วันเสาร์, ตุลาคม 04, 2568

ย้อนดูการต่อสู้ช่วงชิงความหมายคำว่า “เผ่ามังกรฟ้า” ในคดี ม.112 ของ “ครูใหญ่” สรุปแล้วเป็นการกล่าวพาดพิงกษัตริย์หรือไม่



ย้อนดูการต่อสู้ช่วงชิงความหมายคำว่า “เผ่ามังกรฟ้า” ในคดี ม.112 ของ “ครูใหญ่” สรุปแล้วเป็นการกล่าวพาดพิงกษัตริย์หรือไม่

03/10/2568
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

ในปี 2568 ในการชุมนุมทางการเมืองทั่วโลก เริ่มเกิดความเคลื่อนไหวนำธงโจรสลัด (Jolly Roger) จากการ์ตูนเรื่องวันพีซ (One Piece – ワンピース) หรือธงของโจรสลัดของกลุ่มหมวกฟาง (The Straw Hat Pirates – 麦わらの一味) ซึ่งเป็นกลุ่มตัวละครเอกมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหว เช่น ที่ปรากฏในการชุมนุมประท้วงที่อินโดนีเซีย ในประเด็นเงินช่วยเหลือค่าที่พักของสมาชิกรัฐสภา และเมื่อย้อนกลับไปในช่วงปี 2562 ที่ชิลีก็มีการนำธงโจรสลัดกลุ่มหมวกฟางมาใช้ในการชุมนุมแสดงออกถึงความไม่พอใจในการบริหารงานของรัฐบาลเช่นกัน

การ์ตูนเรื่องวันพีซ แต่งโดย เออิจิโร โอดะ (Eiichiro Oda – 尾田栄一郎) ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2540 ลงในนิตยสารโชเน็นจัมป์ (Weekly Shōnen Jump –

週刊少年ジャンプ) นิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งการ์ตูนที่ตีพิมพ์ลงในนิตยสารฉบับนี้ ล้วนกลายมาเป็นการ์ตูนฮิตระดับขึ้นหิ้งหลายเรื่อง เช่น ดราก้อนบอล (Dragonball -ドラゴンボール) นารูโตะ (Naruto – ナルト) และ บลีช (Bleach – ブリーチ) ซึ่งวันพีซนั้น ถือเป็นหนึ่งใน 3 การ์ตูนเสาหลักของจัมป์ เคียงคู่กับนารูโตะและบลีชมาตลอด จนปัจจุบันการ์ตูนสองเรื่องดังกล่าวอวสานไปแล้ว แต่เรื่องราวของวันพีซก็ยังคงดำเนินต่อไป โดยปัจจุบันวันพีซยังถูกตีพิมพ์อย่างต่อเนื่องมาแล้ว 28 ปี จนมีจำนวนตอนมากถึง 1,100 กว่าตอนในฉบับมังงะ มีฉบับรวมเล่มถึง 112 เล่ม

ในประเทศไทย การ์ตูนเรื่องวันพีซเคยตีพิมพ์รายสัปดาห์ในนิตยสารการ์ตูน ซีคิดส์ (C-Kids) (ปิดตัวไปแล้ว) และตีพิมพ์ฉบับรวมเล่มโดย สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้ได้รับความนิยมในไทยเป็นอย่างมากเช่นกัน ทั้งในกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่

ล่าสุด มีการเคลื่อนไหวในไทยที่นำธงโจรสลัดของกลุ่มหมวกฟางมาใช้ในกิจกรรม “ยืนหยุดขัง” 19 นาที 9 วินาที ในงานรำลึกเหตุการณ์ 19 กันยาฯ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2568 โดย กลุ่ม “ทอมแอนด์เจอรีและคณะโจรสลัด” โดยผู้จัดกิจกรรมได้มีการสวมหน้าการหนูและแมวจากการ์ตูนทอมแอนด์เจอรี (Tom and Jerry) พร้อมกับชูธงโจรสลัดกลุ่มหมวกฟางเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยผู้ต้องขังทางการเมือง เรียกร้องให้ประชาชนสามารถเลือก สสร. และร่างรัฐธรรมนูญใหม่ได้ทั้งฉบับ พร้อมเรียกร้องให้มีการยุบสภาภายใน 4 เดือนตามคำมั่นสัญญาของอนุทิน ชาญวีรกูล

