วันอังคาร, ธันวาคม 23, 2568

ลือสะพัด มีข่าวว่า ปปช. อาจจะมีคำสั่งภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 "ชี้มูล" "คดี 44 สส." จากพรรคก้าวไกล ว่าน่าจะมีความผิดหรือไม่ ก่อนส่งให้ศาลฎีกาวินิจฉัยต่อไป


iLaw
5 hours ago
·
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า ป.ป.ช. จะมีคำสั่งใน "คดี 44 สส." จากพรรคก้าวไกล ในช่วงเดือนธันวาคม 2568 และถึงวันนี้ก็มีข่าวมาใหม่ว่า ป.ป.ช. อาจจะมีคำสั่งภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 ซึ่งหมายถึงคำสั่ง "ชี้มูล" ว่าน่าจะมีความผิดหรือไม่ ก่อนส่งให้ศาลฎีกาวินิจฉัยต่อไป

.
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ คือ เมื่อวันที่10 กุมภาพันธ์ 2564 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จากพรรคก้าวไกล 44 คน นำโดยพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นผู้นำชื่อที่หนึ่งรวบรวมสส. ในพรรคได้ 44 คน ซึ่งไม่ครบทุกคนที่อยู่ในพรรคขณะนั้น ยื่นเสนอชุดร่างกฎหมายคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิในกระบวนการยุติธรรมของประชาชน จำนวนห้าฉบับ รวมถึงร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ต่อประธานรัฐสภา ต่อมา 7 สิงหาคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ "ยุบพรรคก้าวไกล" เพราะเหตุที่เสนอร่างกฎหมายในเรื่องนี้

2 กุมภาพันธ์ 2567 มีคนตั้งเรื่องไปยื่นคำร้องต่อป.ป.ช.เพื่อให้ตรวจสอบและเอาผิดว่าด้วยเหตุฝ่าฝืน "มาตรฐานทางจริยธรรม" ต่อพรรคก้าวไกล และ สส.พรรคก้าวไกล 44 คน กรณีร่วมกันฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง ข้อ 5. ต้องยึดมั่นและธำรงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และ ข้อ 6. ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐและความสงบเรียบร้อยของประชาชน

หากป.ป.ช. ชี้มูลโดยเห็นว่า อดีตสส. เหล่านี้มีความผิดก็จะส่งเรื่องให้ศาลฎีกาเป็นผู้วินิจฉัยต่อไป หากพวกเขายังอยู่ในตำแหน่งสส. เมื่อศาลฎีการับเรื่องมา และพิจารณาเห็นว่ามีมูลให้สั่ง​ "รับฟ้อง" ก็จะเป็นเหตุให้พวกเขาต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว และหากศาลฎีกาพิจารณาเสร็จแล้ว ตัดสินว่าพวกเขามีความผิด ก็อาจถูกสั่งให้ตัดสิทธิทางการเมืองนานที่สุดคือ "ตลอดชีวิต" หรือตามแต่ศาลจะกำหนด และแน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อตำแหน่งทางการเมืองหรือจำนวนสส. ของพรรค

คนสำคัญที่เป็นว่าที่นายกฯ ของพรรคประชาชน คือ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ และศิริกันญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ต่างก็อยู่ในข่ายที่จะถูกป.ป.ช. ชี้มูลด้วย เหลือแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคอีกคนเดียวคือ วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหานี้

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ไม่มีสภาผู้แทนราษฎรและสส. ไม่มีใครปฏิบัติหน้าที่อยู่ จึงไม่มีเหตุที่ต้องสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเพื่อรอคำพิพากษา ทุกคนมีสถานะเป็นอดีตสส. และไม่ใช่ทุกคนที่กำลังจะลงสนามเลือกตั้ง มีว่าที่ผู้สมัครอย่างน้อย 14 คนที่ประกาศตัวจะไปต่อกับพรรคประชาชนในการเลือกตั้ง 8 กุมภาพันธ์ 2568 ทุกคนยังสามารถลงสมัคร หาเสียง เข้าสู่ตำแหน่งหลังการเลือกตั้งได้ ถูกเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีได้ จนกว่าศาลฎีกาจะมีคำสั่งรับฟ้อง หรือพิพากษา

ดูข้อมูลเต็มๆ เกี่ยวกับคดีนี้ได้ทาง https://www.ilaw.or.th/articles/52795

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1285432426963707&set=a.625664036273886