สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
7 hours ago
·
‘ไอซ์ รักชนก’ ถึง ผู้บริหาร-ศิษย์เก่า-ศิษย์ปัจจุบัน ‘นิด้า’ ปม ‘ดร.อานนท์’
วันที่ 29 ธ.ค.68 นางสาวรักชนก ศรีนอก อดีต สส.กทม.พรรคประชาชน โพสต์ถึงข้อคงามของ รศ.ดร.อานนท์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
”นี่คือสิ่งที่ต้องเจอทุกวันๆ ตั้งแต่เป็นนักการเมือง อย่างเบาหน่อย ก็ด่าว่าเป็นสก๊อย เด็กไม่มีพ่อไม่มีแม่ บ้างก็กล่าวหาว่าเป็นกระหรี่ เป็นเด็กเสี่ย หรือเป็นเมียน้อยใครสักคน มีการเอารูปไปตัดต่อให้เสื่อมเสียพร้อมคำเหยียดหยามสาระพัด ใช้ AI ทำเป็นคลิปอนาจาร สร้างข่าวปลอมมาใส่ร้ายป้ายสีทุกวัน หนักขึ้นมาหน่อยก็โดนฟ้อง ฟ้องปิดปาก ถูกขู่ ถูกคุกคาม ถูก sexual harassment ทั้งท่าทีและคำพูด และไม่นานมานี้ก็ถึงขั้นถึงตัวทำร้ายร่างกาย
ล่าสุดลามไปกล่าวหาบุคคลอื่นๆ ในครอบครัว ไม่เข้าใจว่าคุณมีสิทธิ์มากล่าวหาพ่อแม่คนอื่นได้เป็นเรื่องราวขนาดนี้ได้ยังไง
ทุกคนได้อ่านข้อความนี้แล้ว ทุกคนรู้สึกยังไงบ้างคะ ?
สิ่งที่เราคิดคือ ทำไมกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มคนรักสถาบัน ถึงได้กล้าพฤติกรรมที่น่ารังเกียจทุกรูปแบบกับคนอื่นโดยอ้างความจงรักภักดี คุณจะไม่ชอบนักการเมืองคนไหน การวิพากษ์วิจารณ์ด่าทอทำได้เต็มที่กับบุคคลนั้นๆ
แต่ถึงขึ้นกล่าวหาพ่อแม่คนอื่นด้วยถ้อยคำเหยียดหยามลดทอนคุณค่าแบบนี้ ตัวดิฉันเองที่เติบโตมาในสังคมที่แย่มากๆ ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน อย่างที่ผู้โพสต์กล่าวหา ยังไม่คิดทำอะไรแบบนี้กับพ่อแม่ใครเลย
ดิฉันสนับสนุนหลักการ เรื่อง free speech เสมอมา แต่อันนี้มันเข้าข่ายเป็น hate speech ทำไมคนที่แอบอ้างตัวเองว่ารักสถานบันกว่าใคร และต้องการปกป้องสถาบัน ถึงเลือกใช้วิธีลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนที่เห็นต่าง แทนที่จะถกเถียงกันด้วยวิธีอย่างคนที่ได้รับการอบรมมาบ้างแล้วใช้กัน เถียงด้วยเหตุผล หักล้างกันด้วยตรรกะ
สุดท้ายดิฉันมีกลุ่มคนที่อยากสื่อสารด้วย อยู่ 3 กลุ่ม
1)ผู้บริหาร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ - NIDA
ที่ผ่านมาดิฉันเข้าใจดี ว่าสถาบันเป็นกลางทางการเมือง และ ไม่ได้ห้ามให้บุคลากรของสถาบันแสดงความเห็นต่างๆ ทางการเมืองในช่องทางต่างๆ และสื่อสาธารณะซึ่งเป็นเรื่องน่ายกย่อง
