วันจันทร์, ธันวาคม 29, 2568

บทเรียนความขัดแย้งกับกัมพูชา ควรจะเป็นสัญญาณเตือนให้ไทยต้องหันกลับมาทบทวนยุทธศาสตร์ชายแดนอย่างจริงจัง ไม่อย่างนั้น จะไม่มีใครเคารพยำเกรงไทยอีกต่อไป ทหารพม่าจะแข็งกร้าวกับไทยขึ้นหลังเลือกตั้ง และเราจะไม่ใช่พี่ใหญ่ในรอบบ้านอย่างที่เคยเป็นมาในอดีต


จับสายลับ
13 hours ago
·
ทหารพม่าจะแข็งกร้าวกับไทยขึ้นหลังเลือกตั้ง

ขอเขียนถึงพม่าหน่อย ไม่ได้เขียนมานานแล้ว

วันนี้เป็นวันแรกของการเลือกตั้งพม่าที่จะจัดขึ้นสามช่วง ไม่พร้อมกันทั่วประเทศ

หลังเลือกตั้งแล้วก็จะได้รัฐบาลใหม่เข้าบริหารประเทศ อย่างเร็วที่สุดก็คงเป็นช่วงเมษายน 2026

แต่ถามว่าการเลือกตั้งจะทำให้การสู้รบในพม่าสงบลงไหม คำตอบ 150% คือไม่มีทาง

มีนักการทูตโลกสวยจำนวนมากที่มองว่าการเลือกตั้งจะนำไปสู่เสถียรภาพในพม่า

ในทางตรงข้าม การสู้รบจะรุนแรงขึ้นและไม่มีทางที่ฝ่ายใดจะเอาชนะได้อย่างเด็ดขาด

ไทยจะต้องอยู่กับพม่าที่ไม่มีวันสงบไปอีกอย่างน้อย 5-10 ปี ไม่ต่างจากความสัมพันธ์กับเขมร

ที่แย่ยิ่งกว่า คือ หลังเลือกตั้ง กองทัพพม่าจะเดินหน้าปราบปรามชนกลุ่มน้อยต่อไปอย่างไม่ลดละเพื่อบีบให้เจรจาโดยใช้กลยุทธ์แบ่งแยกและปกครองเหมือนที่เคยทำมา

คำถามสำคัญ คือ ทหารพม่าเอาเงินถุงเงินถังมาจากไหนมากมายเพื่อใช้ซื้ออาวุธและโดรนไปปราบกลุ่มต่อต้าน

คำตอบอยู่ที่ทำไมการปราบสแกมเมอร์ชายแดนไทย-พม่าจึงไม่มีวันสำเร็จ และยิ่งย้ายฐานลึกเข้าไปข้างในเรื่อย ๆ

ทุนเทานั้นชื่นชอบระบบอำนาจนิยมมาก เพราะเคลียร์ง่าย จ่ายเงินให้ถูกคน ก็จบปัญหา

ในช่วง 5 ปีหลังการยึดอำนาจ กระเป๋าเงินของนายพลพอกพูนขึ้นมหาศาลจากธุรกิจสงครามและสแกมเมอร์

พูดอย่างตรงไปตรงมา ผู้นำชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่มก็อู้ฟู้ขึ้นเช่นกัน สงสารก็แต่คนหนุ่มสาวที่ต้องหนีเข้าป่าจับอาวุธ

ว่ากันว่าหลังเลือกตั้ง ทหารพม่าจะเล่นการเมืองชาตินิยมเพื่อเรียกคะแนนนิยมจากประชาชนชาวพม่า

เป็นเกมที่ทหารพม่าคุ้นเคยและใช้มาโดยตลอด เป้าหมายโจมตีก็คือชนกลุ่มน้อยกับต่างประเทศ

ต่างประเทศที่ว่าก็หนีไม่พ้นไทยกับสหรัฐฯ ที่ทหารพม่าจำฝังใจว่าสนับสนุนอาวุธให้กับชนกลุ่มน้อย

เพราะฉะนั้น ไทยจำเป็นต้องพร้อมรับมือท่าทีที่แข็งกร้าวมากขึ้นจน “เหลิง” ของผู้นำทหารพม่า

ที่สำคัญทหารพม่ารู้ดีว่าไทยไม่พร้อมรับศึกสองทาง จึงใช้โอกาสนี้ในการทำตามใจแบบไม่เกรงใจไทย เช่น การทิ้งระเบิดใกล้ชายแดนไทยจนส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนชายแดน หรือแม้กระทั่งการกล่าวโจมตีไทยออกสื่อ

โจทย์ความมั่นคงที่ไทยต้องตอบให้ได้ คือ เราจะจัดการความสัมพันธ์กับทหารพม่ายังไงในวันที่เขาไม่ต้องพึ่งพาเรา แต่มีจีน รัสเซีย หนุนหลัง

อำนาจต่อรองของไทยต่อพม่า จริง ๆ แล้วมีไม่น้อย แต่เราปล่อยให้ทหารพม่าใช้ก๊าซกับน้ำมันมาขู่เราตลอด

ความขัดแย้งกับกัมพูชาควรจะเป็นสัญญาณเตือนให้ไทยต้องหันกลับมาทบทวนยุทธศาสตร์ชายแดนอย่างจริงจัง

ไม่อย่างนั้น จะไม่มีใครที่เคารพยำเกรงไทยอีกต่อไป และเราจะไม่ใช่พี่ใหญ่ในรอบบ้านอย่างที่เคยเป็นมาในอดีต

การทูต การข่าว และการทหาร ต้องไปพร้อมกัน

ทุกวันนี้บางครั้งทหารก็ทำงานเหมือนนักการทูต นักการทูตก็ทำงานเหมือนพ่อค้า และหน่วยข่าวก็ทำงานเหมือนสื่อมวลชน

เป็นหน่วยความมั่นคงที่วิ่งตามไม่ทันเพจ Influencers บางรายที่สถาปนาตัวเองเป็นผู้กำหนด Narrative ของสังคมไทย

สิ่งนี้ต้องเปลี่ยน ถ้าหากเราไม่อยากตกขบวน และถูกใช้เป็นหมากของมหาอำนาจที่เดินตามเกมคนอื่นต้อย ๆ

พอมหาอำนาจเรียกให้ไปคุย เราก็ไปอย่างเชื่อฟัง เหมือนประเทศที่ไม่มีจุดยืนและอำนาจต่อรองใด ๆ

The Cold War is back. Those who fail to use it will be used by others.

สงครามเย็นกลับมาแล้ว ใครที่ใช้ประโยชน์จากมันไม่เป็น ก็จะกลายเป็นหมากของประเทศอื่น

https://www.facebook.com/photo/?fbid=122182941290449251&set=a.122121612692449251