แต่การเคลื่อนไหวทางการเมืองของไทยที่มีการนำการ์ตูนวันพีซ เข้ามาเป็นสัญลักษณ์และส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วงการชุมนุมปี 2563 ซึ่งมีผู้ปราศรัยบางคนนำเนื้อหาของการ์ตูนเรื่องนี้ไปกล่าวเปรียบเปรยกับการเมืองไทย

รวมทั้งการชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2563 ซึ่งกลุ่มราษฎร ได้นัดหมายชุมนุมแสดงความไม่พอใจต่อรัฐบาลและตำรวจที่ใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2563 ที่บริเวณรัฐสภา โดยส่วนหนึ่งของคำปราศรัยของ อรรถพล บัวพัฒน์ หรือ “ครูใหญ่” นักกิจกรรมภาคอีสาน มีการกล่าวถึง “เผ่ามังกรฟ้า” ซึ่งเป็นกลุ่มตัวละครที่มีบทบาทสำคัญในการ์ตูนวันพีซนั่นเอง

เนื้อหาการปราศรัยในวันดังกล่าว “ปารีณา ไกรคุปต์” อดีต สส. จังหวัดราชบุรี จากพรรคพลังประชารัฐ ได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่ออรรถพลว่าเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แม้ปารีณาจะฟ้องร้องแค่เฉพาะในส่วนถ้อยคำที่กล่าวถึง “ราชประหาร” แต่ในการสืบพยาน ก็มีการยกเอาเนื้อหาในส่วนอื่น ๆ มาพิจารณา รวมถึงการกล่าวถึง “เผ่ามังกรฟ้า” ในคำปราศรัยนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ต่างยกนำมาถกเถียงช่วงชิงความหมาย เมื่อโจทก์มองว่า “เผ่ามังกรฟ้า” นั้นพยายามเปรียบเปรยให้หมายถึงสถาบันกษัตริย์ ขณะที่จำเลยนั้นยืนยันว่าไม่ใช่
 
ทำความรู้จักกับเผ่ามังกรฟ้า

เผ่ามังกรฟ้า (Celestial Dragons – 天竜人) ปรากฏตัวครั้งแรกในมังงะตอนที่ 497 เผ่ามังกรฟ้าคือบรรดาลูกหลานของเหล่าราชวงศ์ที่ร่วมกันก่อตั้งรัฐบาลโลก อาศัยอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอยู่แยกกับดินแดนของปุถุชนคนทั่วไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งสะท้อนวิธีคิดของเผ่ามังกรฟ้าที่มองตัวเองเป็นเทพ ไม่ใช่มนุษย์ทั่ว ๆ ไป

เผ่ามังกรฟ้านั้นเป็นชนชั้นที่มีอภิสิทธิ์เหนือกว่าทุกชีวิตบนโลกในการ์ตูนเรื่องวันพีซ อยู่เหนือซึ่งกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สามารถกระทำการใด ๆ ก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามกฎหมายหรือให้คำอธิบายใด ๆ รองรับ

อย่างไรก็ดี แม้จะมีอำนาจล้นพ้น และมีที่มาจากการเป็นราชวงศ์และสมาชิกล้วนเป็นราชนิกุล แต่ในการ์ตูนเรื่องวันพีซนั้น ซึ่งประกอบด้วยดินแดนต่าง ๆ มากมาย ก็ปรากฏให้เห็นว่ามีกษัตริย์ของแต่ละดินแดนแยกต่างหาก เป็นคนละตัวละครกับเผ่ามังกรฟ้า และกษัตริย์ผู้ปกครองในดินแดนต่าง ๆ เองก็มีสถานะด้อยกว่าเผ่ามังกรฟ้า

“ไอ้พวกเผ่ามังกรฟ้าที่ไม่เห็นหัวประชาชน เห็นประชาชนเป็นแค่มด ไม่เคยสำนึกในบุญคุณของประชาชน แต่ทวงบุญคุณประชาชน”

ในการสืบพยานคดีการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2563 ของอรรถพล ส่วนหนึ่งของการต่อสู้คือการช่วงชิงเพื่อตีความหมายของคำว่า “เผ่ามังกรฟ้า” ที่ปรากฏในคำปราศรัย ของว่าหมายถึงสถาบันกษัตริย์ และข้อความเป็นการหมิ่นประมาทกษัตริย์ เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 112 หรือไม่อย่างไร

พยานโจทก์ที่เบิกความถึงคำปราศรัยในส่วนของเผ่ามังกรฟ้าอย่างชัดเจนคือ วิศรุต สำลีอ่อน, อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ และ อานนท์ กลิ่นแก้ว ส่วนปารีณาซึ่งเป็นผู้กล่าวหานั้น ไม่ได้ติดใจในส่วนนี้ แต่ฟ้องแค่ในส่วนของคำว่า “ราชประหาร” เท่านั้น



อ.นิติฯ มศว. เชื่อว่า “เผ่ามังกรฟ้า” ในการ์ตูน One Piece คือกษัตริย์ แม้ยอมรับว่าในมุมผู้อ่านอาจตีความต่างจากตนได้

วิศรุต สำลีอ่อน อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ หลักสูตรนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เข้าเบิกความในฐานะพยานโจทก์ เบิกความเกี่ยวกับ “เผ่ามังกรฟ้า” ในการ์ตูนเรื่องวันพีซ เห็นว่าเผ่ามังกรฟ้านั้นมีสถานะเป็นกษัตริย์ในการ์ตูนเรื่องดังกล่าว แม้พยานจำไม่ได้ว่ามีการระบุโดยตรงในการ์ตูนหรือไม่ แต่ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ (Ofiicial Website)* ระบุว่าเผ่ามังกรฟ้ามีสถานะเป็นกษัตริย์

อย่างไรก็ดี พยานยอมรับว่าในมุมของผู้อ่านคนอื่น อาจมีตีความเผ่ามังกรฟ้าต่างจากพยานก็ได้

*ผู้เขียนบทความนี้ลองสำรวจเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของการ์ตูนเรื่องดังกล่าว คือเว็บไซต์ one-piece.com

ไม่พบว่ามีข้อมูลว่าเผ่ามังกรฟ้าเป็นกษัตริย์แต่อย่างใด



อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ เชื่อว่าการปราศรัยถึง “เผ่ามังกรฟ้า” เพื่อพาดพิงกษัตริย์ โดยนำตัวละครในการ์ตูนมาใช้เบี่ยงเบนประเด็น แม้ยอมรับว่าไม่เคยรู้จักการ์ตูนเรื่องวันพีซ

อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เบิกความในฐานะพยานโจทก์ เบิกความแม้พยานจะไม่ได้ดูการ์ตูนเรื่องวันพีซ แต่พยานมองว่าคำว่า “เผ่ามังกรฟ้า” ในคำปราศรัยของจำเลย ย่อมเป็นการหมิ่นพระมหากษัตริย์ แม้ตัวพยานเองจะไม่เข้าใจคำดังกล่าวดีนักว่าหมายความว่าอะไร เชื่อว่าจำเลยมีเจตนากล่าวถึงเพื่อมาอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ เพียงแต่ใช้ตัวละครในการ์ตูนเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นเท่านั้น



ประธานกลุ่ม ศปปส. เชื่อว่า “เผ่ามังกรฟ้า” หมายถึงกษัตริย์ เพราะในประเทศจีน มังกรคือสัญลักษณ์ที่สื่อถึงกษัตริย์

อานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานกลุ่ม ศปปส. เข้าเบิกความในฐานะพยานโจทก์ พยานจะไม่เคยดูการ์ตูนเรื่องวันพีซ และไม่รู้ว่าตัวละคร “เผ่ามังกรฟ้า” ในการ์ตูนมีประวัติเช่นไร แต่เมื่อฟังการปราศรัยโดยได้ยินคำว่า “เผ่ามังกรฟ้า” ก็ทำให้นึกถึงพระมหากษัตริย์ และเชื่อว่าเผ่ามังกรฟ้าหมายถึงกษัตริย์ โดยอิงจากการที่ในประเทศจีน มังกรนั้นก็เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงกษัตริย์