แต่อยากถามว่า สถาบัน NIDA มีจุดยืนอย่างไร กับการลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ หรือ การนำเอาทรอม่า หรือ เรื่องราวในบางชีวิตของบุคคลอื่น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่ได้ผ่านมากันอย่างง่ายๆ มาพูดในเชิงด้อยค่า สถาบัน NIDA สนับสนุนพฤติกรรมที่เป็นภัยคุกคามสังคมเช่นนี้หรือไม่ และสนับสนุนให้บุคลากรในสถาบันทำพฤติกรรมเช่นนี้ได้หรือไม่
2)ศิษย์เก่า และ ศิษย์ปัจจุบัน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ - NIDA
ดิฉันมีความเคารพทุกความเห็นทางการเมือง ท่านจะเป็นอนุรักษ์นิยมหรือเสรีนิยม จะสนับสนุนหรือไม่สนับสนุน ดิฉันก็เคารพทุกความหลากหลาย การวิพากษ์วิจารณ์กันที่ผ่านมา ไม่ว่าจะด้วยความสุภาพหรือใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดิฉันก็ไม่เคยคิดจะฟ้องร้อง เพราะการเสนอตัวมาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มันต้องโดนมากกว่าคนปกติเป็นธรรมดา แต่ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของสถาบัน NIDA ท่านมีความเห็นอย่างไร ที่มีบุคลากรของสถาบันอันทรงเกียรติ แสดงมีทัศนคติเช่นนี้ ซึ่งสถาบันนิ่งเฉยกับ hate speech และการด้อยค่าเพื่อนมนุษย์ ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรก
3)คนที่เกิดมาไม่พร้อม ไม่ว่าจะด้านไหนในชีวิตก็ตาม (เหมือนเรา)
คนเราเลือกเกิดไม่ได้ ถ้าเลือกได้เราทุกคนคงอยากเกิดมาในครอบครัวที่พร้อมทุกด้านและอบอุ่น ใครๆ ก็อยากมีครอบครัวอยู่ในชุมชนที่ไม่มีการใช้ความรุนแรง ไม่มีปัญหาสังคม เด็กๆ ได้ไปโรงเรียนดีๆ ก็คงไม่มีใครอยากเกิดมาพบเจอกับประสบการณ์วัยเด็กแย่ๆ คำดูถูกดูแคลน คำเหยียดหยาม เพื่อนๆ ที่โดนอะไรที่แย่กว่าตัวเราแต่เราไม่มีพลังความสามารถอะไรจะช่วยเหลือเค้าได้
ไม่มีใครผิดที่เกิดมาในครอบครัวที่ไม่ดีพร้อม ชาติกำเนิดอยู่ในสลัม เติบโตท่ามกลางปัญหาสังคม กว่าจะรอดได้แต่ละวันโคตรยากลำบาก คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกได้ว่าจะส่งต่อสังคมแบบไหนให้คนรุ่นถัดไป เราเลือกได้ว่าจะส่งต่อทัศนคติค่านิยมที่ตัดสินคนจากชาติกำเนิด ส่งต่อคำดูถูกเหยียดหยามให้กับเด็กๆ ที่เป็นกำพร้าหรือเด็กๆ ที่พ่อแม่มีปัญหาชีวิตรุมเร้า แล้วก็ต้องรับส่งต่อปัญหามาด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งๆ ที่เด็กๆ ไม่ได้เลือก
