The Active
10 hours ago
·
“เดินเท้าเข้ากรุง เปลี่ยน อนาคต” ภาค ปชช.หวัง สสร.เลือกตั้งเขียนรัฐธรรมนูญ
.
ผลกระทบจากโครงการพัฒนาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โครงการขนาดใหญ่ การทำเหมืองแร่ การระเบิดหิน ปัญหาเกิดจากการดำเนินโครงการเหล่านี้ รัฐธรรมนูญกำหนดให้อำนาจในการจัดการทรัพยากรแรกเป็นของรัฐ เสียงของประชาชนในพื้นที่จึงกลายเป็นเสียงที่ไร้ความหมายอย่างสิ้นเชิง
.
กระบวนการมีส่วนร่วมถูกทำให้เป็นแค่พิธีกรรม ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้มีอำนาจใด ๆ มีเพียงความคิดเห็นแต่ไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจ นี่คือปัญหาที่ใหญ่มากของรัฐธรรมนูญ
.
นี่คือเหตุผลที่ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) พร้อมเครือข่ายภาคประชาชน ออกเดินเท้าเข้ากรุง ผ่านกิจกรรม #เดินเปลี่ยนอนาคต จาก อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา สู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย รวม 6 วัน 55 กิโลเมตร พร้อมแถลงการณ์ร่วม หวังเห็นรัฐธรรมนูญที่เขียนโดย สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเท่านั้น เพื่อทวงคืนอำนาจกลับคืนสู่ประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของอำนาจ ใครเขียนก็มักเพื่อประโยชน์ให้กับชนชั้นนั้น
.
.
อ่านเนื้อหาเพิ่ม https://theactive.thaipbs.or.th/.../social-movement-20251206

“เดินเท้าเข้ากรุง เปลี่ยน อนาคต” ภาค ปชช.หวัง สสร.เลือกตั้งเขียนรัฐธรรมนูญ
6 ธันวาคม 2025
The Active

“การเมืองสร้างโศกนาฏกรรมและภัยพิบัติ เพื่อสร้างละครคุณธรรมเข้าไปช่วยเหลือ และทำให้ประชาชนเป็นหนี้สำนึกในบุญคุณ ทั้ง ๆ ที่ประชาชนคือผู้สร้างการเมือง มิใช่การเมืองสร้างประชาชน ไม่ต่างจากที่ประชาชนต้องการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ด้วย สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด แต่การเมืองกีดขวาง ให้เราได้แค่กรรมาธิการที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน”
เครือข่ายภาคประชาชน จึงเดินเพื่อสะสมชัยชนะ เดินเปลี่ยนอนาคต เดินฝ่าสิ่งกีดขวางทางการเมือง ด้วยความหวังว่า จะเห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เขียนโดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเท่านั้น เพราะรัฐธรรมนูญที่ดี คือรัฐธรรมนูญที่เขียนด้วยมือและเท้าของประชาชน
จุฑามาส ศรีหัตถผดุงกิจ ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน หนึ่งในผู้ร่วมเดิน กล่าวว่า เครือข่ายภาคประชาชนจากหลายภาคส่วนที่ได้มารวมตัวกันเพื่อเดินเปลี่ยนอนาคต เดินเพื่อเรียกร้องให้เกิดการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ และยังคงยืนยันว่า สสร. ตัวแทนที่เข้าไปดำเนินการร่างรัฐธรรมนูญต้องมาจากการเลือกตั้ง 100% นี่คือจุดยืนของประชาชนที่ไม่อาจถอยได้
“รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของอำนาจใครเขียนรัฐธรรมนูญก็มักจะเพื่อประโยชน์ให้กับชนชั้นและพวกพ้องของตัวเอง การเดินทางนี้คือการทวงคืนอำนาจเพื่อให้กลับคืนสู่ประชาชน”

กล่าวคือผู้ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาของรัฐในรูปแบบต่างๆ เช่น การทำเหมืองแร่ กำลังสร้างผลกระทบให้เกิดขึ้นในหลายหลายพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือที่กำลังได้รับผลกระทบจากเหมืองถ่านหินลิกไนต์ หรือกรณีการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ ที่ส่งผลกระทบต่อแม่น้ำโขงที่ทำให้พี่น้อง เชียงราย เชียงใหม่ กำลังได้รับผลกระทบ
หรือทางภาคอีสานตอนนี้มีกรณีปัญหาของเหมืองหินที่มีการใช้ การระเบิดหิน เพื่อเอาทรัพยากรและสร้างผลกระทบให้กับพ่อแม่พี่น้องในพื้นที่ และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญก็คือประเด็นเหมืองแร่โปแตช ที่ตอนนี้มีการดำเนินการอยู่ที่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
ปัญหาของการดำเนินการของโครงการแร่เหล่านี้เกิดจากการที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดให้อำนาจในการจัดการทรัพยากรแรกเป็นของรัฐ เสียงของประชาชนในพื้นที่จึงกลายเป็นเสียงที่ไร้ความหมายอย่างสิ้นเชิง
จุฑามาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมากระบวนการมีส่วนร่วมถูกทำให้เป็นแค่พิธีกรรม ประชาชนชาวบ้านในพื้นที่ไม่ได้มีอำนาจใด ๆ มีเพียงความคิดเห็นแต่ไม่ได้มีอำนาจด้านการตัดสินใจ นี่คือปัญหาที่ใหญ่มากของรัฐธรรมนูญ ฉะนั้น ต้องการคืนอำนาจการจัดการทรัพยากรให้กลับมาอยู่ในมือของประชาชน

