วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 21, 2565
แคมเปญชวนยกเลิกรถประจำตำแหน่ง หยุดเอาภาษีประชาชนไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
ชำนาญ จันทร์เรือง started this petition
“รถประจำตำแหน่ง คือ แหล่งกอบโกยของขุนนาง?”
อาจารย์สมชาย ปรีชาศิลปกุลได้โพสข้อความบนเฟซบุ๊คว่า “ในปัจจุบัน ข้าราชการระดับสูงตั้งแต่ระดับรองอธิบดี อธิบดี ขึ้นไป จะมีค่าตอบแทนรถประจำตำแหน่งแบบเหมาจ่ายให้เป็นรายเดือนในกรณีที่จะไม่ใช้รถของทางราชการ จะได้รับในอัตราเหมาจ่ายรายเดือนตั้งแต่ 25,400 ไปจนถึง 41,000 บาท ในตอนแรกที่มีการปรับเปลี่ยนมาเป็นการจ่ายเงินเป็นรายเดือนก็ด้วยเหตุผลสำคัญข้อหนึ่งก็คือ เพื่อประหยัดงบประมาณของรัฐที่ต้องใช้ไปในการจัดหาและดูแลรถประจำตำแหน่งที่ต้องใช้ไปเป็นจำนวนมาก
ผลสืบเนื่องที่ติดตามมาก็คือ ได้เกิดปรากฏการณ์ “หนึ่งหน่วยงานร้อยพันอธิบดี” หน่วยงานต่าง ๆ ก็พยายามที่จะเทียบตำแหน่งที่ไม่ใช่อธิบดีอันหมายถึงผู้บังคับบัญชาในระดับกรมให้มีตำแหน่งอธิบดีขึ้น ตุลาการและอัยการ คือหน่วยงานในลักษณะนี้ จะปรากฏตำแหน่งอธิบดีศาล อธิบดีอัยการ โน่นนี่นั่นโน่นมากมายเต็มไปหมด ไม่มีเหตุผลอะไรมากไปกว่าเพื่อให้ได้เงินค่าตอบแทนรถประจำตำแหน่งแบบเหมาจ่าย ไม่แน่ใจว่าเฉพาะตุลาการและอัยการ รวมกันแล้วมีข้าราชการระดับอธิบดีกี่ร้อยพันคน”
“ในภายหลัง ทางฝ่ายทหารก็รู้สึกว่าควรต้องมีการเทียบตำแหน่งในฝ่ายตนบ้าง จึงได้มีการเรียกร้องซึ่งเหตุผลก็ไม่ได้แตกต่างอะไรออกไป และนำมาสู่การทำให้ พ.อ. พิเศษ ได้ค่ารถประจำตำแหน่ง 25,400 บาท พลตรี 31,800 บาท และพลโทขึ้นไป 41,000 บาท” แล้วไทยมีนายพลในกองทัพอยู่กี่คนล่ะครับ?
ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ที่ว่าเงินสี่หมื่นบาทไม่ใช่จำนวนน้อย สำหรับข้าราชการทั่วไปที่จบปริญญาตรี เงินรายเดือนจำนวนนี้กว่าจะได้มาอาจต้องใช้เวลาทำงานมาไม่น้อยกว่า 20 ปี สำหรับคนหาเช้ากินค่ำ เงินนี้มากกว่าเงินที่ทั้งครอบครัวได้รับทั้งเดือน เบี้ยยังชีพคนชรา เงินอุดหนุนการศึกษา เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด สามก้อนนี้รวมกันต่อเดือน ยังน้อยกว่าค่ารถประจำตำแหน่งเสียอีก!
ผมจึงอยากชวนประชาชนลงชื่อ เรียกร้องให้รัฐบาลใช้เงินภาษีของประชาชนอย่างคุ้มค่า ด้วยการเรียกร้องให้มีการยกเลิกรถประจำตำแหน่งในหน่วยงานที่ไม่จำเป็น ให้นายกรัฐมนตรี และรัฐสภาซึ่งเป็นผู้อนุมัติงบของทุกหน่วยงาน และทุกหน่วยงานต้องชี้แจงแก่ประชาชนด้วยว่ารถที่มีในตำแหน่งมีเหตุผลและความจำเป็นเพียงใด
“คำถามสำคัญก็คือ หากเป็นตำแหน่งที่จำเป็นต้องมีการเดินทาง ออกพื้นที่ หรือใช้รถในการประชุมพบปะกับผู้คนหรือหน่วยงาน ก็คงมีความจำเป็นที่ต้องมีการใช้รถประจำตำแหน่ง แต่ขอโทษทีงานหลายงานไม่ได้มีภารกิจในแบบนั้น กรณีผู้พิพากษาก็ไปทำงานที่ศาลเป็นหลัก ร้อยวันพันปีกว่าจะเห็นออกเดินเผชิญสืบ (ระยะหลังแทบไม่ได้ยินเลย) แถมบางที่บ้านพักก็อยู่ข้างหลังที่ทำงาน ไอ้แบบนี้ไม่จำเป็นต้องมีการใช้รถประจำตำแหน่งมิใช่หรือ
หรือถ้าเทียบเคียงแค่ตำแหน่งระดับสูง ถ้าแบบนี้บรรดาศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ ซึ่งก็เทียบเคียงได้ในระดับเดียวกันกับชั้นนายพลก็ควรได้รับค่ารถประจำตำแหน่งด้วยมิใช่หรือ แต่แน่นอนว่าคนกลุ่มนี้ไม่ควรได้อย่างแน่นอน เพราะก็ทำงานสอนอยู่ในมหาวิทยาลัยเป็นหลัก หากจะทำวิจัยก็มักมีงบประมาณสนับสนุนอยู่แล้ว ก็เหมือนกันกับบรรดาขุนศึก ตุลาการ นั่นแหละ ที่ไม่ควรได้รับเงินจำนวนนี้”
ดังนั้น ก่อนจะบอกว่าไม่มีเงินพัฒนาการศึกษา สวัสดิการ หรือพัฒนาความเป็นอยู่ของคนจริงๆ รัฐต้องหยุดเอาภาษีไปถลุง ใช้อุ้มคนในตำแหน่ง แบบ “อีหลุ่ยฉุยแฉก” ก่อนครับ สำหรับผม หน่วยงานที่มีความจำเป็นจริงๆ ควรมีแค่รถประจำหน่วยงานก็เพียงพอแล้ว เป็นของส่วนกลางเหมือนรถบริษัทที่แบ่งกันใช้ ไม่ใช่เคลมเอาไปใช้เป็นส่วนตัวเพราะมีตำแหน่งนะครับ
----
หมายเหตุ: ที่มาของแคมเปญนี้มาจากโพสต้นเรื่องของอาจารย์สมชาย ปรีชาศิลปกุล ซึ่งได้รับทราบและยินยอมให้ผมนำมาใช้แล้วครับ คลิกดูโพสต้นทางได้ที่นี่
ที่มาของรูป จากข่าวมติชน https://www.matichon.co.th/politics/news_3460319
ท่านสามารถเข้าร่วมได้ที่นี่