คนเรามีข้อจำกัดในชีวิตที่แตกต่างกัน ถูกหล่อหลอมมาไม่เหมือนกัน แน่นอนคนที่เกิดในครอบครัวอบอุ่น กินอิ่มนอนหลับทุกวัน มีคนที่รักอยู่ใกล้ๆ ในช่วงเวลายากลำบาก อาจจะไม่เข้าใจเด็กๆ ที่ต้องเติบโตในชุมชนแออัดที่มองไปทางไหนก็มีแต่ปัญหาสังคมเต็มไปหมด
แต่ถึงไม่เข้าใจ ก็ไม่ดูถูกดูแคลนกันได้ไหม คุณด่าคนๆ นึงเพราะอยากให้คนๆ นั้นเจ็บปวด แต่คนที่เจอกับบทบริบทที่เลือกไม่ได้มันมีอีกจำนวนมหาศาล มองไม่เห็นปัญหาในสังคมไม่เป็นไร แต่อย่าทำตัวเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา สังคมจะน่าอยู่ขึ้นอีกมากค่ะ
ส่งกำลังใจให้คนที่เจอบริบทในชีวิตคล้ายๆ กัน เวลาอ่านอะไรทำนองนี้แล้วรู้สึกทริกเกอร์ในใจ ก็ให้นึกว่า ชีวิตกากๆ อย่างเรายังอยู่มาจนมีวันนี้ได้ ใครๆ ก็ทำได้ทั้งนั้น มีแค่ตอนเกิดที่เลือกไม่ได้ แต่หลังจากนั้นเรากำหนดเอง
ปล. เรื่องนี้แม้จะไม่เอ่ยอ้างชื่อดิฉันสักคำ แต่คนอ่านแทบทุกคนก็รู้ดีว่าหมายถึงใคร ดูได้จากคอมเม้นทุกคนก็เข้าใจตรงกัน การกระทำเช่นนี้อาจจะหลักหนีกฎหมายไปได้
ไอซ์ไม่ได้มีทัศนคติไม่ได้กับอาชีพ sex worker แต่เพื่อความเป็นธรรมกับพ่อและแม่ ไอซ์ขอยืนยันว่า เค้าไม่ได้ทำอาชีพอะไรแบบที่บุคคลคนนี้กล่าวหา
คนที่กระทำตัวเช่นนี้แล้วมักอวดอ้างว่าทำเพื่อปกป้องสถาบัน เคยถอดบทเรียนบ้างไหมว่า พฤติกรรมเช่นนี้มันส่งผลดีอย่างไรกับสิ่งที่คุณรักและหวงแหนบ้างไหม“
·
‘ไอซ์ รักชนก’ ถึง ผู้บริหาร-ศิษย์เก่า-ศิษย์ปัจจุบัน ‘นิด้า’ ปม ‘ดร.อานนท์’
วันที่ 29 ธ.ค.68 นางสาวรักชนก ศรีนอก อดีต สส.กทม.พรรคประชาชน โพสต์ถึงข้อคงามของ รศ.ดร.อานนท์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
”นี่คือสิ่งที่ต้องเจอทุกวันๆ ตั้งแต่เป็นนักการเมือง อย่างเบาหน่อย ก็ด่าว่าเป็นสก๊อย เด็กไม่มีพ่อไม่มีแม่ บ้างก็กล่าวหาว่าเป็นกระหรี่ เป็นเด็กเสี่ย หรือเป็นเมียน้อยใครสักคน มีการเอารูปไปตัดต่อให้เสื่อมเสียพร้อมคำเหยียดหยามสาระพัด ใช้ AI ทำเป็นคลิปอนาจาร สร้างข่าวปลอมมาใส่ร้ายป้ายสีทุกวัน หนักขึ้นมาหน่อยก็โดนฟ้อง ฟ้องปิดปาก ถูกขู่ ถูกคุกคาม ถูก sexual harassment ทั้งท่าทีและคำพูด และไม่นานมานี้ก็ถึงขั้นถึงตัวทำร้ายร่างกาย
ล่าสุดลามไปกล่าวหาบุคคลอื่นๆ ในครอบครัว ไม่เข้าใจว่าคุณมีสิทธิ์มากล่าวหาพ่อแม่คนอื่นได้เป็นเรื่องราวขนาดนี้ได้ยังไง
ทุกคนได้อ่านข้อความนี้แล้ว ทุกคนรู้สึกยังไงบ้างคะ ?