https://theactive.thaipbs.or.th/news/social-movement-20251206
.....

คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน-กป.อพช.
December 3
·
เตรียมตัวมาออกเดินเท้าไปด้วยกัน 6-10 ธันวาคม 2568 #เดินเปลี่ยนอนาคต Walk to the Future มาเดินด้วยสองเท้าในฐานะประชาชนคนธรรมดา กับข้อเรียกร้อง #เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ #เลือกตั้งสสร
ทุกคนสามารถมากันได้เลยไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า
ไม่ต้องเป็นสมาชิกหรือสมัครเข้าร่วมที่ไหน
เริ่มวันแรกวันที่ 6 ธันวาคมเวลา 9.00 น. ที่สวนอาหารลุงนวย อำเภอวังน้อย เดินมาอีกไม่ไกลก็จะเป็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต
และนำการเตรียมตัวและการแต่งกายเข้าร่วมการเดิน
ช่วงนี้แม้อากาศเย็น มีลมหนาวเบาๆ แต่แดดก็ค่อนข้างแรง ควรเตรียมอุปกรณ์กันแดดมาด้วย
- แนะนำใส่เสื้อแขนยาว กันแดดเผาแขน
- ใส่หมวกปีกกว้าง กันแดดรอบทิศ
- รองเท้าผ้าใบคู่เก่ง ให้จัดมา
- และแนะนำให้เตรียมขวดน้ำมาเองด้วย
เราเดินประมาณ 3 กิโลเมตรแล้วจะมีการหยุดพัก ที่จุดพักอาจจะมีร้านค้า และมีน้ำจากส่วนกลางไว้บริการ จึงไม่ต้องห่วงว่าจะเดินไม่ไหว ยังมีรถของทีมสวัสดิการคอยดูแลถ้าหากใครไปยังไม่ถึงจุดพักทุก 3 กิโลเมตร
ถ้าสะดวกที่สุดไม่ควรนำรถส่วนตัวมาด้วยเพราะว่าจะต้องจอดตอนเริ่มเดิน เมื่อไปถึงปลายทางแล้วจะต้องย้อนกลับมาเอารถที่จอดทิ้งไว้ ถ้านั่งแท็กซี่มาเริ่มต้นด้วยกัน พอเดินไปถึงปลายทางแล้วก็นั่งแท็กซี่กลับน่าจะสะดวกกว่า จะได้ไม่ต้องห่วงรถที่จอดทิ้งไว้ตอนเดิน
https://www.facebook.com/photo/?fbid=705042909331218&set=a.101894969646018
“เดินเท้าเข้ากรุง เปลี่ยน อนาคต” ภาค ปชช.หวัง สสร.เลือกตั้งเขียนรัฐธรรมนูญ
.
ผลกระทบจากโครงการพัฒนาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โครงการขนาดใหญ่ การทำเหมืองแร่ การระเบิดหิน ปัญหาเกิดจากการดำเนินโครงการเหล่านี้ รัฐธรรมนูญกำหนดให้อำนาจในการจัดการทรัพยากรแรกเป็นของรัฐ เสียงของประชาชนในพื้นที่จึงกลายเป็นเสียงที่ไร้ความหมายอย่างสิ้นเชิง
.
กระบวนการมีส่วนร่วมถูกทำให้เป็นแค่พิธีกรรม ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้มีอำนาจใด ๆ มีเพียงความคิดเห็นแต่ไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจ นี่คือปัญหาที่ใหญ่มากของรัฐธรรมนูญ
.
นี่คือเหตุผลที่ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) พร้อมเครือข่ายภาคประชาชน ออกเดินเท้าเข้ากรุง ผ่านกิจกรรม #เดินเปลี่ยนอนาคต จาก อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา สู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย รวม 6 วัน 55 กิโลเมตร พร้อมแถลงการณ์ร่วม หวังเห็นรัฐธรรมนูญที่เขียนโดย สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเท่านั้น เพื่อทวงคืนอำนาจกลับคืนสู่ประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของอำนาจ ใครเขียนก็มักเพื่อประโยชน์ให้กับชนชั้นนั้น
.
.
อ่านเนื้อหาเพิ่ม https://theactive.thaipbs.or.th/.../social-movement-20251206
“เดินเท้าเข้ากรุง เปลี่ยน อนาคต” ภาค ปชช.หวัง สสร.เลือกตั้งเขียนรัฐธรรมนูญ
6 ธันวาคม 2025
The Active
Thai PBS
คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) พร้อมเครือภาคประชาชนหลายกลุ่ม เริ่มกิจกรรม เดินเปลี่ยนอนาคต จาก อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา สู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย รวม 6 วัน 55 กิโลเมตร พร้อมแถลงการณ์ร่วม หวังเห็นรัฐธรรมนูญที่เขียนโดยสมาชิกสภาร่าง (สสร.)ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเท่านั้น
วันนี้ (6 ธ.ค.2568) คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) พร้อมทั้งเครือข่ายประชาชนหลายกลุ่มหลายองค์กรร่วมกันเดินเท้าเข้ากรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 6 – 10 ธ.ค.68 เพื่อเรียกร้องการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยใช้ชื่อกิจกรรมว่า “เดินเปลี่ยนอนาคต Walk to the Future” ณ จุดเริ่มต้น อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมุ่งหน้าไปยังปลายทางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ซึ่งตรงกับวันรัฐธรรมนูญของไทย ระยะทาง 55 กิโลเมตร
ก่อนออกเดินคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) พร้อมเครือข่ายได้แถลงการณ์ร่วมกัน เปรียบเปรยว่า “เรา, ประชาชน คือ น้ำ การเมือง คือ สิ่งกีดขวางทางน้ำ”
คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) พร้อมเครือภาคประชาชนหลายกลุ่ม เริ่มกิจกรรม เดินเปลี่ยนอนาคต จาก อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา สู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย รวม 6 วัน 55 กิโลเมตร พร้อมแถลงการณ์ร่วม หวังเห็นรัฐธรรมนูญที่เขียนโดยสมาชิกสภาร่าง (สสร.)ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเท่านั้น
วันนี้ (6 ธ.ค.2568) คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) พร้อมทั้งเครือข่ายประชาชนหลายกลุ่มหลายองค์กรร่วมกันเดินเท้าเข้ากรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 6 – 10 ธ.ค.68 เพื่อเรียกร้องการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยใช้ชื่อกิจกรรมว่า “เดินเปลี่ยนอนาคต Walk to the Future” ณ จุดเริ่มต้น อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมุ่งหน้าไปยังปลายทางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ซึ่งตรงกับวันรัฐธรรมนูญของไทย ระยะทาง 55 กิโลเมตร
ก่อนออกเดินคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) พร้อมเครือข่ายได้แถลงการณ์ร่วมกัน เปรียบเปรยว่า “เรา, ประชาชน คือ น้ำ การเมือง คือ สิ่งกีดขวางทางน้ำ”

