเฉียดไปเฉียดมาเมื่อปีที่ผ่านมาจึงอาจมีรายชื่อที่ต้องระวัง เจ้าหน้าที่กลัวว่าจะเคลื่อนไหวทางการเมือง จึงพูดในลักษณะขอร้องว่าบ้านเมืองกำลังวุ่นวาย ไม่อยากให้โพสต์อะไรเพื่อเพิ่มความแตกแยก เจ้าหน้าที่ทหารที่มาพบในวันนี้มีอายุและยศประมาณร้อยตรี ซึ่งเข้ามาพูดด้วยภาษาสุภาพเพื่อขอให้ระมัดระวังการแสดงความคิดเห็นสาธารณะ เพราะกังวลว่าจะทำสังคมแตกแยก

ooo


‘พระมหาไพรวัลย์’ เผย ทหารติดตาม หลังโพสต์การเมือง (คลิป)



ที่มา มติชนออนไลน์
14 พ.ค. 59

“พระมหาไพรวัลย์”เผยทหารติดตาม หลังโพสต์ความเห็นทางการเมือง แนะการปรับทัศนคติไม่ทำให้สังคมดีขึ้น

เมื่อเวลา 11.25 น. วันที่ 14 พฤษภาคม ที่วัดสร้อยทอง พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ กล่าวภายหลังที่มีเจ้าหน้าที่ทหารมานิมนต์ถวายภัตตาหารเพลในวันนี้ว่า อาตมาไม่ทราบถึงจุดประสงค์ของเจ้าหน้าที่ทหาร แต่เชื่อว่าทหารต้องการทราบความเคลื่อนไหวที่ได้แสดงความเห็นทางการเมืองทางผ่านสื่อโซเชียล ซึ่งการมาพบวันนี้ไม่มีการพูดหรือขอร้องให้หยุดแสดงความคิดเห็นทางการเมืองแต่ประการใด แต่เชื่อว่ามีนัยยะ เนื่องจากมีบุคคลติดตามและคอยบันทึกภาพ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารเคยบอกว่ามีรายชื่อของตนอยู่ในข่ายที่ต้องติดตาม อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจสันติบาลมาพบ รวมถึงเคยมาสอบถามบุคคลที่อยู่ภายในวัด เพื่อสอบถามประวัติกับคนในวัด ซึ่งส่วนตัวมองว่ายังไม่ถือว่าเป็นคุกคาม แต่เพียงรู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะไม่รู้ถึงวัตถุประสงค์ของเจ้าหน้าที่ที่มาพบเลย

พระมหาไพรวัลย์ กล่าวถึงการเรียกปรับทัศนคติบุคคลที่แสดงความเห็นทางการเมือง ว่าควรเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนการพูดคุย ในกรณีที่ไม่ก่อให้เกิดการยุยงปลุกปั่น เพราะว่าการปรับทัศนคติในขณะนี้ ไม่ได้ช่วยทำให้สังคมดีขึ้น ในทางตรงกันข้ามกลับเป็นการสร้างความหวาดกลัวเหมือนกับกรณีอาตมา แม้เจ้าหน้าที่ทหารจะไม่เรียกไปปรับทัศนคติแต่ก็สร้างความหวาดกลัวได้เช่นกัน ขณะเดียวกันมองว่าสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยในมีในบางเรื่อง แต่บางเรื่องก็ไม่มีเลย เช่น เสรีภาพในการแสดงความเห็น เพราะในเมื่อคนที่แสดงความเห็นแล้วยังยังถูกข่มขู่ ไปพบถึงบ้าน ถูกเชิญตัวไปปรับทัศนคติ จะให้พูดว่าประเทศไทยมีความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนก็เป็นไปไม่ได้

“หลังจากนี้การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองผ่านสื่อโซเชียลของ อาตมาก็คงจะมีความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้นเพื่อเตือนด้วยความหวังดีเพราะในฐานะที่เป็นพระ ในเมื่อเห็นคนถูกความอยุติธรรมเล่นงานคงไม่สามารถอยู่เฉยได้เพราะการแสดงเห็นถือเป็นพื้นฐานของความกล้าอย่างหนึ่ง” พระมหาไพรวัลย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้ระบุถึงการเข้าพบพระมหาไพรวัลย์ในวันนี้ว่า มาส่วนตัวมานมัสการ และอยากจะพูดคุยเนื่องด้วยสถานการณ์ล่อแหลมจึงอยากมานมัสการถวายเพล พร้อมกับสอบถามถึงการสอนและเขียนหนังสือของพระมหาไพรวัลย์ซึ่งมีบทความบางส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง โดยพระมหาไพรวัลย์ได้กล่าวยืนยันว่าเป็นเพียงการเขียนในด้านศาสนาพุทธกับมุมมองสิทธิมนุษยชนเท่านั้น สำหรับสาเหตุที่ทหารติดตามความเคลื่อนไหวของพระมหาไพรวัลย์นั้น อาจจะเป็นเคยแสดงทัศนคติผ่านหนังสือทัศนะวิพากษ์ อนาธิปไตย ซึ่งมีเนื้อหาวิจารณ์ระบอบเผด็จการ วิจารณ์ทหาร และเหตุการณ์ที่ไปรับบาตรที่หมุดคณะราษฎร บริเวณพระบรมรูปทรงม้า เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2558

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาพระมหาไพรวัลย์โพสต์ข้อความมาทางมติชนออนไลน์ว่า ไม่ได้หวาดกลัวตามข่าว