ไม่ไหวจริงๆ แล้วหนา ไม่เพียงต้าน #ตั๋วพระ ‘เฟมมินิสต์ปลดแอก’ เปลือย ๕ อย่าง รวมทั้ง “ปฏิรูปของต้องห้าม...ไม่ให้ใครเห็นแล้วน่าเกลียด”

มันมาถึงจุดที่หยุดไม่ได้ ไม่ไหวจริงๆ แล้วหนา ทั้งภาคส่วนสงฆ์ และเยาวชนคนรุ่นใหม่ ไปต่อไม่ยินยอมหรือยินดีให้ยื้อ ไม่เพียงต้าน ปฏิบัติการ #ตั๋วช้าง ซึ่งก้าวล้ำมาถึง #ตั๋วพระ ที่ผู้ถือเพศบรรพชิตนับพันทั่วประเทศ พร้อมใจแสดงพลัง

“แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เข้าเยี่ยมพระที่ถูกปลดในจังหวัดปทุมธานี” แถม “ที่จังหวัดกาฬสินธุ์มีการเปิดแพลตฟอร์มลงชื่อคัดค้านการปลดพระนับแสนรายชื่อ โดยมีชาวบ้านมาต่อแถวลงชื่อ และอีกส่วนหนึ่งลงชื่อทางออนไลน์”

พร้อมทั้งบางส่วนร่วมแรง “แห่ชูป้ายคัดค้านคำสั่งของนายใหญ่ที่...สาระแนอยากคุมวงการสงฆ์” เพจ คณะก้าวไกล โดย Sangkam Supunnika เค้าว่านั่นคือการ “ต้านระบอบกามตัณหา ปลุกคนไทยตาสว่างทั้งแผ่นดิน” เมื่อเกิดการ ‘รัฐประหารวงการสงฆ์’ เมื่อเร็วๆ นี้

อัน “ส่งผลให้ศาสนจักรแตกแยกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ” เนื่องจาก “การแต่งตั้งพระตามอำเภอใจ ไม่ต่างจากการแต่งตั้ง-ติดยศให้เมีย” ตั้งแต่แต่งตั้งเจ้าอาวาสไปถึงสังฆราช เพราะ “ตำแหน่งพระมีเงินเดือนที่มาจากภาษีประชาชนเรียกว่า เงิน ‘นิตยภัต’

...ทั้งยังมีกฎหมายปิดปากพระ คุกคามข่มขู่เอาผิดหรืออาจถึงขั้นจับสึก หากพระพูดความจริง หรือออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม หรือแม้แต่การตั้งคำถาม” ปิดท้ายบอกว่าถ้าไม่เชื่อ “ลองไปถาม ‘บิ๊กแดง’ กับ ‘บิ๊กแป๊ะ’ ดูว่าทำไมจึงไปบวชอยู่วัดเดียวกัน หลังลงจากตำแหน่งผู้บัญชาการ”

แล้วยังการชุมนุมประท้วงเชิงสัญญลักษณ์อันหลากหลายวิธีการและสีสัน หลังสุด ๙ ตุลาเป็นรายการของกลุ่ม ‘เฟมมินิสต์ปลดแอก’ เรียกว่า ‘ขบวนกี วีสี่’ จัดม็อบเปลือย (จิตวิญญานประชาธิปไตย) ด้วยจุดยืน ๕ ประการ อันได้แก่

๑.เปลือยอคติสวัสดิการทางเพศ ๒.เปลือยจารีตการสมรสให้เท่าเทียม ๓.เปลือยกฎหมายปิดปาก (ม.๑๑๒) ๔.เปลือยปฏิรูปของต้องห้ามที่เรียก ‘กษัตริย์’ และ ๕.เปลือยรัฐธรรมนูญปิตาธิปไตยให้เป็นสีรุ้ง เหล่านั้นห้อยท้ายข้อเรียกร้อง

ยืนหยัดขาดไม่ได้คือเป้าหมายสูงสุด ๓ อย่างของเหล่าเยาวชน ๑.ไล่ ‘ประยุทธ์’ ออกไป ๒.แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นของประชาชน และ ๓.ปฏิรูปปรับปรุงสถาบันกษัตริย์ ไม่ให้ใครเห็นแล้วน่าเกลียด

การชุมนุม “เต็มไปด้วยกิจกรรมที่มากด้วยสีสันและความหลากหลาย” เริ่มด้วยการแสดง ‘แดร๊กควีน’ ที่สีลม แล้วเคลื่อนขบวนผ่านราชประสงค์ไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นอกจากการปราศรัยของตัวแทนภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งแรงงานและเพศสภาพ

คราวนี้มีเยาวชนวัย ๑๗ ปี นาม ‘มิมี่ ปากแจ๋ว’ ประกาศกร้อนผมจนกว่าเผด็จการจะหมดไป “ผมของหนูน่ะค่ะ มันขึ้นใหม่ได้นะ แต่ชีวิตคนที่เสียไปมันเอากลับคืนมาไม่ได้” เธอว่าขณะผองเพื่อนช่วยกันตัดผมยาวเหยียดออกจนกระทั่งถึงเกรียน

“แต่ #เสียดายยังไม่ได้ (ถึง) เปลือย ช่วงหัวค่ำได้มีเหตุสุดวิสัยให้ต้องยุติการชุมนุมกะทันหัน” เวลาราวหนึ่งทุ่ม “มีเสียงดังเกิดขึ้นบริเวณแยกผ่านฟ้า” แล้ว “ต่อมา ๑๙.๑๕ น. มีการตั้งขบวนของตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ. บริเวณแยกเทวกรม)”

แถลงการณ์ในเพจเฟมินิสต์ปลดแอกระบุ “เราเห็นว่ามีความพยายามให้ คฝ. เข้ามาสลาย เราจึงต้องประกาศยุติเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของมวลชน” เออนะ พวกเขาไม่ได้เหี้ยนกระหือรือเหมือนดั่ง ‘กองกำลัง’ ที่ว่ากันว่าเป็นของผู้มากด้วย ‘กามราคะ’

(https://www.facebook.com/watch/?v=382619196876472, https://www.facebook.com/groups/225550657843210=1409891376075793 และ https://www.facebook.com/groups/225550657843210=1407176469680617)