ครูใหญ่ยืนยันว่า “เผ่ามังกรฟ้า” ไม่ใช่กษัตริย์ แต่เป็นผู้มีอำนาจเหนือกษัตริย์ ชี้ในวันพีซมีตัวละครที่เป็นกษัตริย์อยู่แล้ว เชื่อว่าผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เข้าใจสิ่งที่ตนจะสื่อดี

อรรถพล บัวพัฒน์ หรือ “ครูใหญ่” นักกิจกรรมภาคอีสาน จำเลยในคดีนี้เข้าเบิกความในฐานะพยานจำเลย โดยชี้ว่าในการ์ตูนวันพีซ ระบุว่า “เผ่ามังกรฟ้า” คือชนชั้นสูง มีสถานะราวกับเทพ เป็นผู้ก่อตั้งรัฐบาลโลก ไม่ใช่กษัตริย์ แต่เป็นผู้มีอำนาจเหนือกษัตริย์ และในการ์ตูนวันพีซเองก็มีการนิยามกษัตริย์ไว้ต่างหาก ดังนั้น กษัตริย์กับเผ่ามังกรฟ้า จึงเป็นคนละตัวละครกัน

ครูใหญ่ยังเชื่อว่าในวันชุมนุม ผู้ชุมนุมที่มาฟังตนปราศรัยนั้นส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เคยอ่านการ์ตูนเรื่องนี้ ก็เข้าใจดีว่าพยานพูดถึงเผ่ามังกรฟ้าโดยหมายถึงอะไร



ศาลชี้ว่า คำว่า “เผ่ามังกรฟ้า” แม้จำเลยจะบอกว่าเป็นการกล่าวถึงตัวละครในการ์ตูน แต่เมื่อพิจารณาบริบทการปราศรัย เห็นว่าเป็นการพูดเพื่อพาดพิงกษัตริย์

30 ก.ย. 2568 ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดฟังคำพิพากษาคดี โดยเห็นว่าอรรถพลมีความผิดตามมาตรา 112 จำคุก 3 ปี โดยในส่วนที่เมื่อพูดถึงเผ่ามังกรฟ้า ศาลมองว่าจำเลยมีการชูนิ้วขึ้นฟ้าเพื่อสื่อให้ประชาชนที่มาฟังเข้าใจว่าตนมีเจตนาจะสื่อถึงสิ่งใด

เมื่อนำความหมายของคำว่า “ราชประหาร” ซึ่งศาลแปลความว่าคือ การที่ประชาชนจะใช้กำลังเพื่อเปลี่ยนแปลงกษัตริย์ และพิจารณาอวัจนภาษาของจำเลย “เผ่ามังกรฟ้า” มาประกอบกัน จึงแสดงให้เห็นว่า จำเลยจึงมีเจตนาจะเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงตีความว่าพยายามพูดพาดพิงถึงกษัตริย์ แม้ศาลชั้นต้นตีความเช่นนี้ แต่จำเลยยังสามารถใช้สิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาต่อไปได้

ทั้งนี้ นอกจากคดีนี้ ในบรรดาคดีการเมืองต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ พบว่าเคยมีคดีของ “ตี้” วรรณวลี ธรรมสัตยา และเพื่อนที่โพสต์ภาพถือป้ายข้อความในการชุมนุมของนักเรียนเลวช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่เคยมีการกล่าวถึงเรื่องวันพีซในศาล โดยข้อความบนป้ายบางส่วนที่ถูกกล่าวหา มีข้อความว่า “สายตากูไม่ได้มีฮาคิ” ซึ่ง “ฮาคิ” (Haki – 覇気) คือพลังประเภทหนึ่งของตัวละครในโลกวันพีซ โดยฝ่ายจำเลยพยายามต่อสู้ว่าเป็นเพียงข้อความที่เป็นมุกตลกของผู้อ่านวันพีซ แต่คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ก็มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสามคนเช่นกัน โดยพิพากษาข้อความในส่วนอื่น ๆ เป็นหลัก โดยคดียังอยู่ระหว่างฎีกา

.

.

อ่านบันทึกสืบพยานในคดีนี้

บันทึกสืบพยานคดี ม.112 “ครูใหญ่” เหตุปราศรัยแยกราชประสงค์ กล่าวคำว่า “ราชประหาร-เผ่ามังกรฟ้า” พร้อมวิพากษ์วิจารณ์การแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์

https://tlhr2014.com/archives/78990