“การเมืองสร้างโศกนาฏกรรมและภัยพิบัติ เพื่อสร้างละครคุณธรรมเข้าไปช่วยเหลือ และทำให้ประชาชนเป็นหนี้สำนึกในบุญคุณ ทั้ง ๆ ที่ประชาชนคือผู้สร้างการเมือง มิใช่การเมืองสร้างประชาชน ไม่ต่างจากที่ประชาชนต้องการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ด้วย สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด แต่การเมืองกีดขวาง ให้เราได้แค่กรรมาธิการที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน”
เครือข่ายภาคประชาชน จึงเดินเพื่อสะสมชัยชนะ เดินเปลี่ยนอนาคต เดินฝ่าสิ่งกีดขวางทางการเมือง ด้วยความหวังว่า จะเห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เขียนโดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเท่านั้น เพราะรัฐธรรมนูญที่ดี คือรัฐธรรมนูญที่เขียนด้วยมือและเท้าของประชาชน
จุฑามาส ศรีหัตถผดุงกิจ ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน หนึ่งในผู้ร่วมเดิน กล่าวว่า เครือข่ายภาคประชาชนจากหลายภาคส่วนที่ได้มารวมตัวกันเพื่อเดินเปลี่ยนอนาคต เดินเพื่อเรียกร้องให้เกิดการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ และยังคงยืนยันว่า สสร. ตัวแทนที่เข้าไปดำเนินการร่างรัฐธรรมนูญต้องมาจากการเลือกตั้ง 100% นี่คือจุดยืนของประชาชนที่ไม่อาจถอยได้
“รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของอำนาจใครเขียนรัฐธรรมนูญก็มักจะเพื่อประโยชน์ให้กับชนชั้นและพวกพ้องของตัวเอง การเดินทางนี้คือการทวงคืนอำนาจเพื่อให้กลับคืนสู่ประชาชน”