สิ่งที่เราคิดคือ ทำไมกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มคนรักสถาบัน ถึงได้กล้าพฤติกรรมที่น่ารังเกียจทุกรูปแบบกับคนอื่นโดยอ้างความจงรักภักดี คุณจะไม่ชอบนักการเมืองคนไหน การวิพากษ์วิจารณ์ด่าทอทำได้เต็มที่กับบุคคลนั้นๆ
แต่ถึงขึ้นกล่าวหาพ่อแม่คนอื่นด้วยถ้อยคำเหยียดหยามลดทอนคุณค่าแบบนี้ ตัวดิฉันเองที่เติบโตมาในสังคมที่แย่มากๆ ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน อย่างที่ผู้โพสต์กล่าวหา ยังไม่คิดทำอะไรแบบนี้กับพ่อแม่ใครเลย
ดิฉันสนับสนุนหลักการ เรื่อง free speech เสมอมา แต่อันนี้มันเข้าข่ายเป็น hate speech ทำไมคนที่แอบอ้างตัวเองว่ารักสถานบันกว่าใคร และต้องการปกป้องสถาบัน ถึงเลือกใช้วิธีลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนที่เห็นต่าง แทนที่จะถกเถียงกันด้วยวิธีอย่างคนที่ได้รับการอบรมมาบ้างแล้วใช้กัน เถียงด้วยเหตุผล หักล้างกันด้วยตรรกะ
สุดท้ายดิฉันมีกลุ่มคนที่อยากสื่อสารด้วย อยู่ 3 กลุ่ม
1)ผู้บริหาร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ - NIDA
ที่ผ่านมาดิฉันเข้าใจดี ว่าสถาบันเป็นกลางทางการเมือง และ ไม่ได้ห้ามให้บุคลากรของสถาบันแสดงความเห็นต่างๆ ทางการเมืองในช่องทางต่างๆ และสื่อสาธารณะซึ่งเป็นเรื่องน่ายกย่อง
แต่อยากถามว่า สถาบัน NIDA มีจุดยืนอย่างไร กับการลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ หรือ การนำเอาทรอม่า หรือ เรื่องราวในบางชีวิตของบุคคลอื่น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่ได้ผ่านมากันอย่างง่ายๆ มาพูดในเชิงด้อยค่า สถาบัน NIDA สนับสนุนพฤติกรรมที่เป็นภัยคุกคามสังคมเช่นนี้หรือไม่ และสนับสนุนให้บุคลากรในสถาบันทำพฤติกรรมเช่นนี้ได้หรือไม่
2)ศิษย์เก่า และ ศิษย์ปัจจุบัน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ - NIDA
ดิฉันมีความเคารพทุกความเห็นทางการเมือง ท่านจะเป็นอนุรักษ์นิยมหรือเสรีนิยม จะสนับสนุนหรือไม่สนับสนุน ดิฉันก็เคารพทุกความหลากหลาย การวิพากษ์วิจารณ์กันที่ผ่านมา ไม่ว่าจะด้วยความสุภาพหรือใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดิฉันก็ไม่เคยคิดจะฟ้องร้อง เพราะการเสนอตัวมาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มันต้องโดนมากกว่าคนปกติเป็นธรรมดา แต่ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของสถาบัน NIDA ท่านมีความเห็นอย่างไร ที่มีบุคลากรของสถาบันอันทรงเกียรติ แสดงมีทัศนคติเช่นนี้ ซึ่งสถาบันนิ่งเฉยกับ hate speech และการด้อยค่าเพื่อนมนุษย์ ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรก
3)คนที่เกิดมาไม่พร้อม ไม่ว่าจะด้านไหนในชีวิตก็ตาม (เหมือนเรา)
คนเราเลือกเกิดไม่ได้ ถ้าเลือกได้เราทุกคนคงอยากเกิดมาในครอบครัวที่พร้อมทุกด้านและอบอุ่น ใครๆ ก็อยากมีครอบครัวอยู่ในชุมชนที่ไม่มีการใช้ความรุนแรง ไม่มีปัญหาสังคม เด็กๆ ได้ไปโรงเรียนดีๆ ก็คงไม่มีใครอยากเกิดมาพบเจอกับประสบการณ์วัยเด็กแย่ๆ คำดูถูกดูแคลน คำเหยียดหยาม เพื่อนๆ ที่โดนอะไรที่แย่กว่าตัวเราแต่เราไม่มีพลังความสามารถอะไรจะช่วยเหลือเค้าได้
ไม่มีใครผิดที่เกิดมาในครอบครัวที่ไม่ดีพร้อม ชาติกำเนิดอยู่ในสลัม เติบโตท่ามกลางปัญหาสังคม กว่าจะรอดได้แต่ละวันโคตรยากลำบาก คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกได้ว่าจะส่งต่อสังคมแบบไหนให้คนรุ่นถัดไป เราเลือกได้ว่าจะส่งต่อทัศนคติค่านิยมที่ตัดสินคนจากชาติกำเนิด ส่งต่อคำดูถูกเหยียดหยามให้กับเด็กๆ ที่เป็นกำพร้าหรือเด็กๆ ที่พ่อแม่มีปัญหาชีวิตรุมเร้า แล้วก็ต้องรับส่งต่อปัญหามาด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งๆ ที่เด็กๆ ไม่ได้เลือก
คนเรามีข้อจำกัดในชีวิตที่แตกต่างกัน ถูกหล่อหลอมมาไม่เหมือนกัน แน่นอนคนที่เกิดในครอบครัวอบอุ่น กินอิ่มนอนหลับทุกวัน มีคนที่รักอยู่ใกล้ๆ ในช่วงเวลายากลำบาก อาจจะไม่เข้าใจเด็กๆ ที่ต้องเติบโตในชุมชนแออัดที่มองไปทางไหนก็มีแต่ปัญหาสังคมเต็มไปหมด
แต่ถึงไม่เข้าใจ ก็ไม่ดูถูกดูแคลนกันได้ไหม คุณด่าคนๆ นึงเพราะอยากให้คนๆ นั้นเจ็บปวด แต่คนที่เจอกับบทบริบทที่เลือกไม่ได้มันมีอีกจำนวนมหาศาล มองไม่เห็นปัญหาในสังคมไม่เป็นไร แต่อย่าทำตัวเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา สังคมจะน่าอยู่ขึ้นอีกมากค่ะ
ส่งกำลังใจให้คนที่เจอบริบทในชีวิตคล้ายๆ กัน เวลาอ่านอะไรทำนองนี้แล้วรู้สึกทริกเกอร์ในใจ ก็ให้นึกว่า ชีวิตกากๆ อย่างเรายังอยู่มาจนมีวันนี้ได้ ใครๆ ก็ทำได้ทั้งนั้น มีแค่ตอนเกิดที่เลือกไม่ได้ แต่หลังจากนั้นเรากำหนดเอง
ปล. เรื่องนี้แม้จะไม่เอ่ยอ้างชื่อดิฉันสักคำ แต่คนอ่านแทบทุกคนก็รู้ดีว่าหมายถึงใคร ดูได้จากคอมเม้นทุกคนก็เข้าใจตรงกัน การกระทำเช่นนี้อาจจะหลักหนีกฎหมายไปได้
ไอซ์ไม่ได้มีทัศนคติไม่ได้กับอาชีพ sex worker แต่เพื่อความเป็นธรรมกับพ่อและแม่ ไอซ์ขอยืนยันว่า เค้าไม่ได้ทำอาชีพอะไรแบบที่บุคคลคนนี้กล่าวหา
คนที่กระทำตัวเช่นนี้แล้วมักอวดอ้างว่าทำเพื่อปกป้องสถาบัน เคยถอดบทเรียนบ้างไหมว่า พฤติกรรมเช่นนี้มันส่งผลดีอย่างไรกับสิ่งที่คุณรักและหวงแหนบ้างไหม“