ประยุทธ์ว่าอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรก “ไม่ต่างกันเท่าไหร่” กับครั้งที่แล้ว ใช่สิ ในเมื่อ ‘แบบบทของแม่ (ง) ช่างหยดช่างย้อย’ ในการ ‘เหน็บแนมแกมประชด’ อดีตนายกฯ “ว่าดีกว่าผมไม่เป็นไรครับ ก็เอากลับมาให้ได้ก็แล้วกัน”
ไม่ต่างก็ตรงที่มี ‘งูเห่ากินกล้วย’ ช่วยดันกันไปจนได้ ต่างแต่คราวนี้ไม่รอด ‘อายุขัย ๘ ปี’ การดำรงตำแหน่งนายกฯ ตาม รธน. ม.๑๕๘ ที่ วิษณุ เครืองาม ว่า “ชีวิตนี้เป็นได้แค่นี้” แม้ “เว้นวรรคแล้ว (มีใครมาช่วยขัดตาทัพ) จะกลับมาเป็นนายกฯ อีกไม่ได้”
ก็ยังไม่วาย เนติบริกรระดับคล้าสสิคแย้มว่า “ไปแก้รัฐธรรมนูญเอา เหมือนรัฐเซียกับจีนที่ทำให้ผู้นำกลับมาได้อย่าง วลาดีมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย” ครั้นถูกนักข่าวซักต่อ ก็การเมืองไทยนั้น แก้รัฐธรรมนูญกันได้บ่อยๆ มิใช่หรือ คำตอบวิษณุ “ไม่มีใครเขาทำให้หรอก”
อย่างนี้ ‘อยู่ไปก็ไล้ฟ์บอย’ นะตู่ จำเพาะอภิปรายคราวนี้พวกลิ่วล้อตัวเอ้โดนกันอาน ทั้ง ‘รับเหมาก่อสร้าง’ และ “จงใจทำให้เกิดสุญญากาศทางกฎหมายในการกำกับควบคุมการใช้กัญชา” เรื่องหลังนี่นอกจาก สุทิน คลังแสง เพื่อไทยแล้ว #ก้าวไกลก็จัดเต็ม
หมอวาโย อัศวรุ่งเรือง ถามอนุทินชัดๆ “สรุปแล้วท่านจะทำเพื่อการแพทย์จริงๆ รึเปล่า เพราะสิ่งที่ท่านพูดกับสิ่งที่ท่านทำมันไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่ ส้มตำใส่กัญชา ไก่ย่างกัญชา หมูยอกัญชา ลาบกัญชา เป็นตำรับยาสูตรไหน แพทย์แผนอะไร รักษาโรคอะไร”
ส่วน ชัยธวัช ตุลาธน Chaithawat Tulathon จี้กลางกบาล “อนุทินพูดนอกเรื่องไปเยอะ แต่ไม่ยอมตอบประเด็นหลัก” ว่าที่จริงสามารถเลื่อนวันปลดล็อคอออกไปก่อน รอให้กฎหมายกำกับเสร็จก็ได้ กลับทำตรงข้าม
“ทีตอนจะปลดล็อก ใช่อนุทินหรือเปล่าที่เสนอเรื่องให้คณะ กก. ปปส. พิจารณา...เหตุผลที่แท้จริงก็คือต้องการให้เกิดสุญญากาศทาง กม.นั่นแหละ เพราะต้องการระบายของ” และว่ากฎหมายควบคุมสมุนไพรทั้งหมด เวลานี้ไม่มีความหมาย
“เพราะไม่สามารถขอใบอนุญาตที่ออกแบบมาเพื่อใช้ปกป้องสมุนไพรควบคุม (ไม่ใช่ปกป้องประชาชน) ได้แน่นอน” ผิดผีผิดไข้ไปหมดเท่านั้นไม่พอ ด้าน ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เจอ ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ขุด ‘นอมินี’ ขึ้นมาชักลอก
“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เขาเลือกที่จะหานอมินีมาถือหุ้นของตัวเองใน หจก.บุรีเจริญ แล้วขึ้นเป็นรัฐมนตรี แล้วก็นำบริษัทของตัวเองมารับงานกระทรวงคมนาคม มีแต่ได้กับได้...ถึงบริษัทจะขาดทุนและเป็นหนี้อยู่เป็นร้อยล้าน แต่ก็เป็นหนี้คนในครอบครัว”
เท่านั้นไม่พอ รมว.พรรคลูกไล่ของรัฐบาลประยุทธ์ เช่น จุติ ไกรฤกษ์ รมว. พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อดีตเลขาธิการ ปชป.ก็โดนเฉ่งหนัก “แม้แต่คนในพรรคประชาธิปัตย์บางคนก็ไม่ยกมือให้” ดัง Thanapol Eawsakul ฟันธง “ไม่รอด”
ก่อน ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.จะเปิดอภิปรายเรื่องทุจริตในการเคหะฯ นายไชยยศ จิระเมธากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป. ก็ “เปิดประเด็นจะใช้เอกสิทธิ์ ส.ส. ไม่ยกมือให้รัฐมนตรีของพรรค” อ้างว่าปี ๖๒ เลขาฯ ยืมเงินตนโดยสัญญาจะจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์
“ให้อยู่ในลำดับต้นไม่เกิน ๑๒ แต่กลับจัดให้ตนอยู่ลำดับที่ ๒๘ ซ้ำยังมีการนำรายชื่อคนอื่นที่มาใหม่ มาแทรกใส่ลำดับตัดหน้าตน” ถามว่าทำไมก็ตอบไม่ได้ แบบนี้ไม่ตรงกับ รธน.ที่ว่า “คนที่เป็นรัฐมนตรี ต้องมีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์”
(https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/pfbid02Qihe, https://www.facebook.com/MoveForwardPartyThailand/posts/pfbid0onrX และ https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/posts/pfbid02ZXhK9)