กล่าวคือผู้ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาของรัฐในรูปแบบต่างๆ เช่น การทำเหมืองแร่ กำลังสร้างผลกระทบให้เกิดขึ้นในหลายหลายพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือที่กำลังได้รับผลกระทบจากเหมืองถ่านหินลิกไนต์ หรือกรณีการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ ที่ส่งผลกระทบต่อแม่น้ำโขงที่ทำให้พี่น้อง เชียงราย เชียงใหม่ กำลังได้รับผลกระทบ
หรือทางภาคอีสานตอนนี้มีกรณีปัญหาของเหมืองหินที่มีการใช้ การระเบิดหิน เพื่อเอาทรัพยากรและสร้างผลกระทบให้กับพ่อแม่พี่น้องในพื้นที่ และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญก็คือประเด็นเหมืองแร่โปแตช ที่ตอนนี้มีการดำเนินการอยู่ที่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
ปัญหาของการดำเนินการของโครงการแร่เหล่านี้เกิดจากการที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดให้อำนาจในการจัดการทรัพยากรแรกเป็นของรัฐ เสียงของประชาชนในพื้นที่จึงกลายเป็นเสียงที่ไร้ความหมายอย่างสิ้นเชิง
จุฑามาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมากระบวนการมีส่วนร่วมถูกทำให้เป็นแค่พิธีกรรม ประชาชนชาวบ้านในพื้นที่ไม่ได้มีอำนาจใด ๆ มีเพียงความคิดเห็นแต่ไม่ได้มีอำนาจด้านการตัดสินใจ นี่คือปัญหาที่ใหญ่มากของรัฐธรรมนูญ ฉะนั้น ต้องการคืนอำนาจการจัดการทรัพยากรให้กลับมาอยู่ในมือของประชาชน

https://theactive.thaipbs.or.th/news/social-movement-20251206
.....

คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน-กป.อพช.
December 3
·
เตรียมตัวมาออกเดินเท้าไปด้วยกัน 6-10 ธันวาคม 2568 #เดินเปลี่ยนอนาคต Walk to the Future มาเดินด้วยสองเท้าในฐานะประชาชนคนธรรมดา กับข้อเรียกร้อง #เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ #เลือกตั้งสสร
ทุกคนสามารถมากันได้เลยไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า
ไม่ต้องเป็นสมาชิกหรือสมัครเข้าร่วมที่ไหน
เริ่มวันแรกวันที่ 6 ธันวาคมเวลา 9.00 น. ที่สวนอาหารลุงนวย อำเภอวังน้อย เดินมาอีกไม่ไกลก็จะเป็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต
และนำการเตรียมตัวและการแต่งกายเข้าร่วมการเดิน
ช่วงนี้แม้อากาศเย็น มีลมหนาวเบาๆ แต่แดดก็ค่อนข้างแรง ควรเตรียมอุปกรณ์กันแดดมาด้วย
- แนะนำใส่เสื้อแขนยาว กันแดดเผาแขน
- ใส่หมวกปีกกว้าง กันแดดรอบทิศ
- รองเท้าผ้าใบคู่เก่ง ให้จัดมา
- และแนะนำให้เตรียมขวดน้ำมาเองด้วย
เราเดินประมาณ 3 กิโลเมตรแล้วจะมีการหยุดพัก ที่จุดพักอาจจะมีร้านค้า และมีน้ำจากส่วนกลางไว้บริการ จึงไม่ต้องห่วงว่าจะเดินไม่ไหว ยังมีรถของทีมสวัสดิการคอยดูแลถ้าหากใครไปยังไม่ถึงจุดพักทุก 3 กิโลเมตร
ถ้าสะดวกที่สุดไม่ควรนำรถส่วนตัวมาด้วยเพราะว่าจะต้องจอดตอนเริ่มเดิน เมื่อไปถึงปลายทางแล้วจะต้องย้อนกลับมาเอารถที่จอดทิ้งไว้ ถ้านั่งแท็กซี่มาเริ่มต้นด้วยกัน พอเดินไปถึงปลายทางแล้วก็นั่งแท็กซี่กลับน่าจะสะดวกกว่า จะได้ไม่ต้องห่วงรถที่จอดทิ้งไว้ตอนเดิน
https://www.facebook.com/photo/?fbid=705042909331218&set=a.101894969646018
https://theactive.thaipbs.or.th/news/social-movement-20251206
https://www.facebook.com/watch/?v=1387033676554575