![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj95YEsAlLWbdGxuAz-KvV9KBBPjQGE57shp6i-fBbJrZENgk0j3Fp4S0C-1DAUqmGirjJyAzP8_gQ-xck1WxX5E_-Ag5CXbdwg34hSyvTdimEDCnQtLm3mUEYTVxyAyCb9rkcNag/s400/14980648_542497912613110_704363507369838930_n.jpg)
จำนำยุ้งฉาง "ศรีธนญชัยจนตรอก"
การรับจำนำยุ้งฉางข้าวเปลือกหอมมะลิที่ตันละ 13,000 บาท ก็คือการแทรกแซงตลาดด้วยการรับจำนำแบบที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์เคยทำ เพียงแต่เปลี่ยนสถานที่เก็บข้าวจากโกดังกลางมาเก็บไว้ที่ยุ้งฉางของชาวนาที่ถูกสร้างขึ้นตามมีตามเกิดกระจายอยู่ทั่วภูมิภาคประมาณ 200,000 แห่ง (ตามภาพถ่ายยุ้งฉางที่แชร์มา) เก็บข้าวเปลือกได้ประมาณ 1 ล้านตัน โดยปีนี้คาดว่าจะมีผลผลิตประมาณเกือบ 10 ล้านตัน
การรับจำนำยุ้งฉางเคยทำมาแล้วแต่ถูกยกเลิกไปเพราะเกิดความเสียหายมาก เช่น (1) สถานที่ตั้งยุ้งฉางที่กระจัดกระจายถึง 200,000 แห่ง จึงไม่มีเจ้าหน้าที่และเครื่องมือเพียงพอที่จะใช้ตรวจสอบคุณภาพ วัดน้ำหนักและความชื้นของข้าวเปลือกที่รับจำนำในช่วงเวลาที่จำกัด (2) ชาวนาไม่มีเครื่องมือในการดูแลรักษาคุณภาพข้าวเปลือกระหว่างอายุการรับจำนำ (3) ยุ้งฉางไม่ได้ถูกสร้างตามมาตรฐานของโกดังเก็บสินค้า จึงไม่อาจรักษาคุณภาพ ความชื้นและน้ำหนักของข้าวเปลือกซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายมหาศาล (4) ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะเรียกร้องจากใครไม่ได้เพราะชาวนาไม่มีหนังสือค้ำประกันของธนาคารมาประกันความเสียหาย เว้นแต่รัฐบาลจะกล้าโยนความผิดใส่ชาวนาเหมือนที่ทำกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และ (5) มีคนสนใจน้อย โดยเมื่อปีการผลิต 2557/2558 มีปริมาณข้าวที่มาจำนำเพียง 4.5 แสนตัน ชะลอการออกสู่ตลาดได้เพียงร้อยละ 5 ของปริมาณข้าวทั้งหมดจึงไม่เพียงพอที่จะรักษาเสถียรภาพราคา มาตรการที่ออกมาจึงทำแบบเลี่ยงบาลีชนิดเสียไม่ได้แบบที่เรียกว่า "ศรีธนญชัยจนตรอก" แต่จะไม่ได้ผล อีกทั้งไม่ทั่วถึงเพราะยังไม่มีมาตรการช่วยเหลือชาวนาภาคกลางและภาคเหนือที่ผลผลิตกำลังจะออกสู่ตลาด
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgHA56xBTpQxW0jw4X6v1hDCiPP7mLMWuP67bICWM2wIAWOaUnlYiXtocr9k-SlTko9cgSweoA9-FA8HeW_X2y3to3FVIFYhRYhpx5nADjxf3Uh80k85n0RMQ1ti718pHkVaeucwg/s400/14900332_542497942613107_6890795381549419013_n.jpg)
รัฐบาลนี้เคยกล่าวหารัฐบาลยิ่งลักษณ์ว่ากำหนดราคารับจำนำสูงกว่าราคาตลาดอันเป็นความผิด จึงเลี่ยงบาลีโดยแยกราคารับจำนำออกเป็นค่าข้าว 9,500 บาท ค่าเก็บเกี่ยว 2,000 บาท และค่าฝากเก็บ 1,500 บาท แต่ที่จริงก็คือการรับจำนำที่ตันละ 11,500 บาท (ไม่รวมค่าฝากเก็บ) ในขณะที่ราคาตลาดของโรงสีรับซื้อข้าวเปลือกที่ความชื้น 28-29% ตันละ 6,500 บาท เมื่อหักทอนค่าความชื้นให้เหลือ 15% เท่าที่รัฐบาลรับจำนำ ราคาตลาดจะตกประมาณตันละ 8,000 บาท ดังนั้น ราคาที่รัฐบาลนี้รับจำนำจึงสูงกว่าราคาตลาดถึง 3,500 บาท หรือสูงกว่า 44% ซึ่งไม่ต่างจากที่เคยกล่าวหารัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่ไม่ได้หมายความว่าการช่วยชาวนาด้วยการให้ราคาสูงกว่าราคาตลาดเป็นความผิด เพียงแต่หน่วยงานที่เคยตักเตือนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เช่น สตง. หรือ ป.ป.ช. อย่าได้สองมาตรฐานเท่านั้น ขอย้ำว่าพรรคเพื่อไทยสนับสนุนการช่วยเหลือเกษตรกร มีความเห็นอกเห็นใจชาวนาจึงไม่เคยเอาทุกข์ยากของชาวนามาเล่นการเมืองเหมือนที่รัฐบาลนี้และสมุนเผด็จการทำ ก็ขนาดอดีตนายกหญิงลงไปให้กำลังใจชาวนายังถูกท่านนายพลแห่งกองทัพไทยกระแนะกระแหนโดยไม่อายเครื่องแบบที่สวมอยู่ นายบ่าวช่างออกมาจากพิมพ์เดียวกันจริงๆ
วัฒนา เมืองสุข
พรรคเพื่อไทย
4 พฤศจิกายน 2559
![](https://scontent.ford1-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-1/p50x50/13912888_504256983103870_1743846479833909613_n.jpg?oh=5d0dea8105de26498f3cab2d41ce5c59&oe=58D3E679)
Watana Muangsook